สมาชิก

หงส์เหนือมังกร

ตอนที่ 15

เป็นอย่างที่ตี๋ซุ้งคาดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน ขณะที่หลิวขับรถมาถึงถนนสายเปลี่ยว รถแล่นทับตะปูเรือใบที่เต็งล้อวางดักไว้ ยางรถระเบิดทันที รถเสียหลักไถลลงข้างทางโชคดีที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนัก เธอปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วออกจากรถต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเจอเต็งล้อยืนจ้องอยู่ ตระหนักทันทีว่าเขาแกล้งตาย

เต็งล้อชักปืนขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้าหา หลิวเห็นท่าไม่ดีค่อยๆถอยหลังหนี แต่ดันสะดุดรากไม้ล้ม

“อย่าโกรธที่อั๊วต้องทำอย่างนี้ ต้องโทษอาป๊าของลื้อ เพราะมันนั่นแหละที่เลวยิ่งกว่าอั๊ว” เต็งล้อกำลังจะยิงหลิว แต่จางเหาตามมาช่วยไว้ทัน ยิงปืนใส่ท้องเขาเสียก่อนถึงกับทรุด เขางงว่าจางเหามาได้อย่างไร หลิวเข้ามากระชากปืนไปจากมือเต็งล้อ

“คิดว่าอั๊วจะไม่เผื่อหมากไว้เลยหรือไง” หลิวเฉลยให้ฟังว่าตัวเองคิดคล้อยตามคำเตือนของพ่อที่ว่าเหตุไฟไหม้อาจเป็นแผนลวงให้ออกจากบ้านก็เลยโทร.ไปหาตัวช่วยอย่างจางเหาว่าบางทีเต็งล้ออาจจะยังไม่ตาย

“ไอ้เต็งล้อมันยังไม่ตาย...ผมรู้อยู่แล้ว”

ได้ฟังอย่างนั้นเต็งล้ออดแปลกใจไม่ได้จางเหารู้ได้อย่างไร เขาสังเกตจากการที่ท่านชาติชายถึงกับต้องฆ่าปราบเพียงเพื่อขโมยศพเต็งล้อซึ่งมันไม่สมเหตุสมผล ความจริงหากเต็งล้อยอมหยุดแล้วก็หายตัวไปเงียบๆ คงไม่ต้องลงเอยแบบนี้ ว่าแล้วจางเหายิงใส่แขนขาของศัตรูข้างละนัดรวมเป็นสี่นัดเพื่อแก้แค้นให้ตี๋ซา เพ่ยกับเก๊ารวมทั้งแปะคู และกำลังจะลั่นไกนัดสุดท้ายเพื่อแก้แค้นให้ซ้อซาแต่เต็งล้อชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“อั๊วไม่ได้ฆ่าซ้อซา” คำพูดของเต็งล้อทำให้จางเหายิ่งแค้น จะตายอยู่แล้วจะโกหกอีกทำไม

หลิวช่วยยืนว่าเต็งล้อพูดความจริง เธอเคยบอกจางเหาแล้วว่าตอนที่ซ้อซาตายมันอยู่กับเธอ จางเหาตะคอกใส่หน้าเต็งล้อ ถ้าไม่ใช่มันแล้วจะเป็นใคร เต็งล้อมั่นใจว่าคนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนต้องเป็นตี๋ซุ้งแน่นอน ตนเคยบอกแล้วพ่อของหลิวเลวที่สุด สายตาที่มองมาด้วยความเหยียดหยามของเต็งล้อทำให้หลิวของขึ้น

“แต่สำหรับอั๊ว ลื้อคือคนที่ทำให้อาม้าอั๊วตาย” พูดจบหลิวสาดกระสุนใส่เต็งล้อสามนัดซ้อนตายคาที่ มีเสียงหวอรถตำรวจดังแว่วเข้ามา จางเหาบอกให้เธอหนีไปก่อนตำรวจมาแล้ว เธอเดินไม่ไหวเนื่องจาก

ข้อเท้าพลิกตอนหนีเต็งล้อ ก็เลยบอกให้เขาหลบไปก่อนได้เลย ขืนมัวแต่ห่วงเธอจะพานถูกจับทั้งคู่ จางเหาคิดคล้อยตามก่อนจะรีบหลบออกไป หลิวรีบโยนปืนทิ้ง ยืนรอมอบตัว...

