สมาชิก

หงส์เหนือมังกร

ตอนที่ 15

เต็งล้อไม่ได้เจ็บหนักอะไร ตำรวจจึงนำตัวออกจากโรงพยาบาลมาขังไว้ยังห้องควบคุมตัวภายในกองปราบปราม ตี๋ซุ้งใช้เส้นสายของตัวเองขอเข้าเยี่ยมเป็นกรณีพิเศษเพื่อจะบอกให้เขารู้ว่าตนเองรู้เรื่องที่เขาทำกับเหมยแล้ว แล้วเข้ามายืนประจันหน้าถามว่ารักเธอหรือ เต็งล้อเท้าความว่าตนเองเจอเธอก่อนตี๋ซุ้ง

“ลื้อจำวันที่อั๊วนัดลื้อไปที่ศาลเจ้าได้ไหม วันนั้นอั๊วอยากให้ลื้อเจอผู้หญิงคนที่อั๊วรัก เธอคนนั้นคืออาเหมย”

“แล้วทำไมลื้อไม่บอกอั๊วตั้งแต่วันนั้น”

“อั๊วเห็นสายตาของอาเหมยที่มองลื้อครั้งแรก อั๊วก็รู้แล้วว่าอีเลือกใคร” เต็งล้อตอบอย่างเคืองแค้น หลังทั้งคู่ปะทะคารมกันพอหอมปากหอมคอ ตี๋ซุ้งอวยพรให้เต็งล้อมีความสุขกับชีวิตที่เหลือแล้วขยับจะไป เป็นจังหวะเดียวกับท่านชาติชายเปิดประตูห้องเข้ามา ตี๋ซุ้ง มองสบตาท่านอย่างรู้กัน แล้วฝากท่านดูแลให้ด้วย

ท่านชาติชายรับปากจะดูแลเต็งล้ออย่างดี ตี๋ซุ้ง ปรายตามองอริแวบหนึ่งก่อนจะออกจากห้อง เต็งล้อเห็นแล้วอดหวั่นใจไม่ได้ว่าท่านชาติชายจะย้ายข้างไปอยู่กับอีกฝ่าย...

เป็นอย่างที่เต็งล้อหวั่นใจ ท่านชาติชายสั่งให้ตำรวจอีกนายหนึ่งจับตัวเขาไว้ให้อยู่นิ่งๆ จากนั้นเอาเข็มฉีดยาปักไปที่อกด้านซ้ายของเต็งล้อแล้วฉีดยาบางอย่างเข้าไปในหัวใจจนหมด ยาแล่นไปตามกระแสเลือดสักพักก็ออกฤทธิ์ เต็งล้อเริ่มอ่อนแรง หัวใจเต้นช้าลงเรื่อยๆก่อนจะล้มฟุบลงไปนอนแน่นิ่ง...

ขณะที่เต็งล้ออยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย หลิวกลับถึงบ้านธรรมกุลด้วยความสบายใจขึ้นที่อย่างน้อยก็ได้เคลียร์ปัญหาบางอย่างกับจางเหา ระหว่างเดินผ่านห้องรับแขกต้องชะงักเมื่อมีเสียงอาติยะร้องเรียกเธอดังขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจที่เห็นเขา แต่ตอนนี้เธอไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับเขาอีกแล้ว ออกจะรำคาญด้วยซ้ำที่เขาเทียวไล้เทียวขื่อไม่เลิกไม่แล้ว จึงขอร้องเขาอย่ามาหาเธออีก

“เพราะตอนนี้ฉันไม่ใช่สมาชิกองค์การ 14K อีกต่อไปแล้ว ถ้าเราต้องเจอกันบ่อยๆมันดูไม่เหมาะ”

“แล้วถ้าผมจะบอกคุณว่าผมจะลาออกจากตำแหน่งเค.วอง เพื่อคุณล่ะ...ผมจำได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่คุณปรารถนามาตลอดนั่นคือการได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง”

หลิวมาไกลมากแล้ว ตอนนี้เธอเป็นถึงหัวหน้า ต้องดูแลธรรมกุล อาติยะไม่เห็นว่าเธอจะต้องเสียสละอะไร อีกแล้ว ในเมื่อตอนนี้พ่อของเธอกลับมาแล้ว เธอแค่ส่งอำนาจ คืนให้ท่านก็เท่านั้นเอง เธอยืนกรานจะไม่ยอมให้ตำแหน่งหัวหน้าธรรมกุลกับใครจนกว่าจะได้ชำระแค้นเต็งล้อ

“ผมไม่อยากจะพูดอย่างนี้นะหลิว แต่ที่พวกนั้นเลือกคุณก็เพราะทุกคนคิดว่าพ่อคุณเสียชีวิตไปแล้ว แต่ตอนนี้พ่อคุณกลับมา คุณคิดว่าทุกคนอยากให้ใครเป็นหัวหน้าธรรมกุล” คำพูดแทงใจดำของอาติยะทำให้หลิวรู้สึกแปลกๆชอบกล...

