คืนชีพคู่จิ้น พ่อหมีแม่หมี อีกครั้ง หลัง เต้ย- พงศกร เมตตาริกานนท์ และ เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ โคจรมาเจอกันอีกครั้งในรอบ 5 ปี กับละครโรแมนติกคอมเมดี้ “บุพเพร้อยร้าย” ทางช่อง 3 หลังจับคู่กันจิ้นดังพลุแตกมาแล้วในละคร “ซ่อนรักกามเทพ” เลยต้องถามถึงความลุ้นคราวนี้ว่าจะพาแฟนๆฟินได้อีกมั้ย เริ่มจากคาแรกเตอร์ของแต่ละคน? เต้ย “ผมรับบทชินกฤต คาแรกเตอร์ผมเป็นทนายปากจัด เปิดเป็นบริษัทโมเดลลิง แต่ดันมีข่าวฉาวว่านักแสดงไปขายตัวเลยมีคนเข้ามาสืบหาข่าว”เชียร์ “รับบท มุกมณี ในเรื่องนี้เชียร์รับบทเป็นรอง บก. เว็บไซต์ ชื่อวูเมนออนเดอะท็อป แล้วก็พบว่ามีข่าวที่น่าสนใจก็คือข่าวนี้ที่มีเบื้องลึกซึ่งเป็นบริษัทที่พระเอกอยู่ ทำให้เราได้เจอกัน” เปิดมาก็เป็นฉากกุ๊กกิ๊กอยู่บนเตียงแล้วต่อไปจะยิ่งกว่านั้นมั้ย? เชียร์ “ในเหตุการณ์นั้นยังไม่ใช่ตอนที่อยู่ด้วยกัน แต่เป็นความบังเอิญของอะไรบางอย่าง มันมีความโรแมนติกให้เห็นเยอะกว่านั้น”จริงๆแล้วกดดันมั้ย เพราะคนจะคาดหวังว่าคู่นี้กลับมาต้องหวานต้องฟิน?เต้ย “ในมุมผมเป็นนักแสดง เราก็ทำเต็มที่ในส่วนของเราแล้ว ส่วนที่ว่าคนจะชอบหรือไม่ชอบมันขึ้นอยู่กับคนดูด้วยว่า ณ ตอนนั้นคนดูอยากดูละครแบบไหน ถ้าคลายเครียดก็มาดูนี่คนดูจะได้สนุกๆ”จริงๆทั้งคู่กลัวมั้ยว่ากลับมาเล่นด้วยกันคราวนี้ กระแสจะไม่เหมือนเดิม? เต้ย “ก็ตอบไม่ได้นะครับ”เชียร์ “ตอบไม่ได้แต่ก็ได้แต่อ้อนวอนให้มันปังๆ”เราคาดหวังไปถึงกระแส พ่อหมีแม่หมีจะกลับมาอีกครั้งเลยมั้ย? เต้ย “ยุคมันเปลี่ยนเร็วเนอะ จริงๆละครเรื่องนี้มันก็มีหลายคู่”เชียร์ “ถ้าถามเชียร์ก็คืออย่างที่บอกเลยค่ะ ชอบหรือไม่ชอบมันก็คือรสนิยม ความสุขใจของคนดู ถึงกับต้องเป็นกระแสเหมือนเดิมเลยมั้ย เราก็ตอบไม่ได้ มันอยู่นอกเหนือสิ่งที่พวกเราจะทำได้เนอะ เราทำของเราเต็มที่แล้ว”เต้ย “มันต่างออกไปจากตอนนั้นกับตอนนี้”เชียร์ “พอจากเรื่องที่แล้วมีบ้านหมีขึ้นมา วันนี้เราก็ไม่รู้ หายไป 5 ปีจะกลับมารวมตัวกันมั้ย มากน้อยแค่ไหน เรารู้สึกว่าแค่อยู่ซัพพอร์ตกันก็ดีใจแล้ว” ฟีดแบ็กบ้านหมีว่ายังไงบ้าง?เต้ย “เค้าก็รอดูกันครับ เห็นมีทำโปรเจกต์ขึ้นจอ LED การที่เราได้โคจรกลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้ง”เชียร์ “อันนี้มันก็เหนือความคาดหมายแล้วค่ะ ไปขึ้นจอสี่แยกปทุมวันด้วย”พอเห็นบ้านหมีซัพพอร์ตแล้ว มันหายเหนื่อยใจชื้นขึ้นมั้ย? เต้ย “ดีใจนะที่เค้าซัพพอร์ตเรา ที่เค้ายังอยู่ยังรักเต้ย-เชียร์”เชียร์ “ในมุมเชียร์นะ แค่ข้อความเล็กๆ ที่ส่งมาให้กับพวกเรา มันก็เป็นกำลังใจแล้ว”ส่วนตัวทั้งคู่พอกลับมาร่วมงานกันเคมีเข้ากันมากน้อยแค่ไหน ต้องมีการปรับจูนกันมากน้อยมั้ย? เต้ย “ไม่ได้ปรับอะไรเนอะ”เชียร์ “จะบอกว่าเคมีครั้งที่แล้วมันก็ไม่ได้รู้เนอะ”ถามถึงฉากเลิฟซีน มีเยอะมั้ย มีเขินกันบ้างรึเปล่า เห็นว่าจูบเยอะที่สุด? เชียร์ “สำหรับเชียร์ ตั้งแต่ที่เล่นมา เรื่องนี้เยอะที่สุด แต่ว่ามันเป็นการมีแบบมีเหตุผล จูบมีความหมาย มีความหวานซึ้งใจละลาย” เชียร์เปลืองตัวเหรอ? เชียร์กล่าว “ไม่ได้ใช้คำว่าเปลืองตัว ถ้าเชียร์เปลืองตัว เต้ยก็เปลืองตัวได้เหมือนกัน (หัวเราะ) อย่าใช้คำนั้นเลย เพราะมันเป็นเหตุผล ฟีลลิ่งของความรู้สึก ของการเติมเต็มความรู้สึกให้ซีนมันสมบูรณ์ มันเป็นความรู้สึกที่สวยงาม”ต้องขออนุญาตใครกันก่อนรึเปล่า? เชียร์ “ดิฉันไม่ต้องขอค่ะ มันเป็นงาน”เต้ย “ไม่ต้องขอครับ ทำตามหน้าที่ มันเป็นงาน”เชียร์เกร็งหรือเปล่า เพราะเราก็ไม่โสด ต้องมาเล่นเลิฟซีนเยอะๆ? เชียร์ “ไม่เกี่ยวเลยค่ะ จะบอกว่างานคืองาน และทำไปตามความรู้สึกของตัวละครค่ะ อย่างเรื่องนี้เลิฟซีนเยอะ ก็ไม่ต้องบอกเค้า ให้ไปดูเอง เรื่องที่แล้วดุเดือดกว่านี้ (หัวเราะ) ถามว่าเค้าโอเคมั้ยกับการที่เราเล่นเลิฟซีน คือเค้าต้องโอเคตามฑิฆัมพรค่ะ ฑิฆัมพรโอเคก็ต้องโอเค”จะให้เค้าดูผลงานหรือฉากเลิฟซีนของเรามั้ย? เชียร์ “ต้องดูสิ ผลงานของฑิฆัมพรต้องดู ทำด้วยความตั้งใจและจะได้เป็นกำลังใจให้นักแสดงทุกคนด้วย”กลับมาร่วมงานกับคู่จิ้นอย่าง เต้ยในครั้งนี้ บิ๊กว่ายังไงบ้าง เค้าได้มีแซว ให้กำลังใจ หรือหวงในเรื่องบ้างมั้ย? เชียร์ “เชียร์ว่ามันปกติเลยนะ การได้วนกลับมาเจอ จริงๆจะเป็นคู่จิ้น คู่ขวัญ หรือจะใครที่เราเคยทำงานด้วย มันเป็นปกติเลยค่ะ”อย่างเต้ยรู้สึกยังไงบ้าง เพราะครั้งนี้เชียร์ มีตัวจริงแล้ว ทำให้เวลาเข้าฉากเลิฟซีน ต้องทำให้เรามีขอบเขตมากขึ้นมั้ย? เต้ย “ผมว่ามันเป็นเรื่องของงานมากกว่า เราก็ทำเต็มที่ในส่วนนั้น เป็นตัวละครให้มันเต็มที่”เชียร์ “เชียร์ว่างานที่ดี