ตอนที่ 3
ชีพเข้ามาทวงเงินกับสิงห์โดยมีระเบิดในมือขู่ไม่ให้ใครกล้าทำอะไร สิงห์รินเหล้าให้ดื่มเพื่อใจเย็น และเอาเงินส่วนตัวให้ไปก่อน ชีพไม่วางใจหยิบเงินเก็บใส่กระเป๋าทำทีหยิบแก้วขึ้นดื่ม พอเดินแหวกวงล้อมพวกสมุนจะกลับ ก็ทรุดตัวลงบ้วนเหล้าในปากทิ้งก่อนแกล้งสลบอย่างเนียนๆ สิงห์พุ่งเขารับระเบิดที่กำลังจะร่วงจากมือชีพไว้ ทำให้รู้ว่าเป็นระเบิดปลอม ทวยล้วงเอาเงินคืนจากกระเป๋าชีพ สัญลักษณ์สิ่งเอ็งหล่นออกมา สิงห์หยิบขึ้นมามองอย่างแปลกใจ
พอดีปกรณ์กับปิงส่งเปิดประตูเข้ามาและประกาศห้ามทำร้ายคนที่มีสัญลักษณ์สิ่งเอ็ง...ชีพถูกหามไปแอบไว้มุมหนึ่งของบาร์...กินรี วอง และยอดเข้ามาสมทบ ปกรณ์กำชับสิงห์ว่าอย่าให้ชีพตายเพราะนายท่านมีงานใหญ่ให้มันทำ ชีพแอบลืมตามองความเคลื่อนไหว เห็นกินรีมีท่าทียั่วยวนสิงห์ ทั้งสองคลอเคลียกันท่ามกลางสายตาหื่นกระหายของพวกลูกน้อง
วองมองอย่างหมั่นไส้ หันไปถามปกรณ์วันนี้มีอะไร กินรีหยุดคลอเคลียหันมาเริ่มเรื่องว่า ได้ยินข่าวเกี่ยวกับ ดร.คิม ปกรณ์จึงบอกว่า เกี่ยวกับข้อมูลลับที่ ดร.คิมซ่อนเอาไว้ แต่เรื่องนี้ต้องพึ่งกินรีเพราะเธอเคยช่วย ดร.คิมประสานงานในเรื่องการทดลอง กินรียังไม่เข้าใจจะให้ทำอะไร
“ฉันอยากให้เธอลองทบทวนความจำ ว่ามีใครบ้างที่เธอติดต่อด้วยระหว่างทำงานกับด็อกเตอร์ หนึ่งในคนพวกนี้ต้องรู้เรื่องข้อมูลลับแน่นอน”
ชีพปรือตามองพยายามเก็บข้อมูล...พอหลบพ้นออกมาจากบาร์สุขสันต์ ในคืนนั้นชีพใช้เครื่องแปลงเสียงโทรศัพท์หากริช โดยบอกให้เขาเรียกตนว่า...เกล็ดทอง
“พอดีผมมีข้อมูลความเคลื่อนไหวของพวก
สิ่งเอ็งมาบอก ไม่ทราบว่าสารวัตรสนใจไหม”
“ข้อมูลอะไร ไหนลองบอกมาหน่อย”
“พรุ่งนี้ผมอยากให้สารวัตรส่งคนสะกดรอยตามผู้หญิงที่ชื่อกินรี เธอกำลังจะเดินทางไปเอาเอกสารลับ... โปรเจกต์ลับที่จางซูเหลียงรอคอยมาทั้งชีวิต”
“แกรู้ได้ยังไง”
“ผมรู้ก็แล้วกัน ผมเชื่อว่าสารวัตรคงหาผู้หญิงที่ชื่อกินรีได้ไม่ยากแน่นอน อ้อ...ยังมีอีกเรื่องนะครับ เร็วๆนี้จะมีการส่งสินค้าทางเรือ สารวัตรลองหาข้อมูลจากสายที่วางไว้สิครับ ลอตใหญ่แน่นอน”
“นี่แกเป็นใครกัน ทำไมถึงได้รู้มากขนาดนี้”
“สิ่งที่ผมรู้ยังไม่เท่ากับสิ่งที่น้องสาวของสารวัตรรู้หรอกครับ”
“แกคงเป็นบ้าไปแล้ว มรกตน้องฉันเขาไปเกี่ยวอะไรด้วย”
“ฮ่ะๆ จับตาดูให้ดีก็แล้วกัน ยังมีอีกหลายเรื่องที่สารวัตรยังไม่รู้เกี่ยวกับน้องสาวตัวเอง” พูดจบชีพตัดสาย กริชรู้สึกว่าเขาบ้ามาก แต่ก็ประหลาดใจทำไมรู้ลึกในหลายเรื่อง
กริชเดินมาเห็นมรกตนั่งอ่านเพจของรจิตอยู่ ก็ติงว่าอ่านเรื่องไร้สาระของคนบ๊อง หญิงสาวแย้งว่าน่าสนใจ เพราะการสะกดจิตแบบนี้มีในหลายประเทศ และน่าแปลกที่ทุกคนพูดในสิ่งที่ใกล้เคียงกันมาก กริชสวนว่า
“เรื่องที่มีเสียงแปลกๆในหัวใช่ไหม บางคนบอกได้ยินเสียงเพลง บางคนได้ยินเสียงกลอง เสียงสวดมนต์ อาการหนักหน่อยก็มีเสียงสั่งให้ทำโน่นทำนี่”
“ใช่ พี่กริชรู้ได้ไง” มรกตตื่นเต้นแต่กริชกลับขยี้หัวน้องสาวและว่าคนพวกนั้นเป็นโรคจิตหรือที่เรียกว่าอุปาทานหมู่ แล้วไล่ให้น้องเข้านอน มรกตขอเวลาอีกสักครู่










