ตอนที่ 15
กลุ่มของสารวัตรชัชพากันกลับมายังเต็นท์บัญชาการ พบศพตำรวจตระเวนชายแดนที่ถูกพวกนายพลเก้ายอดยิงตาย ทุกคนตกใจกระจายตัวกันตรวจสอบ ปรากฏว่าไม่รอดแม้แต่คนเดียว
“ทำไมเป็นแบบนี้”
เมื่อเข้าไปในเต็นท์ก็พบแต่ความว่างเปล่า ไม่มีฝนกับชาดา...หินพบศพหนึ่งแต่งตัวไม่เหมือนเจ้าหน้าที่ไทย ตรวจสอบชั่วครู่ก็ฟันธงว่าเป็นทหารของนายพลเก้ายอด แสดงว่าพวกมันมาจับพวกเราไป
“จะลุยมั้ย” เกดถามทุกคน
หิน ทิม ลม ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าลุย! สารวัตรชัชจึงหันมาหาอาโป ถามว่าเราจะเข้าไปที่ค่ายนั่นได้ยังไง
“สบายมาก” อาโปตอบอย่างมั่นใจ
เวลาเดียวกันนั้น โสภณกำลังโมโหสุดขีดเมื่อรู้ว่าสารเคมีที่จะทำอาวุธชีวภาพถูกปล้นไป
“ไอ้บัดซบเอ๊ย มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง”
ปลัดชัยและผู้กำกับพงษ์หน้าสลด ขณะที่สมเกียรติตั้งใจฟังเพื่อเก็บข้อมูล
“ผมก็ไม่ทราบครับ แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุก็เห็นแต่ศพ”
“ฝีมือใคร”
ผู้กำกับพงษ์คาดเดาว่าอาจเป็นพวกสารวัตรชัช โสภณได้ฟังยิ่งไม่พอใจ ตวาดลั่น
“อาจจะงั้นหรือ ขอความแน่นอน ฉันไม่ชอบทำงานแบบคาดเดา”
“ผู้กำกับพงษ์พูดถูกแล้ว” เสียงนายพลเก้ายอดดังเข้ามาก่อนตัว ทุกคนหันมองเป็นตาเดียว
“ว่าไงนะท่านนายพล เป็นฝีมือพวกนั้นจริงๆหรือ”
“ตามมา...จะให้ดูอะไร” นายพลเก้ายอดไม่ตอบคำถามแต่เดินนำออกไปยังจุดที่เคยคุมขังอาโป ซึ่งบัดนี้มีฝน ชาดา และตำรวจไทยถูกขังแทน
ทุกคนชักแถวเข้ามา สมเกียรติตกใจที่เห็นชาดาและฝน แต่เก็บซ่อนอาการเพื่อไม่ให้ใครสงสัย และยังคงเล่นละครต่อไปเพื่อความแนบเนียนเมื่อชาดาร้องเรียกเขาว่าพ่อ
“ยังมีหน้ามาเรียกฉันว่าพ่ออีกหรือ นังลูกไม่รักดี”
ฝนมองออกว่าสมเกียรติเล่นละคร จึงรับลูกบอกชาดาว่า “ไม่ต้องเรียกมันว่าพ่อหรอก คนมันไม่มีสำนึก ไม่กลับตัวกลับใจ”
ชาดาชะงักไปนิด แต่พอเห็นสายตาฝนที่พยายามส่งซิกก็เข้าใจ ปลัดชัยรำคาญตวาดฝนอย่าพูดมาก นายพลเก้ายอดจับตามองคนโน้นคนนี้ก่อนโยนความผิดให้พวกฝน
“พวกมันนั่นแหละเป็นคนไปปล้นรถสารเคมี...คง
ไม่ปฏิเสธนะ”
“ใช่ พวกเราไม่ยอมให้พวกแกมาบ่อนทำลายชาติหรอก ไอ้พวกสารเลว” ฝนด่ากราด
“ไม่ต้องพูดมาก ยิงมันทิ้งให้หมดเลย” ผู้กำกับพงษ์ สั่งเฉียบ โสภณเห็นด้วย สั่งเอาตัวสองสาวกับเจ้าหน้าที่ไทยออกมาประหารให้หมด
สมเกียรติตกใจรีบหาทางออก “เดี๋ยว! ถ้าฆ่าพวกนี้เราก็หมดโอกาสเอาของคืนน่ะสิ”
“เสี่ยหมายความว่ายังไง”
“ให้มันเอาของมาแลกกับคนของมันไปสิ”
“ก็ดี แล้วจะส่งข่าวมันยังไง”
