ตอนที่ 15
จางเหาขับรถมาตามถนนเหลือบมองหลิวที่ยังกำปืนของฮัวไว้ในมือเป็นระยะๆด้วยความเป็นห่วง แล้วเอื้อมไปหยิบปืนจากมือเธอไว้ในช่องเก็บของหน้ารถ จากนั้นไม่นาน เขาขับรถมาจอดหน้าสมาคมธรรมกุล
หลิวลงไปดูอาคารสมาคมที่เคยยิ่งใหญ่ บัดนี้เหลือเพียงซากที่ถูกไฟไหม้หมดสง่าราศี เธออดนึกถึงวันที่ตัวเองเดินขึ้นไปรับตำแหน่งอย่างยิ่งใหญ่ไม่ได้ เหล่าสมาชิกให้สัตย์ว่าจะภักดีต่อเธอ แต่พอเธอนึกถึงตอนที่ทะเลาะกับพ่อและท่านให้เธอส่งมอบทุกอย่างคืนก็รู้สึกหดหู่ที่พ่อเห็นเธอเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของท่าน
เสียงจางเหาร้องเรียกปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ “คุณให้ผมพามาที่นี่ทำไม”
“ฉันว่าป๊าคงคิดไม่ถึงว่าเราจะหนีมาหลบอยู่ที่นี่...
ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ไม่คิดมาก่อนเลยว่าที่ที่ทำให้ฉันยิ่งใหญ่และมีอำนาจจะกลายเป็นที่ที่อันตรายที่สุดไปซะแล้ว”
จางเหาปลอบว่าอย่าคิดมาก ไม่มีอะไรที่อยู่ค้ำฟ้าได้ แล้วหลังจากนี้เธอจะเอาอย่างไรจะหนีหรือจะสู้ต่อ เธอไม่รู้จะสู้เพื่ออะไร ถ้าให้สู้เพื่ออำนาจ ได้มันมาแล้วจะทำให้เธอมีความสุขจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ทุกคนที่เธอรักต้องพังไปเพราะอำนาจ รวมถึงเธอด้วย จางเหาแนะถ้าอยากให้จบ เธอก็แค่คืนอำนาจให้พ่อไป
“ฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไรก็ฉันไม่อยากเสียอาป๊าฉันไป” คำพูดของหลิวทำให้จางเหาตระหนักในทันทีว่าแท้จริงแล้ว ที่เธอยื้อเวลามาตลอดก็เพราะไม่อยากให้พ่อถลำลึกจนเกินเยียวยา จังหวะนั้นตี๋ซุ้งโทร.มาตามหลิวให้กลับมาคุยกันดีๆ อย่าหนีไปแบบนี้ เธอไม่มีอะไรต้องคุยด้วยในเมื่อเธอให้สิ่งที่ท่านต้องการไม่ได้
“อย่างนั้นก็ขอให้อั๊วได้คุยกับลื้อเป็นครั้งสุดท้าย”...
วางสายจากพ่อ หลิวเดินมานั่งข้างจางเหาที่กำลังพยายามผูกผ้าพันแผลที่ไหล่ตัวเองแต่ผูกไม่ถนัด เธอก็เลยผูกให้ เขาอยากรู้ว่าตี๋ซุ้งพูดอะไรกับเธอบ้าง เธอยิ้มเศร้าๆบอกแค่ว่ามีทางออกของตัวเองแล้ว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ชมว่าคืนนี้ดวงดาวสวยมาก จางเหากลัวเธอจะหนาวหยิบแจ็กเกตที่วางอยู่ใกล้ๆมาคลุมให้
“น่าแปลกนะทั้งๆที่คุณเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของบ้านธรรมกุล เป็นคนที่ฉันควรจะกลัวมากที่สุด แต่ทำไมฉันกลับรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งเวลาที่มีคุณอยู่ด้วย”
“เราคงเป็นได้แค่เส้นขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้”
“แต่เรานั่งดูดาวด้วยกันได้ใช่ไหม” หลิวมองท้องฟ้าอีกครั้งแล้วค่อยๆซบไหล่จางเหาที่มองเธอด้วยความรักเต็มหัวใจ ขณะที่เธอกลับใจลอยคิดถึงเรื่องของพ่อ
ooooooo
แสงแดดแยงตาทำให้จางเหารู้สึกตัวตื่นขึ้น แปลกใจที่หลิวหายไปทิ้งไว้เพียงแจ็กเกตที่เขาคลุมตัวให้ เดินไปดูที่รถก็ไม่เห็น สังหรณ์ใจบางอย่าง ลองเปิดที่เก็บของหน้ารถดูปรากฏว่าปืนหายไป นึกถึงคำพูดของเธอที่บอกว่ามีทางออกสำหรับเรื่องของพ่อแล้ว ก็ยิ่งใจหาย รีบขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว...
