ตอนที่ 15
ศิวกรในคราบศิวัชก็สำเหนียกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล สีหน้าเคร่งเครียดจนเมฆอดทักไม่ได้
“เป็นไรวะไอ้กร...หน้าเครียดเชียว ยิ้มหน่อยเพื่อน เดี๋ยวพอคุณช่อแพรแถลงจบไอ้พวกนั้นก็ถูกจับแล้ว”
“ขอให้มันง่ายอย่างนั้นจริงๆเถอะ”
“เอ้า...ทำไม แกคิดว่าไอ้นพดลมันจะทำอะไรหรือไง”
คำพูดของเพื่อนรักทำให้ศิวกรฉุกใจคิด กลัวพวกนพดลจะเล่นสกปรก กระนั้นก็ไม่อยากคิดมาก บอกปัดดื้อๆ
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันอาจจะคิดมากไปเองก็ได้”
ooooooo
ลางสังหรณ์ของศิวกรเป็นจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ธาดาได้รับแจ้งจากลูกน้องว่ามีศพชายปริศนาถูกมัดมือมัดเท้ายัดไว้ในกระโปรงรถที่จอดหน้าตึกออฟฟิศเขมวัฒน์
เมทินีนั่นเองที่รับมอบหมายมากระตุ้นเรื่องนี้ เลขาสาวแสร้งทำเหมือนได้กลิ่นตุประหลาดๆจากรถของช่อแพร พาคนไปมุงจนกระทั่งเรื่องไปถึงหู สารวัตรหนุ่ม ธาดารีบมาตรวจสอบที่เกิดเหตุตามหน้าที่ ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลทำให้เขาอดหันไปถามเมทินีในฐานะพยานไม่ได้
“จ่าบอกว่าคุณเป็นคนได้กลิ่นคนแรก”
“ใช่...ฉันจอดรถเสร็จแล้วกำลังจะเดินเข้าออฟฟิศ แต่พอเดินมาถึงตรงนี้ก็ได้กลิ่นอะไรเหม็นๆฉันเลยไปเรียก รปภ.มาดู แล้วก็เห็นเลือดไหลออกมาจากท้ายรถนั่นแหละ”
ธาดาพยายามจับสังเกตอาการเลขาสาวแต่ไม่พบพิรุธ ก่อนจะตะลึงงันเมื่อ รปภ.และลูกน้องของเขางัดฝากระโปรงรถแล้วพบว่ามีศพไพโรจน์เน่าอืดในนั้น!
นพดลได้รับสัญญาณจากเมทินีก็รีบดำเนินการตามแผน โวยวายต่อหน้าช่อแพรและเหล่านักข่าวในห้องประชุม
“ตกลงรออะไรกัน ถ้าไม่ทำอะไรผมว่าแยกย้ายกันกลับบ้านดีไหม”
ช่อแพรยังใจเย็น ตอกเสียงเรียบ “นายน่าจะขอบคุณที่ฉันเลื่อนเวลาที่นายจะต้องเดินเข้าคุกออกไปให้นะ”
นพดลลอบยิ้มร้าย ทำเหมือนไม่สะทกสะท้าน กระทั่งช่อแพรรอไพโรจน์ไม่ไหวเปิดการแถลงข่าว
“ต้องขอโทษทุกท่านจริงๆนะคะที่ให้รอ พอดีดิฉันยังรู้สึกไม่ค่อยดีกับยากล่อมประสาทที่พวกที่ต้องการยึดเขมวัฒน์ใช้กับดิฉัน”
สิ้นคำเปิดแถลงของช่อแพร เหล่านักข่าวก็ฮือฮา ช่อแพรคิดว่าตัวเองเป็นต่อเต็มที่ ประกาศกร้าว
“สองอาทิตย์ที่ผ่านมาผู้ถือหุ้นทุกคนคงได้ทราบข่าวเรื่องการเปลี่ยนแปลงประธานกรรมการบริหารจากดิฉันเป็นนายนพดล ดิฉันจึงนัดทุกท่านมาวันนี้เพื่อบอกข้อเท็จจริงว่าดิฉันถูกนายนพดลและกรรมการปล้นเขมวัฒน์กรุ๊ป”
คำประกาศของช่อแพรเรียกเสียงฮือฮาอีกรอบ เมฆกับฉัตรชิตาลุ้นมากและเชื่อว่าช่อแพรจะลบมลทินตัวเองได้ ต่างจากศิวกรที่คิดว่าเรื่องไม่น่าง่ายขนาดนั้น แล้วการคาดเดาของเขาก็เป็นจริงเมื่อจู่ๆนพดลก็ตอบโต้
“คุณช่อแพรมีอาการวิกลจริตไม่สามารถจะทำงานได้ เรื่องนี้ผมกับกรรมการก็ทำตามระเบียบของบริษัททุกอย่าง แล้วจะมาบอกว่าผมปล้นได้ยังไง”
“วิกลจริตเหรอ...เพราะแกกับพวกของแกใส่ร้ายฉันต่างหาก”
“ทางที่ดีคุณควรยอมรับว่าคุณวิกลจริตดีกว่านะ”
“หึ...ทำไมฉันต้องยอมรับว่าตัวเองเป็นบ้าด้วย”
นพดลไม่ตอบแต่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นธาดาเดินหน้าเครียดเข้ามาในห้องประชุม มั่นใจว่าแผนจัดฉากที่พวกตนเตรียมมาจะทำให้ช่อแพรอยู่ในสถานการณ์ลำบากทันที
ช่อแพรยังไม่รู้ตัวจะถูกตลบหลัง รีบพูดกับธาดา “สารวัตรมาพอดี ดิฉันขอแจ้งความว่านายนพดลและพวกฉ้อโกงและพยายามฆ่าดิฉัน”
ธาดาไม่ได้ทำตามแต่เอ่ยสวนเสียงเรียบ “ผมขอเชิญคุณช่อแพรไปให้ปากคำด้วยครับ”
“ทำไม...มีอะไร”
“เราพบศพของทนายไพโรจน์อยู่ในรถของคุณ”
“อะไรนะ!”