ผู้กำกับพงษ์มองไปที่ตำรวจไทย “ให้ไอ้หมอนั่นไปแจ้งข่าวพวกมัน”
นายพลเก้ายอดลอบยิ้มเจ้าเล่ห์...เวลานั้นจอปาอยู่ในโรงรถที่ซุกซ่อนสารเคมีที่ปล้นมา เขาสั่งทหารเอาผ้าคลุมของในรถให้มิดชิดและห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด
ooooooo
เคร่งรู้จากปลัดชัยว่าสารเคมีถูกปล้นก็คิดเช่นเดียวกับคนอื่นๆว่าเป็นฝีมือพวกหิน จึงถามปลัดชัยว่าจะให้ตนไปจัดการพวกมันเลยไหม
“ไม่ต้อง พวกเราจัดการแล้ว ท่านโสภณสั่งงานนายแล้วใช่ไหม”
“ครับ ผมกำลังจะเดินทาง”
“นายไปเอาปืนที่คนของฉันตามที่อยู่นี้” ปลัดชัยยื่นนามบัตรให้ เคร่งรับมาและถามว่าจะลงมือเมื่อไหร่ “นายกฯจะมาเปิดงานงานหนึ่ง งานจะมีพิธีบนดาดฟ้าตึก นายไปจัดการเอารายละเอียดอื่นๆ คนของฉันจะบอกนายเอง”
เคร่งรับคำแข็งขัน...สมเกียรติแอบฟังอยู่หลังห้องพัก คิดหาทางออกสกัดพวกมันทำชั่ว
เมื่อโสภณกับเคร่งพร้อมเดินทางแล้ว โสภณฝากปลัดชัยช่วยดูทางนี้แล้วตนจะกลับมาพร้อมความสำเร็จ
ฝ่ายนายพลเก้ายอดมั่นใจว่าตัวเองเป็นต่อ ฟังจอปาเข้ามารายงานว่าเก็บของไว้มิดชิดด้วยรอยยิ้ม แต่พอจอปาถามว่าภารกิจจบแล้วใช่ไหม เขาตอบอย่างเจ้าเล่ห์ว่า
“ยัง...พวกมันปล่อย ตชด.คนนึงไปส่งข่าวเรื่องแลกตัวประกันกับของที่ปลัดชัยคิดว่าพวกนั้นปล้นไป”
“จะให้ทำยังไง”
“เอาคนไปตามเก็บพวกมันให้หมด จะได้ปริปากไม่ได้”
จอปาพยักหน้าเข้าใจแล้วกลับออกไป
ooooooo
ในที่คุมขัง ชาดาบ่นเป็นห่วงสมเกียรติ กลัวพวกมันจับได้ แต่ฝนเชื่อว่าสมเกียรติมีไหวพริบไม่จนแต้มง่ายๆ
สักครู่มีทหารของนายพลเก้ายอดเข้ามาลากตัวเจ้าหน้าที่ไทยคนนั้นออกจากที่คุมขังเพื่อปล่อยตัวตามแผน พอเขาวิ่งคล้อยหลัง จอปาสั่งคนของตนแกะรอยไปห่างๆ
สารวัตรชัชยังมีสถานที่บัญชาการสำรองอีกแห่งที่มีเครื่องมือสื่อสารและอุปกรณ์ครบครัน เขาพาพวกหินไปดู ลมชื่นชม แต่หินท่าทางไม่ใส่ใจนัก ร้อนใจอยากรู้ว่าเราจะบุกเมื่อไหร่ อาโปบอกว่ากลางคืนเหมาะที่สุด สารวัตรชัชจึงให้ทุกคนเตรียมอาวุธให้พร้อม เราจะออกเดินทางตอนเย็น
ที่ค่ายนายพลเก้ายอด สมเกียรติหาทางมาพบชาดากับฝนในห้องคุมขังจนได้ เขามีเรื่องสำคัญต้องบอกให้รู้
“พ่อมาได้ยังไง พวกนั้นมันไม่สงสัยรึไง”
“ไม่มีเวลาแล้ว เอานี่ไป” สมเกียรติส่งกระดาษแผ่นหนึ่งให้ชาดา “ทั้งหมดพ่อเขียนไว้ในนี้ พวกมันกำลังคิดก่อการใหญ่ พ่อต้องไปล่ะ แล้วจะหาทางช่วย”
สมเกียรติรวบรัดกลัวใครมาเห็น...ชาดาคลี่กระดาษออกอ่านแล้วตกใจ
“แย่แล้ว พวกมันกำลังลอบสังหารนายกรัฐมนตรี”
“ถ้านายกฯตาย...รองนายกฯก็ต้องขึ้นแทน”
“แสดงว่ารองนายกฯนี่แหละตัวใหญ่จริง”
สองสาววิเคราะห์แล้วพากันตื่นตระหนก...