ในเวลาต่อมา หลิวถูกตำรวจท้องที่นำตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ร้อยเวรสอบไปรอบหนึ่งแล้ว สารวัตรท้องที่ไม่พอใจขอสอบเพิ่มเติมด้วยตัวเองอีกรอบหวังจะเล่นงานเธอให้ได้ ทันใดนั้นมีนายตำรวจใหญ่ระดับรองผู้กำกับเข้ามาสั่งให้เขาหยุดสอบปากคำหลิวได้แล้ว มีทนายความมาขอประกันตัวและผู้กำกับเซ็นอนุมัติแล้ว

สารวัตรอ้าปากจะเถียง กลับถูกรองผู้กำกับไล่ออกจากห้องสอบปากคำ พอสารวัตรไปพ้นแล้ว ท่านรอง จึงโทร.หาตี๋ซุ้งแจ้งว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จากนั้นยื่นมือถือให้หลิว เสียงของพ่อที่ดังจากปลายสายทำให้เธอรู้ทันทีว่าท่านเคลียร์ตำรวจให้แล้ว ตี๋ซุ้งส่งคนไปรอรับที่โรงพักแล้ว ให้เธอกลับบ้านไปก่อนได้เลย ส่วนท่านมีธุระนิดหน่อยต้องทำ หลิวซักว่าใช่เรื่องสมาคมหรือเปล่า เขาไม่ตอบแต่กลับรีบตัดบท

“แค่นี้ก่อน ไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้” ตี๋ซุ้งวางสายแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัวซึ่งสุพจน์ จรัสดาว รังสิตและภิภพนั่งรออยู่ ตี๋ซุ้งถูกเร่งรัดให้รีบดำเนินการบางอย่าง เนื่องจากทั้งสี่คนให้เวลาเขามามากพอแล้ว

“คุณรู้ใช่ไหมว่ารอยต่อนี้แค่อำนาจของธรรมกุลคงไม่พอ เห็นทีคงต้องพึ่งอำนาจของ 14Kอย่างเลี่ยงไม่ได้”

“เรื่องนั้นผมรู้ดี ไม่ต้องห่วง ผมขอเวลาอีกไม่นาน” ตี๋ซุ้งเสียงเครียด

ooooooo

ทันทีที่เจอหน้าพ่อเช้าวันถัดมา หลิวซักเป็นการใหญ่ พ่อรู้จักตำรวจพวกนั้นได้อย่างไรในเมื่อเพิ่งกลับมา ไหนจะเรื่องที่เต็งล้อเผาสมาคมแล้วดักทำร้ายเธอ แต่แทบไม่มีข่าวอะไรเลย ทั้งหมดเป็นฝีมือท่านใช่ไหม

แทนที่จะโดนเอ็ด ตี๋ซุ้งกลับยิ้มให้ “ป๊าคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ลื้อจะได้เจอเพื่อนๆของป๊า”

จากนั้นไม่นาน ตี๋ซุ้งพาหลิวมาที่เซฟเฮาส์หรูแห่งหนึ่ง สุพจน์ จรัสดาว รังสิตและภิภพรอท่าอยู่ก่อนแล้ว หลิวคุ้นหน้าพวกนี้เพราะเคยเห็นจากข่าวสังคม แต่ทุกท่านไม่ยอมให้เธอพูดถึงฐานะทางสังคมของตัวเอง

 “พวกท่านที่เป็นบุคคลสำคัญ เป็นฟันเฟืองเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศนี้ อยากพบดิฉันทำไมคะ”

ภิภพตอบคำถามแทนทุกคนว่าพวกเราอยากให้หลิวมาร่วมมือด้วย เธอแกล้งถามว่าพวกท่านคิดจะยึดประเทศนี้อย่างนั้นหรือ สุพจน์คุยอวดถ้าจะทำอย่างนั้นแค่อำนาจที่พวกตนมีอยู่คงทำได้ตั้งนานแล้ว พวกตนกำลังจะทำอะไรที่มากกว่านั้นต่างหาก หลิวถึงกับอึ้งไม่คิดมาก่อนว่าความต้องการของพ่อจะไปไกลขนาดนี้...