ระหว่างที่ปราบขนของบางส่วนที่ย้ายออกจากห้องทำงานไปใส่ไว้ในรถ จ่าโทร.มาบอกว่าเต็งล้อตายแล้ว เขาไม่รอช้าพุ่งไปยังที่เกิดเหตุ เห็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกำลังช่วยกันยกเปลที่มีถุงใส่ศพลำเลียงไปขึ้นรถ ปราบตรงมาที่เจ้าหน้าที่ขอดูศพ แล้วเปิดถุงใส่ศพดูเห็นเต็งล้อนอนสงบนิ่งถึงกับอึ้ง ก่อนจะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตัวเองต่อไป แล้วหันไปถามจ่าว่าผู้ต้องหาตายได้อย่างไร จ่าส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกัน

เจ้าหน้าที่แจ้งว่าตรวจดูเบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาอาจจะตายจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ถ้าจะให้แน่นอนปราบคงต้องรอผลตรวจจากนิติเวช ท่านชาติชายที่แอบมองอยู่แกล้งเดินเข้ามาคุยกับจ่าเรื่องการตายของเต็งล้อแล้วทำเป็นเพิ่งเห็นปราบ ร้องทักว่ามาทำอะไรที่นี่ ตนสั่งย้ายเขาไปแล้วไม่ใช่หรือ ปราบถึงกับทำหน้าไม่ถูก ท่านชาติชายไม่สนใจเขาอีกหันไปสนใจศพแทนที่

“ไหนขอผมดูศพหน่อยสิ” ท่านชาติชายว่าแล้วเดินไปที่รถขนศพ...

ปราบเห็นท่านชาติชายมาป้วนเปี้ยนแถวนี้ก็เลยเดินเลี่ยงกลับไปที่รถตัวเอง จางเหาโทร.เข้ามือถือของเขาพอดี พร้อมกับทักทำไมถึงทำหน้าอย่างนั้น ปราบรู้ทันทีว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆนี่เองถึงได้เห็นสีหน้าของเขา บอกให้จางเหาออกมาคุยกันต่อหน้าไม่อย่างนั้นไม่ต้องคุยแล้วตัดสายทิ้ง อึดใจจางเหาโผล่ออกมาจากหลังเสาเข้ามาหาปราบพลางถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขามีข่าวดีมาบอก ต่อจากนี้จางเหาคงไม่ต้องฆ่าใครอีก

“เต็งล้อตายแล้ว”

จางเหาไม่ค่อยจะเชื่อนักเตือนว่านี่อาจเป็นแผนตบตา เต็งล้อมีตำรวจคอยช่วยอยู่ บางทีมันอาจจะเหมือนกรณีของตี๋ซุ้งก็ได้ ปราบคิดคล้อยตามว่าเต็งล้ออาจแกล้งตาย คิดได้ดังนั้นก็วิ่งย้อนกลับไปยังจุดที่รถมูลนิธิจอดอยู่แต่รถหายไปแล้ว ถามจ่าก็ได้ความว่าที่รถรีบร้อนออกไปเพราะท่านชาติชายสั่งให้รีบเคลียร์ ไม่อยากให้เป็นข่าวแถมท่านยังนั่งไปกับรถขนศพอีกด้วย

ปราบรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลรีบกลับมาที่รถตัวเองชวนจางเหาไล่ตามรถขนศพไป

ooooooo

เป็นอย่างที่จางเหาตั้งข้อสังเกต ท่านชาติชายที่นั่งคู่มากับคนขับรถขนศพตามลำพังออกอุบายให้จอดรถตรงที่เปลี่ยวๆหน่อย อ้างปวดปัสสาวะ คนขับรถพาซื่อเลี้ยวรถเข้ามาจอดในซอกเปลี่ยวให้ ท่านชาติชายทำทีลงไปก้มๆเงยๆเหมือนกำลังปัสสาวะแต่ความจริงแล้วกำลังเอาที่เก็บเสียงใส่ปืนอยู่

