สะพานไม้ชาเปล...ในลูเซิร์น.
พูดถึง “ดินแดนขุนเขาและทะเลสาบ” ต้องนึกถึง...สวิตเซอร์แลนด์
ประเทศทำเลเหมาะกลางทวีปยุโรป ประเทศที่เป็นกลางทางการเมือง ไม่มีพรมแดนทางธรรมชาติ ไม่มีภาษาหรือวัฒนธรรมและศาสนาประจำชาติร่วมกัน ทำให้ดินแดนแห่งนี้ยิ่งมีเสน่ห์
นอกเหนือจากความงามทางธรรมชาติและแหล่งมรดกโลกที่มีอยู่เต็มเปี่ยมถึง 11 แห่ง ไม่นับรวมถึงศิลปะ วิทยาการ การศึกษา และเทคโนโลยีก้าวหน้าหลากหลายแขนงที่ชาวโลกยอมรับเครื่องหมายการค้าธงชาติกากบาทสีขาวบนพื้นธงสีแดง
ว่ากันเฉพาะเรื่องท่องเที่ยว หน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ปีนี้ 2560 อายุครบ 100 ปีพอดี โอกาสดีสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทยชวนสื่อมวลชนกลุ่มเล็กๆจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารไปเยือนชมเกือบทั่วประเทศได้สัมผัสเสน่ห์หลากหลาย
ลงเครื่องบินที่สนามบินซูริก เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ อยู่ทางทิศเหนือค่อนไปทางตะวันออก ไม่ไกลจากชายแดนใต้ของเยอรมนี
...
แล้วการผจญภัยก็เริ่มต้น...
ลากกระเป๋าขึ้นรถไฟตรงดิ่งเข้า กรุงเบิร์น เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ ล่องลงไปทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ขอบคุณรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์จัด Swiss Travel Pass บัตรใบเดียวที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งประเทศทำให้การเดินทางสะดวกราบรื่น สมคำโฆษณา Switzerland by Train, Bus and Boat --ตะลุยสวิส ง่ายๆด้วยรถไฟ รถบัส และเรือโดยสาร
จากกรุงเบิร์น ที่แรกเราไปนมัสการ วัดศรีนครินทรวราราม ที่หมู่บ้านเกรทเซ่นบาค จังหวัดโซโลธูร์น ขึ้นไปทางเหนือกรุงเบิร์นราว 70 กม. เป็นวัดพุทธศาสนาแห่งแรกในสวิตเซอร์แลนด์ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เป็นศูนย์รวมใจชาวพุทธไม่เฉพาะในสวิส หากยังรวมถึงผู้คนหลากหลายจากทั่วยุโรป ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี
จาก วัดศรีนครินทรวราราม เราย้อนกลับเข้ากรุงเบิร์น เดินเที่ยวชมเมืองเก่ามรดกโลก สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1191 ที่นี่มีสถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง คือ อพาร์ตเมนต์ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์เจ้าของทฤษฎีสัมพันธภาพ ตามด้วยการเยือนสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบิร์น เพื่อแนะนำตัวทักทาย ท่านทูต กิตติพงษ์ ณ ระนอง เอกอัครราชทูตไทยประจำสวิตเซอร์แลนด์ ท่านทูตฝากถึงคนไทยที่ไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์ว่า ควรแจ้งข้อมูลให้ทางสถานทูตทราบเผื่อมีกรณีฉุกเฉิน ซึ่งคนไทยสามารถติดต่อสถานทูตผ่านเฟซบุ๊กได้โดยตรง
จากกรุงเบิร์น นั่งรถไฟลงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ จุดหมายของเรา คือ โลซานน์ ชื่อเมืองที่คนไทยคุ้นหูกันดี เพราะเป็นสถานที่ที่พระเจ้าอยู่หัว 2 รัชกาล ทั้งรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ทรงใช้เวลาทั้งพำนักและศึกษาเล่าเรียนศิลปะวิทยาการหลายแขนงนานถึง 18 ปี ถ้ามีโอกาสแนะนำให้ตามรอยพระองค์ท่านทั้งที่โรงเรียน Ecole Nouvelle de la Suisse Romande ซึ่งพระองค์เคยทรงศึกษาในชั้นประถม และมหาวิทยาลัยโลซานน์ รวมทั้งอพาร์ตเมนต์หมายเลข 16 บนถนนทิสสอต (Tissot) สถานที่ประทับในวัยเยาว์ของทั้งสองพระองค์ด้วย
จากโลซานน์ เรานั่งรถไฟย้อนกลับเข้าภาคกลางขึ้นยอดเขา ชิลธอร์น (Schilthorn) สถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ “เจมส์ บอนด์” ตอนยอดพยัคฆ์ราชินี (On Her Majesty’s Secret Service) ฉายเมื่อปี 2512 ชิลธอร์น เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขา แอลป์ หนึ่งในยอดเขาของสวิตเซอร์แลนด์ที่เหมาะสำหรับเล่นสกี
จาก ชิลธอร์น นั่งรถไฟขึ้นเหนือต่อไปยังลูเซิร์น เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เฉพาะพื้นที่ ภูมิภาคทะเลสาบลูเซิร์น ที่เดียวมีแหล่งท่องเที่ยวสำรวจผจญภัยและค้นหาความรู้มากมายแทบนับไม่ถ้วน ทั้งเมืองเก่า พิพิธภัณฑ์ ศูนย์แสดงศิลปะ แหล่งช็อปปิ้ง หรือจะขึ้นกระเช้าพิชิตยอดเขา ปิลาตุส (Pilatus) ชมทิวทัศน์ความงดงาม โดยเฉพาะขากลับลงจากเขาแนะนำให้ลองนั่งรถรางล้อเฟืองสายสูงชันที่สุดของโลกแสวงความตื่นเต้นเร้าใจในชีวิตสักครั้ง
...
จากภูเขา สัมผัสประสบการณ์แบบสวิสกันต่อ ด้วยการนั่งเรือจักรไอน้ำยุคเก่า เที่ยวชมทะเลสาบลูเซิร์น ดื่มด่ำความงามตามเส้นทางอย่างช้าๆแต่ไม่อืดอาด ชมวิถีชาวบ้านเกษตรกรตามเชิงเขา ทำให้ช่วงเวลาการล่องเรือนาน 2-3 ชั่วโมง ไม่รู้สึกเบื่อแม้แต่น้อย
ขึ้นฝั่งอีกครั้งที่ เมืองฟลูเอเล่น แวะพัก เมืองชนบทอันเดอร์มัตต์ สัมผัสวิถีชาวบ้านชนบทและวิถีเกษตรกรรมแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนเดินทางล่องลงใต้สุดของประเทศไปยัง รัฐทิชิโน (Ticino) และ ลูกาโน (Lugano) เมืองติดชายแดนทางภาคเหนือของอิตาลี
...
...
ที่นั่นแทบทุกอย่างตั้งแต่ภาษาพูด สถาปัตยกรรม และอาหารการกินล้วนได้รับอิทธิพลจากอิตาลี
ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมคนสวิตเซอร์แลนด์จึงมีภาษาพูดหลากหลายภาษา ทั้งสวิสเยอรมนี สวิสฝรั่งเศส สวิสอิตาลี และภาษาอังกฤษ อยู่ที่ว่าเป็นคนมาจากด้านที่ติดกับประเทศใด
แต่ที่แน่ๆ ไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์คราวนี้ บอกได้เลยว่า “อิ่ม” คือ อิ่มกาย อิ่มใจ และอิ่มสุข
สมคำร่ำลือ....สวิตเซอร์แลนด์ดินแดนแห่งความสุขจริงๆ...