ตอนที่ 1
บรรดลสวมบทเป็นจง หลานชายห่างๆของอาเจ็กได้อย่างแนบเนียน แม้จะมีคนสงสัยบ้างช่วงแรก แต่โดยรวมก็ราบรื่น จนตำรวจหนุ่มเกิดแผนการจะ ใช้หนูเป็นสะพานเพื่อเข้าแก๊งตี๋ใหญ่
อุดมรับหน้าที่เป็นตัวแทนไปรายงานแผนการใช้หนูเป็นสะพานให้สมศักดิ์รับทราบถึงกองปราบปราม
“ยังไงมันก็เป็นหนี้ชีวิตบรรดล เพราะฉะนั้นคงไม่ยากหรอกที่จะกล่อมให้มันพาเข้าแก๊ง ตอนนี้แค่รอให้ไอ้หนูมันกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งเท่านั้นแหละ”
“กลัวว่าจะช้าไปน่ะสิ ท้องที่เขาประสานมาแล้วว่าพวกตี๋ใหญ่มันเริ่มมีความเคลื่อนไหว ไม่ช้าก็เร็วมันต้องลงมือกันอีกแน่ๆ...ต้องหาทางอื่นเร่งให้ถึงตัวตี๋ใหญ่ไวกว่านี้”
ข่าวจากตำรวจท้องที่ไม่เกินจริงเลย แก๊งตี๋ใหญ่มีแผนการปล้นร้านทองเพื่อประกาศศักดาในอีกไม่กี่วัน โต สมุนมือขวาของตี๋ใหญ่ เป็นคนวางแผน โดยมีประทีป เพื่อนวัยเด็กและสมาชิกแก๊งคอยเสริม ตี๋ใหญ่ไว้ใจโตมากเพราะรู้ดีถึงความรอบคอบและความเจ้าแผนการของอีกฝ่าย ต่างจากประทีปที่เป็นพวกเกียจคร้าน ดีแต่โม้ไปวันๆ
ตี๋ใหญ่มอบหมายให้ประทีปจัดหารถเพื่องานปล้นครั้งนี้ ส่วนตัวเองกับโตหาคนมาเพิ่มเพราะสภาพของหนู สมุนมือซ้ายยังไม่พร้อมทำงาน ผลคือได้ปื้ด เด็กในบ้านที่พ่อแม่ของตี๋ใหญ่รับฝากไว้ เด็กหนุ่มนับถือและยึดตี๋ใหญ่เป็นแบบอย่าง ยอมเป็นลูกไล่ รับใช้ทุกอย่างจนได้เป็นสมาชิกแก๊งปลายแถวในเวลาต่อมา
บรรดลหรือจงรอฟังผลการรายงานของอุดมที่อู่อาเจ็ก เมื่อได้ความว่าต้องเร่งลงมือก็คิดหนัก และต้องการกำลังใจ จนต้องขับรถไปหานพวรรณถึงโรงพยาบาลตำรวจ
นพวรรณ พยาบาลฝึกหัด เตรียมเก็บของเพราะใกล้ออกเวร ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นหน้าบรรดล
“ทำไมถึงมาได้คะ”
“ผมคิดถึงคุณ”
คำหวานบอกความรู้สึกตรงๆของตำรวจหนุ่มทำให้นพวรรณหัวใจเต้นแรง เขินมากจนต้องเสเปลี่ยนเรื่อง
“โชคดีนะที่คุณยังมาทัน”
“ทำไมเหรอครับ คุณจะไปไหนเหรอ”
“คือตอนนี้ใกล้เรียนจบแล้วค่ะ อีกไม่นานก็ต้องย้ายไปประจำที่โรงพยาบาลอื่น”
“รู้หรือยังครับว่าที่ไหน”
“ยังค่ะ...บางทีโรงพยาบาลที่จะย้ายไป อาจไกลจนเราไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกก็ได้นะ”
“ไกลแค่ไหนผมก็ไปหาคุณ”
“ค่ะ...แล้วงานของคุณล่ะ เป็นยังไงบ้าง”
“ยังไม่คืบหน้าเท่าไรเลยครับ งานนี้มันยากจริงๆ เหมือนเดินอยู่ในความมืด...มืดจนมองไม่เห็นหนทางใดๆเลย”
“อย่าเพิ่งท้อสิคะ ฉันเป็นกำลังใจให้นะ”
“ขอบคุณครับ”
ooooooo
กว่าบรรดลจะกลับถึงอู่ซ่อมรถที่ดำเนินสะดวกก็เกือบรุ่งสาง อาเจ็กยืนมองหลานชายหลอกๆนอนบนโซฟาด้วยแววตาระอาแกมเอ็นดู ตำรวจหนุ่มสัมผัสได้ว่ามีคนยืนมองจึงลืมตา เห็นอาเจ็กเลยโพล่งถาม
“ถ้าเจ็กเป็นตำรวจแล้วคิดจะจับตี๋ใหญ่...เจ็กจะทำยังไง”
“คิดจะจับไอ้ตี๋น่ะมันไม่ง่ายหรอก มันไปไหนไม่เคยบอกใครล่วงหน้า เหมือนผีเร่ร่อน เดี๋ยวไปโผล่ตรงนั้น เดี๋ยวไปโผล่ตรงนี้ บางคนว่ามันมีคาถาอาคม หนังเหนียว แถมยังหายตัวได้ด้วย”
“แล้วเจ็กว่ามันมีอาคมจริงหรือเปล่า”
“จริงไม่จริงไม่รู้หรอก รู้แต่ว่าถ้าจับตัวมันไปลงโทษได้ แผ่นดินคงจะสูงขึ้น”
“นั่นแหละคือเป้าหมายพวกผมล่ะ เจ็กพอจะรู้จักใครสักคนไหมจะพาผมทะลวงเข้าไปในแก๊งตี๋ใหญ่ได้”
อาเจ็กคิดนิดเดียวแล้วพยักหน้า นึกได้ว่ามีคนพอช่วยได้
“มีคนหนึ่ง...ใช้บริการอู่อั๊วมาเป็นสิบปีแล้ว รายนี้ขาใหญ่ไม่เบาเหมือนกัน เป็นนักเลงมาก่อนตี๋ใหญ่ แต่ไม่ถึงขั้นจี้ปล้นเหมือนพวกนั้นหรอก ตี๋ใหญ่เกรงใจอี”
“งั้นเจ็กหาทางให้เขามาที่นี่ได้ไหม”
บรรดลถามอย่างมีความหวัง อาเจ็กลังเล แต่เพียงแวบเดียวก็รับปากจะหาทาง...
ในที่สุดกำหนดวันปล้นก็มาถึง ตี๋ใหญ่เรียกสมาชิกแก๊งมารวมตัวกันที่บ้านทิพย์เหมือนเคยเพื่อสรุปแผนการ โดยเขากับโตจะรอสัญญาณหน้าร้าน ให้ทิพย์ปลอมตัวเป็นลูกค้าเข้าไปดูสถานการณ์และส่งสัญญาณ ปื้ด ดูต้นทางและคอยล่อตำรวจไม่ให้มาขวางการปล้น และประทีปจะทำหน้าที่ขับรถพาทุกคนหนี
ตี๋ใหญ่กำหนดให้ทุกขั้นตอนการปล้นเสร็จสมบูรณ์ภายในสิบนาทีนับจากทิพย์เข้าไปในร้าน ทุกอย่างเป็นไปได้สวย ทิพย์สวมบทเป็นลูกค้ารายใหญ่ได้แนบเนียน และปื้ดลวงตำรวจให้ออกจากบริเวณร้านทองได้สำเร็จ เปิดโอกาสให้ตี๋ใหญ่กับโตเข้าปล้นได้อย่างราบรื่น
เจ้าของร้านมองปืนในมือตี๋ใหญ่ตัวสั่น ไม่กล้าตุกติกเพราะกลัวตาย ตี๋ใหญ่สั่งให้ลูกน้องกวาดทองในตู้ และออกจากร้านอึดใจต่อมา แต่กระนั้นก็ไม่วายขู่เจ้าของร้านเสียงเหี้ยม
“อยู่เฉยๆ นิ่งๆ จนกว่าพวกกูจะไป แล้วก็เตือนไว้ ...ระวังปากของมึงด้วย ถ้าบอกใครว่าพวกกูเป็นคนปล้น กูจะกลับมายิงกรอกปากมึง!”
ขาดคำก็ผลุนผลันออกจากร้านพร้อมลูกสมุน เจอกับนายตำรวจคนเดิมที่ถูกปื้ดลวงไปอีกทางและเพิ่งไหวตัวกลับมาที่ร้านทองเลยเกิดปะทะกัน ตี๋ใหญ่ตัดสินใจยิงเจ้าของร้านตายคาที่ ยิงนายตำรวจจนบาดเจ็บสาหัสแล้วหนี ทิ้งความสับสนอลหม่านของเหล่าชาวบ้านเพราะเหตุปล้นไว้เบื้องหลัง
เหตุการณ์ปล้นร้านทองอย่างอุกอาจของแก๊งตี๋ใหญ่กลายเป็นข่าวใหญ่สมใจ ศิริกับสมศักดิ์นั่งคุยกันเคร่งเครียดที่สำนักงานกองปราบปราม
“แน่ใจนะว่าฝีมือตี๋ใหญ่”
“เจ้าของร้านยืนยันจากภาพถ่ายที่เราให้ดูครับ ตี๋ใหญ่แน่นอน”
“พวกมันเริ่มก่อคดีอีกครั้งแล้ว คราวนี้คงไม่หยุดง่ายๆหรอก เราคงต้องร่วมมือกับตำรวจทุกหน่วย ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมา ให้ชื่อชุดปฏิบัติการล่าตี๋ใหญ่ ถ้าทุกคนช่วยกัน ต่อให้มันมีปีกก็ไม่มีทางที่มันจะหนีไปได้!”
ooooooo