ครั้นใส่เสร็จ ท่านหันมายิงคนขับรถที่ไม่ทันระวังตัว ตายคาที่แล้วลากศพไปหมกพงหญ้าข้างทาง จากนั้นเข้าไปเปิดถุงใส่ศพเอายากระตุ้นหัวใจฉีดเข้าที่แขนเต็งล้อ รออยู่ครู่หนึ่งจึงตรวจสัญญาณชีพที่ข้อมือ พบว่าเริ่มเต้นแผ่วๆ ท่านยิ้มพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน กลับไปประจำที่นั่งคนขับยังไม่ทันจะเคลื่อนรถ

ปราบขับรถมาขวางหน้าไว้ จางเหาปลดเข็มขัดนิรภัยจะลงจากรถกลับถูกปราบเอากุญแจมือคล้องมือเขาล็อกกับพวงมาลัยรถ ขอโทษเขาด้วย ตนไม่อยากให้เขาต้องเป็นฆาตกรฆ่าใครอีก เรื่องนี้ตนจัดการเองได้ แล้วลงจากรถโดยไม่ฟังเสียงโวยวายให้ปล่อยของจางเหา พอเดินไปถึงรถขนศพต้องแปลกใจที่ท่านชาติชายเปิดประตูรถด้านคนขับลงมา โวยวายใส่เขาที่มาก้าวก่ายการทำงานของตน

“ถ้าท่านบริสุทธิ์ใจ ผมแค่ต้องการดูศพของเต็งล้อ”

ท่านชาติชายยอมตามที่ปราบร้องขอ เดินไปเปิดท้ายรถให้ดู ส่วนจางเหาค้นดูในคอนโซลรถเจอคีมปากจิ้งจกรีบเอามาตัดสายโซ่ที่คล้องกุญแจมือ

ปราบชะโงกไปดูท้ายรถเห็นถุงใส่ศพเต็งล้อเปิดอยู่ สังเกตเห็นอกของเขาขยับขึ้นลงเหมือนกำลังหายใจก็ร้องเอะอะว่ามันยังไม่ตาย สิ้นเสียงร้อง เสียงปืนดังสวนขึ้นสามนัดซ้อน จางเหาที่ตัดโซ่คล้องกุญแจเกือบจะขาดได้ยินเสียงปืนก็หันไปดู เห็นปราบล้มลง พยายามจับขาท่านชาติชายไว้ แต่ท่านดึงขาหลบ

“สารวัตรบังคับให้ผมต้องทำอย่างนี้ เสียดายความซื่อสัตย์โง่ๆของคุณจริงๆ” พูดจบท่านปิดประตูท้ายรถ กลับไปประจำที่คนขับ ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว จางเหาออกแรงบีบคีมสุดกำลังจนโซ่ที่คล้องกุญแจมือขาดจากกัน รีบวิ่งไปดูปราบที่นอนหายใจรวยริน จะพาไปส่งโรงพยาบาลแต่เขาอาการหนักเกินเยียวยา สิ้นใจในอ้อมแขนของจางเหา...

ตี๋ซุ้งเพิ่งวางสายจากผู้หวังดีที่โทร.มาแจ้งข่าวการตายของเต็งล้อ ตอนที่หลิวเปิดประตูห้องทำงานเข้ามา พอเจอหน้าพ่อ เธอถือโอกาสถามว่าไปตกลงอะไรไว้กับอาติยะตี๋ซุ้งอ้างว่าที่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อชดเชยความผิดที่เคยทำให้เธอกับอาติยะไม่ได้รักกันตั้งแต่ทีแรกก็เท่านั้น

หลิวตระหนักถึงความหวังดีของพ่อก็เลยไม่ถามอะไรอีกขอตัวออกไปก่อน ตี๋ซุ้งร้องเรียกไว้นี่เธอรู้ข่าวเรื่องเต็งล้อตายแล้วหรือยัง แม้จะเคืองแค้นเขาแต่หลิวก็ตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าเขาตาย ตี๋ซุ้งอยากให้เธอนัดประชุมสมาคมธรรมกุลอย่างช้าสุดวันพรุ่งนี้ เรื่องใหญ่อย่างนี้ คงมีคนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้ออ้างนี้เป็นแค่เรื่องบังหน้า ตี๋ซุ้งมีแผนการบางอย่างเตรียมไว้โดยที่หลิวไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อย...

เต็งล้อฟื้นขึ้นมากลางดึกคืนเดียวกัน เห็นท่านชาติชายยืนจ้องอยู่ ค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ถามเสียงเครียดว่าช่วยตนทำไม ท่านพูดติดตลกว่าเขายังไม่จ่ายเงินห้าสิบล้านบาทให้ เต็งล้อแปลกใจคิดว่าท่านจะเปลี่ยนใจไปอยู่ข้างตี๋ซุ้งเสียอีก ท่านเห็นว่าตี๋ซุ้งคุมยากกว่าเต็งล้อก็เลยไม่อยากเปลี่ยนข้าง แล้วหยิบยาบำรุงหัวใจมาให้บอกให้กินยานี้ไว้หน่อย แล้วก้มไปพูดข้างหู

“ว่าง่ายๆล่ะ อย่าให้อั๊วเสียแรงลากลื้อกลับมาจากนรกฟรีๆ ไม่งั้นอั๊วอาจจะเปลี่ยนใจไปอยู่ข้างไอ้ตี๋ซุ้งแล้วลื้อจะหนาว” พูดจบท่านชาติชายเดินยิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่าออกไป เต็งล้อไม่พอใจอย่างแรงที่ท่านทำท่าข่มตัวเอง ดื่มยาบำรุงหัวใจจนรู้สึกเป็นปกติแล้วตามไปสังหารท่านชาติชายโดยใช้มีดแทงอย่างโหดเหี้ยม

“อั๊วไม่ได้เป็นหมากของลื้อเว้ย” เต็งล้อเอาเท้ากดมีดที่เสียบท้องท่านชาติชายซ้ำๆด้วยความสะใจ

ooooooo

วันรุ่งขึ้นหลิวเรียกประชุมสมาคมธรรมกุล

ตามที่พ่อต้องการ ขณะกำลังจะออกจากบ้านฮัวเข้ามารายงานว่าปราบตายแล้ว หลิวสั่งให้เธอส่งพวงหรีดไปให้ในนามของเธอไม่ใช่ธรรมกุล ตี๋ซุ้งกระเซ้าไม่รู้มาก่อนว่าเธอคบตำรวจ หลิวนิ่วหน้าแปลกใจทำไมจะคบไม่ได้ในเมื่อเขาเป็นตำรวจที่ดีไม่รับผลประโยชน์จากใคร

“มิน่าเขาถึงบอกว่าคนดีมักจะอยู่ได้ไม่นาน”...

เมื่อมาถึงห้องประชุมของสมาคมธรรมกุล บรรดาสมาชิกต่างตื่นเต้นดีใจที่เห็นตี๋ซุ้งยังไม่ตายเข้ามาแสดงความยินดีกันยกใหญ่ จนเขาต้องเชิญให้นั่งประจำที่กันก่อน จะได้เล่าให้ฟังทีเดียวว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร หลิวจัดแจงเดินไปที่หัวโต๊ะซึ่งเป็นที่นั่งของหัวหน้า ยังไม่ทันจะหย่อนก้น ตี๋ซุ้งบอกให้เธอไปนั่งเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง เธอมองไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้โต้เถียงอะไรทำตามที่พ่อว่า ส่วนตี๋ซุ้งนั่งลงที่เก้าอี้หัวโต๊ะ

หลังตี๋ซุ้งกล่าวขอบใจลูกสาวที่ดูแลสมาคมเป็นอย่างดีในขณะที่ตัวเขาไม่อยู่ และรู้สึกดีใจที่ได้กลับมาเจอครอบครัวสมาคมธรรมกุลอีกครั้ง จึงเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้ต้องแกล้งตาย

“เพราะอั๊วต้องการให้ไอ้คนที่คิดทรยศต่ออั๊วปรากฏตัวขึ้น ซึ่งคนคนนั้นก็คือเฮียเต็ง” คำพูดของตี๋ซุ้งเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าสมาชิกดังลั่น จากนั้นเขาพูดเพิ่มเติมว่า “แต่พวกลื้อไม่ต้องตกใจเพราะคนทรยศนั้น สวรรค์ก็ได้ให้เขาตายไปแล้ว และต่อจากนี้ไป อั๊วขอประกาศอย่างเป็นทางการว่า อั๊วจะกลับมาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าสมาคมธรรมกุลอีกครั้ง” การประกาศครั้งนี้ของตี๋ซุ้งทำเอาหลิวใบ้กิน...

ตั้งแต่กลับจากการประชุม หลิวยังสับสนในใจไม่หาย และเหมือนเช่นทุกครั้งที่ไม่สบายใจเธอจะมาไหว้ป้ายบรรพบุรุษ แต่ครั้งนี้กลับรู้สึกแปลกๆที่เห็นป้ายชื่อพ่ออยู่ตรงหน้าเพราะท่านยังไม่ตาย แล้วเธอจะมายืนเคารพวิญญาณใคร คิดได้ดังนั้นจัดแจงจะหยิบป้ายชื่อพ่อไปเก็บ ตี๋ซุ้งเข้ามาห้ามไว้ บอกให้ทิ้งไว้อย่างนั้นจะได้เป็นเครื่องเตือนใจ แล้วถามเธอว่าอยากเป็นหัวหน้าสมาคมธรรมกุลต่อหรือ

“ป๊ารู้ไหมก่อนที่ป๊าจะกลับมา อั๊วเคยคิดจะวางมือ ที่อั๊วอดทนทำทุกอย่างมาได้ถึงตอนนี้ก็เพียงเพราะคำว่าครอบครัว แต่ในเมื่อตอนนี้ อาม้ากับตี๋เล็กไม่อยู่แล้ว มันจะมีประโยชน์อะไรอีก”

ตี๋ซุ้งอ้างตัวเองกลับมาแล้ว หลิวไม่เห็นด้วย

ในเมื่อพ่อวางมือไปนานแล้วอยู่ดีๆจะกลับมาเอาคืนอีกทำไม ตี๋ซุ้งไม่พอใจโวยวายใส่ที่ลูกไม่ยอมคืนตำแหน่งให้ เธอไม่ใช่ไม่คืน แค่อยากให้เราสองพ่อลูกวางมือด้วยกันต่างหาก ขอร้องให้พ่อวางอำนาจลงแล้วใช้ชีวิตที่เหลือเหมือนคนปกติ เธอแค่อยากเห็นท่านมีความสุข

“แล้วเราจะอยู่อย่างมีความสุขได้อย่างไร หากเราไม่มีอำนาจ” คำพูดของพ่อทำให้หลิวตระหนักในทันทีว่าเราสองคนพ่อลูกมีความคิดต่างกันคนละขั้ว...

ฝ่ายเต็งล้อต้องการจะล่อให้ตี๋ซุ้งกับหลิวออกจากบ้านเพื่อสังหารให้สิ้นซากจึงลอบเข้าไปในสมาคมธรรมกุล ฆ่าพ่อบ้านของที่นั่นทิ้งแล้ววางเพลิงเผา ยืนดูไฟที่ลาม

ไปยังส่วนต่างๆของสมาคมอย่างสะใจ...

แม้จะรู้ว่าตัวเองกับพ่อมีความคิดต่างกันลิบลับ แต่หลิวก็ไม่ละความพยายามที่จะกล่อมให้ท่านวางมือ ในเมื่อศัตรูอย่างเต็งล้อก็ตายไปแล้วพ่อยังต้องการอะไรอีก ตี๋ซุ้งตวาดลั่นต้องการให้เธอส่งมอบทุกอย่างกลับมาให้ท่านทั้งตำแหน่งหัวหน้าสมาคมและสมาพันธ์ หลิวสวนทันทีรวมถึงการเป็นสมาชิก 14Kด้วยใช่ไหม

“ครั้งหนึ่งม้าเคยเตือนหลิวว่าระวังจะเสพติดอำนาจ ม้ากลัวว่าหลิวจะเป็นอย่างป๊าจริงๆด้วย”

ตี๋ซุ้งไม่พอใจทำท่าจะเอาเรื่อง แต่ฮัวเข้ามารายงานเสียก่อนว่ามีไฟไหม้ที่สมาคมธรรมกุล สองพ่อลูกต่างตกใจโดยเฉพาะหลิวสั่งให้ฮัวเตรียมเอารถออก ตี๋ซุ้งเตือนว่านี่อาจเป็นกับดัก อาจมีใครต้องการล่อให้เราออกจากบ้าน เธอไม่เข้าใจในเมื่อเต็งล้อก็ตายไปแล้ว เราไม่มีศัตรูที่ไหนอีกจะต้องกลัวทำไม ตี๋ซุ้งทักท้วงถึงอย่างนั้นมันก็อันตรายเกินไป หลิวถามประชดนี่พ่อไม่เป็นห่วงสมาคมบ้างหรือ เขาเอาแต่นิ่งเงียบ

“อั๊วเข้าใจแล้ว ป๊าห่วงแต่ตัวเองไง พอป๊ากลับมาป๊าก็พยายามจะทวงคืนตำแหน่งหัวหน้าจากอั๊ว แต่พอมีปัญหา ป๊ากลับไม่สนใจมันเลย...ยังไงอั๊วก็ต้องไปเพราะอั๊วยังเป็นหัวหน้าสมาคมธรรมกุลอยู่” พูดจบหลิวหันไปสั่งให้ฮัวอยู่ดูแลความปลอดภัยให้พ่อ เธอจะไปที่นั่นเอง ระหว่างเดินไปขึ้นรถหลิวอดคิดถึงคำเตือนของพ่อไม่ได้

ooooooo

หงส์เหนือมังกร

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด