ตอนที่ 13
ตรินกับวริศราควงคู่กันเข้าถ้ำเพราะคนอื่นมีคู่แล้ว ตรินชอบใจมากและอดไม่ได้จะยั่วประสาทเธอ
“อย่าบอกนะว่าคุณพี่เก๋มีจิตพิศวาสผมมากถึงกับบงการให้พวกนั้นไปกันคนละคู่หาเหตุมากับผมตามลำพัง”
“คุณคิดแบบนั้นเหรอ เอาเถอะ...อยากให้ใช่ก็ใช่”
“ผมดีใจนะที่คุณคิดแบบนั้น ขอจับมือหน่อย”
วริศรายื่นมือให้เขาจับเพราะรู้ดีว่าเขาไม่ชินเส้นทางในถ้ำเท่าเธอ แต่ก็เป็นเรื่องจนได้เมื่อวิญญาณพริ้งกับเอิบแกล้งทำให้ทั้งคู่หลงทาง ตรินตกใจไม่น้อยแต่สุดท้ายก็ตามหาวริศราจนเจอ
“ลูกไม้นี่นา แกล้งทำหกล้มแล้วแกล้งถลาออกมาเจอผม”
“ไอ้บ้า! อย่ามาคิดแบบนั้นกับฉันนะ”
“ก่อนหน้านี้ทำขาพันกันหกล้มมาให้ผมกอด แล้วยังแกล้งตกน้ำให้ผมเป่าปากอีก”
ตรินเย้าขำๆแต่วริศราไม่สนุกด้วย พยายามลุกแต่ขาที่แพลงก็ทำให้ไม่ถนัด ต้องคลานไปตามทาง
“อย่าแกล้งลุกไม่ได้สิ จะหาเรื่องให้อุ้มก็ขอร้องมาตรงๆจะได้ลากไป”
“นายไม่มีปัญญาหาทางออกจากถ้ำได้ถ้าฉันไม่พาออกไป”
“ขู่หรือ ดีสิ...จะได้ทำตัวเป็นมนุษย์ถ้ำออกลูกออกหลานบานเบิกอยู่ในนี้แหละ จะมีลูกกันกี่คนครับคุณพี่เก๋”
“ไอ้บ้า ลามก หยาบคาย”
“เรื่องธรรมชาติ เรื่องปกติของคนทั้งหลาย”
“หยุดนะ ไปให้พ้น!”
“ไล่ผมหรือ ได้สิ...แปลว่าจะลุกเดินไปเองแล้วหนีผมต่อไป”
“บอกว่าไปให้พ้น!”
ตรินแกล้งผละไปแต่แอบดูเธอไม่ห่างโดยที่ วริศราไม่รู้และคิดว่าเขาแล้งน้ำใจ
“ชาตินี้จะเกลียดผู้ชายไปจนตาย จะเกลียดมันไปทุกชาติ”
วิญญาณเอิบที่ตามดูเหตุการณ์ตลอดเป็นเดือดเป็นร้อนแทนวริศราหรือพลอยในอดีตชาติ
“คุณเสริมใจร้ายมากเกินไปแล้ว ชักจะเกลียดน้ำหน้าตามคุณพลอยแล้วสิ”
วิญญาณพริ้งส่ายหน้า “สมัยนี้เขาเรียกว่า
รักต้องทรมาน มันถึงจะรักกันมาก”
“หัวเข่าคุณพลอยคงถลอกปอกเปิกหมดแล้ว โธ่...ข้าจะออกไปช่วยคุณพลอย”
“อย่านะแก ความลับแตกหมดกันพอดี ฉันจัดการเอง”
ขาดคำก็เป่ามนตร์สะกดให้วริศราเป็นลม
ตรินตกใจมากกระโจนพรวดจากที่ซ่อนไปรับร่างเธอ
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งกันขนาดนี้ ผมทำเพราะอยากตอแยให้คุณเลิกเกลียดผม”
ooooooo










