ตอนที่ 15
เคร่งและคนของผู้กำกับพงษ์แฝงตัวอยู่ในความมืดบริเวณบ้านป้าของชาดาหมายสังหารพวกหินให้หมดทุกคน!
แต่ไม่ง่ายอย่างที่มันคิด...หิน ฝน ลม และชาดาแม้ไม่รู้ตัวมาก่อนแต่ระมัดระวังตัวกันอยู่แล้ว เคร่งโดนหินฟาดด้วยไม้หน้าสามสลบเหมือด ส่วนคนอื่นๆโดนยิงตายหมด พอเคร่งฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องสอบสวนภายในค่ายทหาร
ผู้พันสุรสีห์ให้โอกาสเคร่งพูดความจริงว่าพวกปลัดชัยกำลังจะทำอะไร เพื่อที่โทษหนักจะได้เป็นเบา แต่มันไม่ยอมปริปาก...เมื่อผู้กำกับพงษ์รู้ว่าเคร่งทำงานพลาดก็หงุดหงิดหัวเสีย ส่วนปลัดชัยกลัวเคร่งจะคาย
ความลับหากโดนสอบสวนอย่างหนัก สมเกียรติร่วมวงสนทนาอยู่ด้วย ถือโอกาสถามพวกเขาว่ากำลังจะทำอะไรกัน
ปลัดชัยยอมบอกเรื่องสร้างโรงงานผลิตอาวุธชีวภาพ สมเกียรติคาดไม่ถึง หลอกถามเพื่อเก็บข้อมูลไว้รายงานสารวัตรชัช แต่เมื่อเขาจะให้อาโปไปส่งข่าวเรื่องวันเวลาที่พวกปลัดชัยจะขนสิ่งของและสารเคมีมาทำอาวุธชีวภาพ กลับโดนจอปาลอบจับสังเกตโดยไม่รู้ตัว
อาโปนำกระดาษจดข้อความที่ได้จากสมเกียรติมาที่ห้องวิทยุเพื่อจะส่งข่าวไปยังทีมของสารวัตรชัช แต่ไม่สำเร็จเพราะจอปาขัดขวาง
จอปานำตัวอาโปมาให้นายพลเก้ายอดสอบสวนจนเขาต้องพูดความจริงว่าทำงานให้เจ้าหน้าที่ไทย จากนั้นจอปาก็ให้อาโปส่งข้อมูลที่ผิดไปให้สารวัตรชัช ส่วน
เขาจะไปชิงเอาของพวกนั้นมาตามคำสั่งของนายพลเก้ายอด
พวกสารวัตรชัชเชื่อตามข้อมูลที่ได้มา จึงเตรียม
พร้อมปฏิบัติการ แต่ก่อนวันลงมือทิมมาปรากฏตัวเพราะเป็นห่วงเกด โดยบอกตามตรงว่าตนลาออกจากตำรวจแล้ว เกดตกใจมากต่อว่าเขายกใหญ่
ลมกับหินรู้จากประดับว่าทิมไปหาเกด ต่างพากันเป็นห่วง และคิดว่าต้องรีบตามไปเพราะมีข่าวแจ้งว่าสมเกียรติกับอาโปขาดการติดต่อ...ลม หิน ฝน และชาดาจึงออกเดินทางกันทันที
ส่วนเคร่งที่โดนจับอยู่ในค่ายทหาร เขาได้รับความช่วยเหลือจากโสภณ นักการเมืองชื่อดังที่ทำทีเข้ามาดูหน้าคนขายชาติแล้วทำทีโดนเคร่งแย่งปืนจากเอวมาจี้เขาเป็นตัวประกัน บังคับให้ขับรถออกไปก่อนจะหยุดรถกลางซอยแล้วเปลี่ยนรถคันใหม่หลบหนีลอยนวลไปได้
ที่แท้โสภณคือนายใหญ่ตัวจริงที่ใครๆต่างพากันสงสัย เขาจะเดินทางมาพบพวกปลัดชัยในวันนัดรับส่งสารเคมีที่ทุกคนรอคอย
ooooooo
สมเกียรติกระวนกระวายที่อาโปหายตัวไป แต่ไม่กล้าถามใครเพราะกลัวผิดสังเกต ด้านนายพลเก้ายอดที่คิดจะตลบหลังพวกปลัดชัย เขาสั่งจอปาปล่อยตัวอาโปไปเพราะมีแผนการบางอย่าง
ในที่สุดโสภณก็มาปรากฏตัวที่ค่ายนายพล
เก้ายอดพร้อมกับเคร่ง ปลัดชัยแนะนำว่าท่านคือนายใหญ่ตัวจริง สมเกียรติรับรู้อย่างคาดไม่ถึง
ขณะที่ทุกคนสนทนากันอยู่นั้น อาโปหลบหนีออกจากค่ายไปเจอพวกเกดก่อนทั้งหมดจะพากันกลับมาที่เต็นท์บัญชาการ อาโปเล่าให้ทุกคนฟังว่า
“ผมถูกจับได้ แล้วหนีออกมา ตอนแรกเสี่ยสมเกียรติจะออกมาด้วย แต่...”
“แต่ทำไม...ทำไมพ่อฉันถึงไม่มาด้วย” ชาดาเร่งเร้าเพราะเป็นห่วงสมเกียรติ
“นั่นสิ ภารกิจมันจบแล้วนี่ เรารู้แล้วว่าพวกมันจะขนอาวุธชีวภาพมา”
“แต่มีนายใหญ่อีกคนนึงมา”
“นายใหญ่?” ลมทวนคำงงๆ
ทิมบ่นอุบ “อะไรกันนักหนาเนี่ย ยังมีโผล่มาอีกหรือ”
“พอจะรู้ไหมว่าเป็นใคร” หินถาม
“ไม่ครับ แต่รู้ว่าเป็นคนสำคัญมาก”
ระหว่างนี้หน่วยเหนือรายงานเข้ามาว่าเคร่งหนีออกมาได้ คนที่ช่วยออกมาคือท่านโสภณ สารวัตรชัชตกใจ พูดโพล่งขึ้น
“ท่านโสภณ นักการเมืองใหญ่น่ะหรือ”
“ตามรายงานบอกว่าใช่ครับ”
“หรือว่าจะเป็นนายใหญ่ในสมุดบันทึกหน้า
ที่หายไป” ลมคาดเดา ส่วนทิมฟันธงว่าใช่แน่นอน!
หลังจากนั้น ลม หิน และทิมออกมาคุยกันนอกรอบ หินคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะเดินทางมาถึงจุดนี้ บวชอยู่ดีๆ เป็นมหาอยู่ดีๆ กลับต้องมาจับปืนไล่ล่าผู้ร้าย
“ก็ดีแล้วไง สมัยนี้ธรรมะใช้ปราบมารไม่ได้หรอก มันต้องตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
“คนแบบนี้คุกขังมันไม่อยู่หรอก”
“นั่นสิ เพราะความโลภตัวเดียว”
“พรุ่งนี้เราต้องออกศึกอีกครั้ง...มา” ทิมยื่นมือมาตรงหน้าเพื่อนๆ สามหนุ่มจับมือกันเตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจครั้งสำคัญในวันพรุ่งนี้
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น เรือขนาดกลางวิ่งมาตามลำน้ำ มีการขนของบางอย่าง ด้านบนมีผ้าใบคลุมมาอย่างมิดชิด เป็นไปตามข้อมูลที่พวกสารวัตรชัชได้มา
สารวัตรชัชนำทีมเกด ทิม หิน ลม อาโป พร้อมตำรวจตระเวนชายแดนอีกหลายนายมาวางแผนการเข้าโจมตีบุกชิงสารเคมีผลิตอาวุธชีวภาพ อาโปยืนยันว่ามันจะเอาของมาขึ้นที่ท่านี้แน่นอน ตนได้ยินมากับหู
แต่เมื่อทุกคนบุกขึ้นไปบนเรือเปิดผ้าคลุมออกกลับไม่พบสิ่งของเหล่านั้น มีแต่สินค้าอุปโภคบริโภคเต็มไปหมด
อีกด้านหนึ่ง จอปาพากำลังทหารของเขามาซุ่มที่ป่าข้างทางมีถนนตัดผ่าน ทั้งหมดสวมชุดปฏิบัติการ คล้ายพวกสารวัตรชัช จอปาอธิบายกับลูกทีมว่า
“รถน่ากำลังจะมาถึง...ภารกิจคือสังหารคนใน
รถให้หมด อย่าให้รอดไปได้ และอย่าให้ของในรถเสียหาย”
ทุกคนรับทราบและเพ่งเล็งไปที่รถเป้าหมายเมื่อมันเคลื่อนใกล้เข้ามา เมื่อรถวิ่งถึงจุดโจมตี ทหารของจอปาราวสิบคนก็ล้มต้นไม้ขวางถนน
คนขับรถเบรกเอี๊ยด! จากนั้นพวกจอปาก็จู่โจมอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง รัวปืนใส่อีกฝ่ายตายหมดก่อนจะปีนขึ้นไปบนรถเปิดผ้าคลุมออก พบว่าเป็นสารเคมีจริงๆ จอปาพอใจ รถขับออกไปทิ้งไว้แต่ศพที่นอนเกลื่อนกลาด
ooooooo
ที่เต็นท์บัญชาการเจ้าหน้าที่ไทย บัดนี้เสียงปืนดังด้านนอกเหมือนมีคนมาโจมตี ฝนกับชาดาอยู่กับเจ้าหน้าที่ไม่กี่นาย ทุกคนหยิบอาวุธเตรียมพร้อม
นายพลเก้ายอดนั่นเอง เขานำกำลังบุกเข้า มาและสั่งให้พวกฝนวางอาวุธ...ทุกคนรู้ว่าสู้พวกมันไม่ได้แน่ จำต้องทำตาม
ทางด้านปลัดชัย ผู้กำกับพงษ์ และลูกน้องจำนวนหนึ่งที่มารอรับของอยู่ที่จุดผ่านชายแดน เมื่อเห็นว่าเลยเวลานัดหมายไปมาก ปลัดชัยเริ่มเครียด
“นี่เลยเวลานัดมาตั้งนานแล้วนะ ทำไมของยังไม่มาอีก”
ผู้กำกับพงษ์สีหน้าไม่ดีเหมือนกัน คาดเดา “หรือว่าจะเกิดเรื่อง”
“จะเกิดเรื่องได้ยังไง เรื่องนี้มีไม่กี่คนที่รู้”
“แต่ผมตงิดๆยังไงไม่รู้”
ปลัดชัยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทร.ตาม แต่รอนานไม่มีคนรับสาย
“มันชักยังไงแล้ว ลองไปดูตามทางซิ”
ทั้งหมดขึ้นรถออกไป ใช้เวลาไม่นานก็ไปพบศพที่พวกจอปายิงตายเกลื่อน
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง”
“รถล่ะ รถไปไหน”
“ไม่มีรถ แสดงว่า...”
“เราถูกปล้น!” ผู้กำกับพงษ์ฟันธงอย่างเจ็บใจ
“หรือว่า...เป็นพวกมัน” ปลัดชัยนึกถึงพวกหินและลม...แล้วขบกรามแน่นด้วยความแค้น
ooooooo