ระหว่างทางกลับบ้าน หลิวตัดสินใจบอกพ่อว่าจะไม่เข้าร่วมกับพวกของท่าน เพราะท่านไม่ได้อยากจะให้เธอเข้าร่วมจริงๆ ท่านแค่อยากได้อำนาจทุกอย่างคืนจากเธอเท่านั้น เธอไม่เข้าใจในเมื่อสิ่งที่ท่านคิดจะทำมันใหญ่โตขนาดนั้นแล้วท่านจะอยากได้ตำแหน่งหัวหน้าสมาคมเล็กๆไปทำไม ตี๋ซุ้งจำต้องบอกความจริงเพราะถูกกดดันจากสมาคมลับของตัวเองว่าหัวหน้าสมาคมใหญ่พอ เพราะธรรมกุลได้สิทธิ์เป็นสมาชิกของ 14K

“แต่อั๊วลาออกจาก 14K แล้ว”

“เรื่องนั้นไม่สำคัญ เพราะยังไงลื้อก็ต้องแต่งงานกับอาติยะอยู่ดี”

หลิวของขึ้นทันทีปฏิเสธลั่นว่าไม่แต่ง เธอไม่ได้รักอาติยะแล้วจะให้แต่งได้อย่างไร และอีกอย่างเธอจะไม่ยอมเป็นหมากให้พ่อบงการอีกต่อไป ตี๋ซุ้งไม่พอใจกับท่าทีของลูกแต่ยังไม่ทันจะทำอะไร จางเหาขับรถปาดหน้าก่อนจะถึงประตูรั้วบ้านธรรมกุลจนรถที่หลิวนั่งมากับพ่อเบรกหัวทิ่ม แล้วลงจากรถสีหน้าเอาเรื่อง เหล่าสมุนชักปืนออกมาเตรียมจะลงไปเล่นงานเขา หลิวร้องห้ามเสียงหลง

“ไม่ต้อง เก็บปืน เดี๋ยวฉันจัดการเอง” พูดจบหลิวเปิดประตูรถลงไปหาจางเหาซึ่งไล่เธอให้หลีกไป เธอขอร้องเขาอย่าเพิ่งทำอะไร ให้เธอคุยกับพ่อของเธอก่อน เขาไม่ยอมทำตาม จะเป็นคนถามตี๋ซุ้งเองว่าเป็นคนฆ่าซ้อซาหรือเปล่า ระหว่างนั้นตี๋ซุ้งลงจากรถเดินเข้ามาหา จางเหาหันไปเห็นก็ชักปืนใส่ หลิวรีบเอาตัวเองบังพ่อไว้ ตี๋ซุ้งเสียงกร้าว เคยบอกเขาแล้วว่าไม่ได้ฆ่าตี๋ซา จางเหารู้แล้วว่าเต็งล้อเป็นคนทำและมันก็ชดใช้ไปแล้ว

ตี๋ซุ้งอยากรู้ถ้าอย่างนั้นจางเหาต้องการอะไรจากตน หลิวตัดสินใจพูดเรื่องที่เต็งล้อบอกก่อนตายว่าพ่อเป็นคนฆ่าซ้อซา เธออยากรู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

ตี๋ซุ้งออกอาการหลุกหลิกจนจางเหาจับพิรุธได้

“ถึงเต็งล้อมันจะชั่วแต่มันก็ยังกล้ายอมรับความจริง”

“ความจริงอะไร อั๊วจะบอกให้ ความจริงก็คือมันปั่นหัวลื้อให้ลื้อมาฆ่าอั๊ว” ตี๋ซุ้งทำเป็นโวยวาย จางเหาเริ่มลังเล ตี๋ซุ้งเห็นอย่างนั้นก็ชักปืนเล็งเขา คราวนี้หลิวเอาตัวเองบังจางเหาไว้ขอร้องพ่ออย่ายิง จางเหาเห็นอาการร้อนตัวของตี๋ซุ้งยิ่งมั่นใจว่าเป็นคนทำ ในที่สุดตี๋ซุ้งก็ยอมรับว่าเป็นคนฆ่าซ้อซาด้วยมือตัวเอง หลิวไม่เข้าใจทำไมพ่อถึงต้องทำอย่างนั้น ท่านอ้างว่านี่เป็นวิธีเอาคืนเต็งล้อที่เคยโยนความผิดว่าท่านเป็นคนฆ่าตี๋ซา

จางเหาแค้นสุดๆจะยิงตี๋ซุ้ง หลิวเลยกลายเป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างปืนสองกระบอกของพ่อกับของจางเหา ด้านฮัวกับสมุนวิ่งออกมาจากในบ้านเห็นเหตุการณ์ก็ชักปืนล้อมจางเหาไว้อีกทอดหนึ่ง

“เอาสิ ยิงเลย ทางเดียวที่ลื้อจะฆ่าอั๊วได้คือลื้อต้องยิงผ่านอาหลิว”

หลิวตกใจคาดไม่ถึงว่าพ่อจะพูดแบบนี้ แถมท่านขยับตัวเพื่อใช้ตัวเธอบังปืนของจางเหาจนมิด หลิวหันมองจางเหาซึ่งบัดนี้แววตาเคียดแค้นกลับอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่อาจทำร้ายคนที่ตัวเองรักได้ค่อยๆลดปืนลง ฮัวสบช่องเข้าไปแย่งปืนจากมือเขา ตี๋ซุ้งเลวได้ใจเล็งปืนจะยิงเขา หลิวรีบปัดมือพ่อโวยวายว่าจะทำอะไร

“แล้วลื้อจะปล่อยให้มันกลับมาฆ่าป๊าหรือไง”

“ป๊า ถ้าป๊าทำอะไรเขา อั๊วจะไม่ให้อภัยป๊าเลย”

ตี๋ซุ้งโกรธที่เธอออกโรงปกป้องศัตรู ใช้ด้ามปืนตบหน้าเขาทรุดลงไปกองกับพื้น สมุนกรูกันเข้ามาลากเขาเข้าไปในบ้าน ตี๋ซุ้งมองหลิวที่มีท่าทีห่วงใยจางเหาด้วยความเคลือบแคลง เธอเองก็จ้องพ่อตอบสีหน้าผิดหวัง

ooooooo

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกเกิดรอยร้าวลึกยากจะประสาน ทั้งคู่มีปากเสียงกันอย่างหนักเพราะเธอคิดว่าพ่ออยากให้เธอตายถึงได้หลอกใช้เธอกำจัดศัตรูทั้งหมดของท่าน

“ลื้อคิดผิดแล้ว อั๊วไม่เคยอยากให้ลื้อตาย...ลื้อไม่รู้ใช่ไหมว่าอั๊วคอยดูลื้ออยู่ทุกฝีก้าว ตอนแรกอั๊วคิดจะกำจัดพวกมันให้ลื้อ แต่ที่อั๊วไม่ทำเพราะอะไรรู้ไหม เพราะมันคือสิ่งที่จะทำให้ลื้อเปลี่ยนจากนกที่อ่อนแอเป็นหงส์ที่แข็งแกร่ง คราวนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าที่ลื้อไม่ตายเพราะอั๊วไม่อยากให้ลื้อตาย”

“นี่อั๊วไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกความตายของตัวเองได้เลยใช่ไหม” หลิวตัดพ้อน้ำตาคลอ ตี๋ซุ้งไม่ได้ต้องการอะไรจากลูกขอแค่แต่งงานกับอาติยะก็พอ เธอไม่พูดอะไรอีกลุกหนีไปเลย ตี๋ซุ้งมองตามไม่พอใจ...

ตั้งแต่ทะเลาะกับพ่อครั้งล่าสุด หลิวเอาแต่นั่งใจลอยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง คำพูดของพ่อทำให้เธอตระหนักแล้วว่าเธอเป็นแค่เครื่องมือในการแสวงหาอำนาจของท่าน ทำให้เธอรู้สึกไร้ที่พึ่ง แม้แต่คนที่เป็นพ่อยังไม่รักเธอเลย น้ำตาจากไหนไม่รู้ไหลอาบแก้ม อีกมุมหนึ่งของบ้าน จางเหาในสภาพสะบักสะบอมถูกนำตัวมาขังไว้ เขายังสับสนตัวเองไม่หาย นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองเลือกที่จะทิ้งความแค้นเพียงเพราะความรัก...

ทางด้านตี๋ซุ้งไม่ยอมให้หลิวปฏิเสธความต้องการของตนเอง โทร.ตามอาติยะให้มาที่บ้าน แล้วสั่งให้สมุนขึ้นไปตามหลิว ที่ตี๋ซุ้งตามอาติยะมาพบคราวนี้ก็เพื่อจะเร่งให้เขาจัดงานแต่งงานกับเธอ อาติยะอยากรู้ว่าตี๋ซุ้งแน่ใจได้อย่างไรว่าหลิวจะยอมแต่งงานกับเขา ท่านมั่นใจเพราะว่าตอนนี้เธอเหลือแค่เขาคนเดียว

อาติยะไม่พอใจนักที่เขาเป็นแค่ตัวเลือกตัวสุดท้าย ถ้าหลิวจะแต่งกับเขาต้องเป็นเพราะเขาทำให้เธอกลับมารักเขาได้อีกครั้ง ตี๋ซุ้งยิ้มพอใจกับความมุ่งมั่นอยากเอาชนะของเขา แต่ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อสมุนเข้ามารายงานว่าหลิวหายไป ไม่ได้อยู่ในห้อง...

หลิวไม่ได้หนีไปไหน แต่ไปหาจางเหาที่ถูกคุมตัวอยู่ที่ห้องเต็งล้อ ทีแรกสมุนที่เฝ้ายามไม่ยอมเปิดประตูให้ เธอต้องใช้ตำแหน่งหัวหน้าธรรมกุลขึ้นมาขู่ พวกนั้นถึงยอมให้เธอเข้าไป เท่านั้นไม่พอเธอยังสั่งให้สมุนเอาปืนของเขามาให้เธอด้วย อ้างจะเอาไว้ป้องกันตัว ครั้นได้เข้าไปในห้อง เธอวางปืนไว้แล้วรีบแก้เชือกที่มัดมือ

จางเหาออก พอเห็นนิ้วมือที่เขาตัดออกเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ฆ่าตี๋ซุ้งก็ชะงัก “ทุกสิ่งที่คุณต้องเสียไปเป็นเพราะพ่อฉัน”

“ไม่เป็นไรหรอกเพราะตอนนี้ถ้าผมมีโอกาสผมก็ยังอยากจะฆ่าพ่อของคุณ”

หัวหน้าธรรมกุลอดสงสัยไม่ได้ตอนอยู่หน้าบ้านเขาก็มีโอกาสแล้วทำไมถึงไม่ทำ เขาอยากจะบอก

ใจแทบขาดว่าทำไม่ได้เพราะไม่อยากทำร้ายเธอซึ่งเป็นคนที่เขารัก แม้จะไม่เอ่ยคำว่ารักออกมา  แต่สายตาของเขาบ่งบอกชัดเจน เธอเองก็มองเขาด้วยสายตาที่ไม่ต่างกัน ความรักดึงดูดทั้งคู่เข้าหากันก่อนจะจูบกันอย่างดูดดื่ม

