หนี้นอกระบบ ถือเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจสำคัญของประเทศไทยที่ฝังรากลึกมานาน ส่วนใหญ่ผู้ที่กู้หนี้ยืมสินมีหลายสาเหตุ ทั้งกลุ่มเกษตรกรที่มีความยากจน ถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง เจอมรสุมอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ ต้องกู้หนี้ยืมสินนายทุนปล่อยเงินกู้ขูดรีดดอกเบี้ยแพงเกินจริง

คนที่ขาดวินัยในการใช้เงิน ขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้จ่าย ไม่มีความสามารถเข้าถึงแหล่งเงินในระบบของสถาบันการเงินได้ จึงหันมาพึ่งเงินกู้นอกระบบ ไม่ใช่สถาบันการเงิน เพราะเข้าถึงได้ง่ายและเร็วกว่า

บางครั้งแค่ยื่นเอกสารเช้ารับเงินได้ในช่วงบ่าย ส่วนเอกสารใช้แค่สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน โฉนดที่ดินเข้ามายื่นไว้เป็นหลักฐานมัดจำ หากผ่อนชำระไม่ทันต้องถูกยึดไว้แทนเงินสดที่กู้ยืม มีอยู่ทุกจังหวัดในประเทศไทย

พอๆกับนายทุนเงินกู้ ผู้มีอิทธิพลขยายเครือข่ายครอบคลุมไปหลายจังหวัด มีกลุ่มคนมีสี นักการเมืองใหญ่ระดับประเทศ นักการเมืองท้องถิ่น คนกว้างขวางในแต่ละพื้นที่ผันตัวเองมาเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้
เพราะมีผลตอบแทนดอกเบี้ยเงินกู้เข้าข่ายเป็นรายได้หลักที่คุ้มค่ากับการลงทุน

...

การกู้ยืมเงินนอกระบบ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ปัญหาที่เกิดตามมา เพราะเจ้าหนี้เงินกู้เรียกดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมากเกินไป ลูกหนี้ไม่สามารถหาเงินมาผ่อนชำระหนี้ตามสัญญา

เกิดการทวงหนี้ตั้งแต่หนักไปหาเบา ใช้วิธีข่มขู่ คุกคาม โหด ทำให้อับอาย มีการทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ด้วยฝีมือของกลุ่มแก๊งรับจ้างทวงหนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายต่อสู้กับปัญหาหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา

ใช้ชื่อโครงการ “แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน” ตามแนวทางการแก้ปัญหาที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่สาเหตุ ทั้งด้านสินเชื่อและศักยภาพในการหารายได้ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายในการจัดการเจ้าหนี้นอกระบบ

ตำรวจ เป็นตัวแปรสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งกำชับทุกหน่วยเร่งรัดจัดการปัญหาหนี้นอกระบบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้างานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ลงมารับผิดชอบ

หลัง ผบ.ตร.เริ่มไล่เช็กบิลเจ้าพ่อเงินกู้ ตามที่ได้รับร้องเรียนมาโดยตรง และข้อมูลศูนย์ดำรงธรรม เป็นสัญญาณเตือนไปยังกลุ่มนายทุนปล่อยเงินกู้ที่อยู่ในบัญชีดำของทุก บช.ให้ยุติบทบาทกันเสียที

คดีแรก พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าตรวจค้น 5 เป้าหมาย จับกุมเครือข่าย น.ส.จันทร์เพ็ญ แก้วดีสี หรือทราย จัดหนัก อายุ 32 ปี เจ้าแม่เงินกู้ชื่อดัง พร้อม นายสุรเดช สุขสำราญ อายุ 39 ปี สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบ้านลาด แฟนหนุ่ม พร้อมของกลางอาวุธปืน 5 กระบอก เอกสารเงินกู้หลายแฟ้ม

มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้เก็บดอกเบี้ยรายวันในจังหวัดเพชรบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง มีกลุ่มชายฉกรรจ์ตั้งตัวเป็นทีมงานคอยวิ่งทวงหนี้ ประมาณ 20–30 คน

น.ส.จันทร์เพ็ญใช้เวลาแค่ 9 ปี จากเงินปล่อยกู้ 9 หมื่นบาทขยับเป็น 100 ล้านบาท จนได้ชื่อเป็นเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี

อีกราย สภ.ราชบุรี จับกุมเครือข่าย นายชัยยะ แก้วยิ่งโยชน์ อายุ 47 ปี ยึดของกลางอาวุธปืน 8 กระบอก ซึ่งลูกหนี้ไม่มีใครรู้จักหรือเห็นหน้านายชัยยะ เวลาที่ขอกู้เงินติดต่อผ่านลูกน้องของนายชัยยะ คิดดอกเบี้ยเป็นรายวัน ร้อยละ 20 บาทต่อวัน

...

ถ้ายืม 10,000 บาท ต้องจ่ายวันละ 2,000 บาท บางรายจ่ายไปจนเกินเงินต้นแล้ว แต่ไม่สามารถหาเงินต้นมาคืนได้ ต้องผ่อนดอกลอยไปเรื่อยๆ หากชำระไม่ตรงตามเวลาจะมีคนมาทวงหนี้ทันที

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติได้สั่งระดมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลเงินกู้นอกระบบและอาวุธปืน พร้อมกัน 1-10 เม.ย. จับกุมขบวนการปล่อยเงินกู้นอกระบบได้ถึง 149 ราย ผู้ต้องหา 192 คน พบว่า บช.ภ.2 จับกุมได้มากสุดถึง
36 ราย รองลงมาคือ บช.ภ.1 และ บช.ภ.5 จับได้ 29 และ 28 ราย จับกุมผู้ครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย 1,462 ราย ของกลางอาวุธปืน 961 กระบอก

ตำรวจทุกพื้นที่ขยับเดินหน้าจับกุมเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบตามนโยบายรัฐบาลและ ตร.

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เน้นมาก ทุกคนต้องช่วยกัน เป็นโอกาสดีแล้วที่รัฐบาลให้เครื่องมือเรามาคือ พ.ร.บ.ห้ามเรียกอัตราดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 เพิ่มโทษสำหรับเจ้าหนี้ที่ละเมิด มีโทษจำคุกถึงสองปี ปรับไม่เกินสองแสนบาท และหากทำกันเป็นขบวนการที่เป็นลักษณะนายทุน จะมีโทษจำคุกหนักถึงห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท”

...

“หากเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดเสียเองจะเพิ่มโทษเป็น 2 เท่า ถ้าข้าราชการที่คิดผิด หวังได้เงินแบบผิดๆ รับจ้างไปทวงหนี้ โดยอาศัย ยศ ตำแหน่งของตนเองต้องเลิกได้แล้ว ถ้าเตือนไม่ฟังจะมาว่ากันทีหลังไม่ได้ เรื่องนี้เราต้องเร่งสนองนโยบาย ของรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องปัญหา บ้านเมือง ปัญหาเศรษฐกิจประเทศ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในครั้งนี้ต้องเดินหน้าไปแบบบูรณาการ ที่สำคัญตัวลูกหนี้เอง ต้องเลิกหันไปพึ่งพากระบวนการหนี้นอกระบบ ต้องมีวินัยในการ จับจ่ายใช้สอย มิใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐเพียงเท่านั้น ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปแบบยั่งยืน”

นโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของคนยากจนที่ตกเป็นเหยื่อผู้มีอิทธิพลตั้งตัวเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ขูดรีดเรียกเก็บดอกเบี้ยแพงเกินจริง เป็นหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามากวาดล้างอย่างจริงจัง ทำให้แก๊งเงินกู้นอกระบบ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง คนมีสีนอกแถว ผู้มีอิทธิพล มาอยู่ภายใต้กฎหมายไทยไม่ปล่อยให้หากินอยู่บนความเดือดร้อนของคนยากจน.

ทีมข่าวอาชญากรรม