อุซเบกิสถาน ถ้าเอ่ยชื่อนี้เชื่อว่าไม่ค่อยมี ใครรู้จักและอยากที่จะมาสัมผัสสักเท่าไหร่ เพราะขึ้นชื่อว่าเอเชียด้วยแล้วคนส่วนใหญ่จะมองไปที่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไทย ที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์ มีแหล่งช็อปปิ้ง และเดินทางสะดวกไม่ยาก

ขณะอินเดีย หรือเนปาล ก็ยังมีคนให้ความสนใจในเรื่องการแสวงบุญ หรือแม้กระทั่งกัมพูชา ที่นักท่องเที่ยวมักจะไปดูอารยธรรมความเก่าของอาณาจักรขอมโบราณอย่าง “นครวัด นครธม” ที่ถูกยกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

อุซเบกิสถาน หรือคนท้องถิ่นเรียกว่า “อุซเบก” จัดอยู่เอเชียกลาง ที่โอบล้อมด้วยภูเขาและทะเลทราย มีอาณาเขตติดกับอัฟกานิสถาน คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และเติร์กเมนิสถาน ถือเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ทวีปยุโรป ถือเป็นลูกผสมระหว่างโซเวียตกับมองโกเลีย โดยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญจำพวกก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเลียม ถ่านหิน และโลหะต่างๆ รวมไปถึงพวกสิ่งทอ

จะว่าไปแล้วก็ไม่ค่อยมีสิ่งที่น่ารื่นรมย์มากเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบเรื่องประวัติศาสตร์ อุซเบกิสถานถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าค้นคว้าเพราะมีเมืองเก่าแก่ที่มีความสำคัญเกี่ยวกับอารยธรรมบนเส้นทางสายไหมในอดีต โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมและโบสถ์เก่าแก่ของศาสนาอิสลาม

ถ้าพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวแม้จะไม่มากมายหรือสวยงามเหมือนหลายประเทศแต่ก็ถือว่ามีคนให้ความสนใจเช่นกันอย่าง “ซามาร์คันต์” เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของเอเชียกลาง ที่มีการยึดครองตั้งแต่สมัยพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย ส่วน “บุคารา” เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นพื้นที่ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

สำหรับเรื่องของกีฬาที่เด่นๆ ของอุซเบกิสถาน มีแค่ฟุตบอลกับมวยสากลสมัครเล่น โดยเฉพาะมวยสมัครเล่นดูจะเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาที่สุด และถือได้ว่าเป็นเบอร์ 1 เอเชียในยุคนี้ เพราะในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล อุซเบฯ ก็คว้าเจ้ากำปั้นในริโอเกมส์มาแล้ว แซงเหนือมหาอำนาจอย่างคิวบา ที่ชนะกันแค่เพียงเหรียญเงินเท่านั้น ส่วนประเภทอื่นอาจจะมีบ้างก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

...

วันนี้ดูเหมือนว่าอุซเบฯ กำลังหมายมั่นปั้นมือเพื่อที่จะยึดพื้นที่เบอร์ 1 ของโลกในกีฬามวยอย่างถาวร โดยไม่สนใจถึงคู่แข่งอย่างคิวบา ขณะที่ไทยเองก็กำลังปรับตัวและเร่งสร้างพื้นฐานใหม่ ด้วยการลงทุนจ้างโค้ชมือ 1 ของคิวบาอย่าง “มร.จูเลียน ริคาร์โด กอนซาเลซ เซเดโญ” มาติวเข้ม เพื่อหวังความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ 2020 อีก 3 ปีข้างหน้าที่ญี่ปุ่น

ซึ่งรายการชิงแชมป์เอเชียหนนี้บนชาติที่เป็นมหาอำนาจกำปั้นโลกจะเป็นเวทีแรกในระดับนานาชาติของเฮดโค้ชคิวบา ในการยกทัพมาแข่งนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายพาทีมกำปั้นไทยคว้าตั๋วไปชิงแชมป์โลกในเดือน ส.ค. ที่เยอรมนี ให้ได้มากที่สุด

ส่วนจะได้กี่ที่นั่ง ตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ คงต้องลุ้นและเอาใจช่วยเพื่อให้ทีมหมัดไทยไปถึงฝั่งฝัน.

โจโจ้