นับเป็นโชคร้ายของทั้งคู่ ตี๋ซุ้งกับอาติยะมาที่ห้องขังพอดี ตี๋ซุ้งโมโหมากที่เห็นลูกสวีตหวานกับศัตรูที่คิดจะฆ่าตัวเอง ปราดเข้าไปหยิบปืนที่เธอวางไว้ขึ้นมาจ่อจางเหา หลิวเอาตัวเองขวางทางปืนไว้ประกาศกร้าว

ถ้าพ่อจะยิงเขาก็ต้องยิงเธอก่อน อาติยะได้ยินเต็มสองหูความหวังที่จะได้ตัวหลิวกลับมาครอบครองพังไม่เป็นท่า

ตี๋ซุ้งสติแตกไม่สนใจว่าลูกจะขวางทางปืนอยู่

ยิงใส่ทันที จางเหาไวทายาดรวบตัวเธอหลบกระสุน

แม้หลิวจะปลอดภัยแต่จางเหาถูกยิงถากหัวไหล่เลือดไหล เสียงปืนทำให้อาติยะตื่นจากภวังค์เห็นหลิวอยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น รับไม่ได้ตัดใจเดินหนี ตี๋ซุ้งสั่งให้ฮัวเอาหลิวไปขังไว้ในห้องแล้วเฝ้าเธอไว้ให้ดีอย่าให้คลาดสายตา

 “ส่วนไอ้จางเหา เดี๋ยวอั๊วจะกลับมาฆ่ามันเอง” สั่งเสร็จตี๋ซุ้งรีบเดินตามอาติยะ

ฮัวเข้ามาลากตัวหลิวออกจากห้อง ทีแรกเธอขัดขืนแต่พอฮัวส่งสัญญาณเป็นทำนองให้เล่นตามน้ำไปก่อน เธอถึงได้หยุดดิ้น ฮัวสั่งให้สมุนสองคนที่คุมหน้าห้องขังมาช่วยกันพานายน้อยไป สมุนหลงกลเข้ามาช่วย ฮัวจัดการอัดสมุนสลบแล้วส่งปืนให้หลิวบอกให้รีบพาจางเหาหนีไป ไม่ต้องถามอะไรทั้งสิ้น เธอพยักหน้ารับคำ

ด้านตี๋ซุ้งตามอาติยะจนทัน ถามว่าจะยอมแพ้แล้วหรือ ไหนบอกว่ามั่นใจในตัวเองว่าจะทำให้หลิวกลับมารักเขาอีกครั้งให้ได้ อาติยะคิดอย่างนั้นมาตลอดกระทั่งเห็นเธอยอมเอาชีวิตตัวเองปกป้องจางเหา เหมือนตอนที่เธอเคยเอาตัวเองปกป้องตนจากตี๋ซุ้ง ตนถึงได้รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะรั้งเธอไว้ ตี๋ซุ้งขอร้องอย่าเพิ่งตัดรอนเรายังคุยกันได้ อาติยะไม่มีอะไรต้องคุยอีกแล้ว ฝากไปบอกพรรคพวกของตี๋ซุ้งด้วยว่าองค์การ 14Kเป็นของตน

“หากพวกคุณคิดจะแย่งมันไป ผมเองก็พร้อมที่จะใช้ชีวิตของผมปกป้องเหมือนกัน” น้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวของอาติยะทำให้ตี๋ซุ้งพูดอะไรไม่ออก ระหว่างนั้นสมุนเข้ามารายงานว่านายน้อยพาจางเหาหนีไปแล้ว อาติยะไม่ออกความเห็นใดๆ เดินจากไปทันที ตี๋ซุ้งเจ็บใจที่ทุกอย่างพังทลาย ยิ่งรู้ว่าฮัว

ขัดคำสั่งแอบช่วยให้หลิวกับจางเหาหนีไปได้ สั่งให้สมุนซ้อมอย่างหนักก่อนจะยิงทิ้งด้วยมือตัวเอง

ooooooo

หงส์เหนือมังกร

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด