เล็บครุฑ

โอเห็นเกรียงก้มหน้ากดมือถือรัวๆก่อนจะเก็บลงกระเป๋า รู้สึกสงสัยเล็กๆ...เมื่อเห็นความผิดปกติแล้ว ปกรณ์โทร.บอกเคียนซิ่วอย่าเพิ่งเอาตู้ลงมา ให้แขวนไว้กลางอากาศแบบนั้นเพราะในเรือเขามีสาย เคียนซิ่วตกใจรีบสั่งให้ซีเคียวริตี้เฝ้าเครื่องคอนโทรลเครนไว้ แล้วหยิบปืนจากลิ้นชักออกมาบรรจุกระสุนเต็มแม็ก สั่งลูกน้องยิงทิ้งเด็กเรือที่ใช้โทรศัพท์เมื่อครู่ให้หมด

ชีพจะมาช่วยมรกต เห็นซีเคียวฯเฝ้าเครื่องคอนโทรลอยู่ก็ชะงักดูท่าที...ด้านกริชแปลกใจที่รถปกรณ์แล่นออกไปต้องมีอะไรผิดปกติแน่ อดิศักดิ์รายงานกริชเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ที่ลอยค้างอยู่ กริชพยายามติดต่อสายแต่ไม่มีเสียงตอบ

นิวเป็นเจ้าหน้าที่อิเล็กทรอเทคนิคอลประจำเรือ ซึ่งเป็นสายของกริช ไม่อาจโทร.ส่งข่าวได้ จึงใช้วิธีเคาะเป็นสัญญาณ SOS...อดิศักดิ์รายงานกริชว่าสายของเรากำลังตกอยู่ในอันตราย กริชสั่งเปลี่ยนโหมดเข้าสู่แผน B ทุกคนอยู่ในชุดปฏิบัติการรวมพลกันอยู่มุมหนึ่งของท่าเรือ

รจิตกับก้านซึ่งซุ่มดูอยู่อีกมุมเตรียมพร้อมเก็บภาพเช่นกัน...ด้านชีพเป็นห่วงมรกตมากพยายามหาทางเข้าไป ที่เครื่องคอนโทรลเครน สู้กับเหล่าซีเคียวฯสามนาย ซีเคียวฯ คนหนึ่งยิงใส่  กระสุนพลาดไปโดนเครื่องบังคับพัง

ตู้คอนเทนเนอร์สะเทือนอย่างแรงทำให้มรกตสะดุ้งตื่น พบว่าตัวเองถูกขังในตู้คอนเทนเนอร์ ก็พยายามสำรวจลังไม้ในนั้น แล้วก็ได้เห็นว่าเป็นอาวุธสงครามมากมาย พร้อมธงสวัสดิกะหลายผืน

ลูกน้องเคียนซิ่วเข้ามาในห้องคอมพิวเตอร์บนเรือ เช็กมือถือเจ้าหน้าที่ทุกคน ถ้าใครมีโทร.ออกก็ยิงทิ้ง

นิวแกล้งทำมือถือตก จังหวะก้มเก็บก็พุ่งตัวหนี ถูกยิงไล่หลัง กริชโผล่เข้าช่วยได้ทัน...เคียนซิ่วรู้ว่าตำรวจบุกก็รีบหลบเข้าช่องลับหายไป

ด้านมรกตพยายามส่งข่าวมิสเตอร์เอ เขาดีใจมากที่เธอยังไม่ตาย เธอบอกเรื่องอาวุธสงครามและธงสวัสดิกะ แล้วเห็นรูปใบหนึ่งในกล่อง หยิบขึ้นมาดูพบว่าเป็นรูปนกอินทรีเหยียบโลกสีเงินตั้งอยู่บนแท่นบูชา

ด้านหลังมีธงสวัสดิกะดูศักดิ์สิทธิ์น่าเกรงขาม ก็รู้สึกว่าอันที่เธอเห็นในห้องประชุมไม่ใช่ของจริง มิสเตอร์เอ

รับว่าใช่ แต่ก็มีความสำคัญเพราะเป็นสัญลักษณ์ให้ผู้ก่อการร้ายทั่วโลกได้รู้ว่า สมาคมสิ่งเอ็งในเมืองไทยกำลังเริ่มตามหานกอินทรีแพลตินั่มของจริง

 เคียนซิ่วอยู่ในห้องบังคับเรือ วีดิโอคอลรายงานจางซูเหลียง เขารู้เรื่องทั้งหมดจากปกรณ์และได้รับ

รูปปั้นแล้ว จึงสั่งให้ระเบิดทุกอย่างทิ้ง เคียนซิ่วรับคำแล้วกดปุ่มตั้งระเบิดเวลาทันที

ooooooo