ก็คืองาน เรื่องส่วนตัวเราก็เอาไว้ข้างหลัง”เชียร์พอมีแฟนตัวจริง กลัวมั้ยว่าแฟนๆ จะรู้สึกจิ้นหรือความฟินคู่เราจะน้อยลง ไม่เหมือนตอนแรกที่โสดทั้งคู่และยังทำให้แฟนๆได้ลุ้น? เชียร์ “ถ้าถามเชียร์ เป้าหมายนักแสดงของเชียร์คือการทำผลงานแสดง ทีนี้เรื่องอื่นๆที่จะเกิดขึ้นมา แล้วเป็นพลังด้านบวก หรือเป็นกำไรด้านอื่นๆที่ได้ตอบกลับมา มันก็เป็นอีกด้านนึง แต่สำหรับเชียร์มองว่าท้ายที่สุดเราเป็นนักแสดง เรามุ่งหลักไปที่การทำงานที่มันมีคุณภาพ เราอาจไม่ได้มองว่าเราทำตรงนี้ เพื่อให้มีกระแสหรือเราจะทำอันนี้เพื่อให้มันไปต่อในเรื่องอะไรที่ไม่ใช่เรื่องการแสดง เชียร์เลยตอบว่าสำหรับเชียร์เราไม่ได้มองเรื่องอื่นนะ แต่อย่างที่บอกว่าครั้งแล้วที่แล้ว เราเล่นแล้วมีกระแสนี้ขึ้นมา เชียร์มองว่ามันเป็นกำไรอีกด้านนึง และเชียร์ก็เชื่อว่าเต้ยเข้าใจเรื่องนี้ว่า การที่เป็นนักแสดงแล้วทำผลงานที่โฟกัสเรื่องการแสดง” สุดท้ายผลงานจะพิสูจน์ความปังของละครเรื่องนี้เอง? เชียร์ “ใช่ค่ะ มันคือการพัฒนา เพื่อให้งานเราพัฒนาอาชีพไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าเรื่องอื่นที่มันจะเกิดขึ้นมา อย่างกระแส หรือครอบครัวหมีเราจะไม่ประทับใจ มันเป็นเรื่องที่เราประทับใจมาก เพราะมันคืออีกด้านที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อนค่ะ ทุกวันนี้เรามองเรื่องนี้เป็นหลัก นั่นคือเรื่องของการแสดง เรื่องผลงาน แต่ถ้ามีกระแสด้านอื่นมา เราก็ขอบคุณและซาบซึ้งเสมอนะคะ”เรื่องนี้ถ่ายไปพักนึงแล้ว พอได้กลับมาโปรโมตด้วยกัน เรามองเห็นการเติบโตของอีกคนยังไง? เต้ย “พี่เชียร์เค้าเก่งอยู่แล้ว”เชียร์ ถาม การแสดงเหรอ? “แกล้งคนเก่ง (หัวเราะ) การแสดงเค้าเก่งอยู่แล้วคอมเมดี้นี้ไม่ต้องห่วงเลย”เชียร์ “คนนี้ในเรื่องการทำงานเค้าก็จะมีความตั้งใจอยู่แล้ว เราก็จะเห็นความเป๊ะที่สม่ำเสมอ วินัยที่สม่ำเสมอของเค้า เป็นจุดที่เราชื่นชมอยู่ลึกๆ แต่จุดที่พัฒนาไปมากเหลือเกินก็คือจุดหลังกล้อง เค้าก็จะมีวิชาในด้านมืดที่เติบโตขึ้นเยอะมาก แกล้งน้องๆคนอื่นในกอง”เต้ย “เอามาสู้เค้าไง”เชียร์ “เต้ยยังไงก็ไปได้อีกไกลอยู่แล้ว เพราะเค้าเป็นคนที่ตั้งใจจริงๆ เป็นตัวอย่างนักแสดงที่ดีจริงๆ”.เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