หลิวตัดสินใจกลับบ้านมาคุยกับพ่ออย่างที่ท่านต้องการ ตี๋ซุ้งเห็นปืนในมือลูกสาวก็อดเหน็บแนมไม่ได้ มาคุยกับพ่อต้องพกปืนมาด้วยหรือ เธอแค่เผื่อไว้ แต่คิดว่าคงไม่ต้องใช้แล้ว แล้ววางปืนลงบนโต๊ะ
ตี๋ซุ้งชวนเธอดื่มชาที่ตัวเองเพิ่งชงเสร็จด้วยกัน เธอมองไม่ไว้ใจก่อนจะดักคอว่าเต็งล้อเคยบอกเธอว่าพ่อมักจะมีไพ่ตายที่เป็นทางเลือกสำรองเก็บไว้ในห้องนี้เสมอ ตี๋ซุ้งตัดพ้อนี่คิดว่าตนจะลงมือกับลูกตัวเองอย่างนั้นหรือแล้วเดินไปหยิบซองยาพิษที่ซ่อนไว้ออกมาโยนลงตรงหน้าเธอ
“มันยังไม่ได้ถูกแกะใช้ ปัญหาระหว่างเราใช้แค่ปากกาก็พอ” ตี๋ซุ้งชี้ไปที่ปากกาที่วางอยู่ข้างแฟ้มเอกสารมอบอำนาจและเอกสารโอนทุกอย่างกลับมาเป็นของเขา หลิวไม่ยอมเซ็นให้
“อั๊วขอป๊าเป็นครั้งสุดท้าย เรามาเซ็นด้วยกัน ปล่อยวางทุกอย่างด้วยกัน”
“ลื้อต่างหากที่ต้องเซ็น” น้ำเสียงไร้เยื่อใยของพ่อทำให้หลิวเสียใจสุดๆ ทุกอย่างในใจเธอบัดนี้ว่างเปล่าไม่เหลือความรัก ไม่เหลือศรัทธา ไม่เหลือสิ่งยึดเหนี่ยวใดๆอีกแล้ว อีกมุมหนึ่งหน้าประตูบ้านจางเหาบุกตะลุยเข้ามาสังหารสมุนที่ดาหน้าเข้ามาขวางตายเป็นใบไม้ร่วง หวังจะมาทันห้ามหลิว...
เสียงปืนทำให้ตี๋ซุ้งรู้ว่าจางเหากำลังบุกเข้ามา จึงเร่งให้หลิวเซ็นเอกสาร เธอกลับยืนนิ่ง เขาไม่พอใจอย่างแรงเข้าไปเขย่าตัวสั่งให้เซ็น เธอกลับเดินไปที่กาน้ำชาที่พ่อชงไว้ ฉีกซองยาพิษเทลงในถ้วยน้ำชา รินน้ำชาแล้ว
ยกขึ้นดื่มหมดแก้ว อึดใจยาพิษออกฤทธิ์ หลิวทรุดฮวบเป็นจังหวะเดียวกับจางเหาบุกเข้ามา ตี๋ซุ้งคว้าปืนที่หลิววางไว้ยิงใส่ผู้บุกรุก ปรากฏว่าปืนไม่มีลูก จางเหายิงใส่หัวใจตี๋ซุ้งหนึ่งนัดกระสุนตัดขั้วหัวใจตายทันที
จากนั้นเขาเข้าไปประคองหลิวที่เริ่มกระอักเลือดไว้ในอ้อมแขน บอกให้แข็งใจไว้เธอจะต้องไม่เป็นอะไร
“ให้เป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว อย่างน้อยฉันก็ได้ตายในอ้อมกอดของคนที่ฉันรัก” หลิวยิ้มให้จางเหาก่อนจะสิ้นใจ เขากอดร่างไร้วิญญาณของเธอไว้ น้ำตาลูกผู้ชายไหลนองหน้า แล้วอุ้มเธอลงบันไดผ่านศพสมุนของตี๋ซุ้งที่นอนเกลื่อน สมุนคนหนึ่งยังไม่ตาย ยกปืนขึ้นเล็งจางเหาก่อนจะลั่นกระสุน เสียงปืนดังปังสนั่นหวั่นไหว
ooooooo
–อวสาน–