ผ่านไปไม่นาน เจ้าหน้าที่ไทยที่ได้รับการปล่อยตัวก็กลับมาบริเวณศูนย์บัญชาการสำรองของสารวัตรชัช แต่ไม่ทันได้พบใครสักคน จอปาที่นำทหารแกะรอยตามมาก็สาดกระสุน สั่งฆ่าทุกคนที่นี่ให้หมด
เสียงปืนทำให้พวกสารวัตรชัชตื่นตัว อาโปถูกสั่งให้คุมวิทยุสื่อสารไว้ ส่วนคนอื่นๆออกไปกราดยิงสู้กับพวกของจอปา
สารวัตรชัชเจอเจ้าหน้าที่ไทยคนนั้นจึงซักถามเรื่องราว ทั้งที่เสียงปืนยังดังไม่หยุด
“มันแกล้งปล่อยผม แล้วตามผมมา...พวกนั้นจับคุณฝน คุณชาดาไป มันบอกว่าให้ผมมาส่งข่าวให้สารวัตรเอาของที่ปล้นไปแลกตัว”
เกดสีหน้าแปลกใจ “ของที่ปล้น? เราไม่ได้ปล้นเสียหน่อย”
“แสดงว่าต้องมีคนปล้นไปจริงๆ”
“ที่ไม่ใช่เรา...”
ยังไม่ทันที่สารวัตรชัชกับหมวดเกดจะคุยต่อ ทิมตะโกนเข้ามาเสียงแข็ง
“จะคุยกันอีกนานมั้ย มาช่วยกันหน่อย”
สิ้นเสียงทิม ตำรวจไทยโดนยิงร่วงไปอีกนาย หมวดเกดกับสารวัตรชัชเคลื่อนตัวออกมาช่วยยิง ส่วนหินกับลมอยู่อีกมุมมองหน้ากัน ลมตัดสินใจในนาทีนั้น
“แบบนี้ไม่รอดแน่...ไปหิน ต้องบุกแล้ว”
หินพยักหน้ารับแล้ววิ่งอ้อมไปคนละด้านกับลม
ooooooo
สมเกียรติตัดสินใจลอบเข้ามาที่ห้องวิทยุ ใช้ปืนจี้ทหารของนายพลเก้ายอดให้เปิดหาคลื่นทหารไทย... ไม่นานนักก็สามารถสื่อสารกับอาโปที่เฝ้าอยู่ในเต็นท์บัญชาการสำรองของสารวัตรชัชได้
แต่จู่ๆนายพลเก้ายอดถือปืนตามเข้ามาจับได้ว่าสมเกียรติทรยศพวกปลัดชัย เข้ามาเป็นไส้ศึกให้ทางการไทย
“เสี่ยนี่แน่จริงๆ ไม่มีใครสงสัยเลย”
สมเกียรติทำใจดีสู้เสือ พลางเปิดเสียงวิทยุไว้ อาโป จึงได้ยินการสนทนานั้นด้วย
“นายพลเก้ายอด ฉันยอมให้พวกนี้ทำร้ายประเทศฉันไม่ได้”
“ฉันก็ยอมให้พวกมันมาสร้างโรงงานอาวุธชีวภาพในรัฐของฉันไม่ได้”
“พวกฉันปล้นอาวุธไปแล้ว ท่านไม่ต้องกลัว”
“ใครบอกว่าพวกเสี่ยปล้นล่ะ ฉันต่างหากที่เอามันไป”
“อ้าว...แล้วที่อาโปบอกพิกัดไปล่ะ”
“มันเป็นแผนของฉันทั้งนั้น”
“แล้วสารนั่นล่ะอยู่ที่ไหน”
“อยู่กับฉันนี่แหละ...รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์” ขาดคำของนายพลเก้ายอด เสียงปืนดังเปรี้ยง!
อาโปได้ยินชัด เข้าใจว่านายพลเก้ายอดยิงสมเกียรติ จึงรีบออกไปรายงานสารวัตรชัช
ส่วนลมกับหินที่วิ่งอ้อมไปด้านหลังค่าย พวกเขาสยบจอปาลงได้ แล้วบังคับให้มันนำพาเข้ามาในค่ายเพื่อค้นหาสารเคมีร้ายแรงที่ปล้นมา แต่จอปาลูกเล่นพยายามส่งสัญญาณให้นายพลเก้ายอดรู้ ความโกลาหลจึงเกิดขึ้น
ooooooo










