ทุกปีที่นักการเมืองหนุ่มน้อย ฟอร์มดีวี่แววอนาคตไกล โทร.มาสวัสดี ผมก็มักมีเรื่องใกล้ตัวเป็นอุทาหรณ์ แล้วสมมติตัวเองเป็นผู้เฒ่าสอนลูกหลาน

เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งในหนังสือที่ถูกค้นในหีบหนังสือวังจิงหยวนกง พระราชวังโบราณกรุงปักกิ่ง หงอิ้งหมิง สมัยราชวงศ์หมิงเขียน

บุญศักดิ์ แสงระวี ผู้แปล ตั้งชื่อเรื่องว่า โอ่งเอียง กับกระบอกเงิน (สายธารแห่งปัญญา สำนักพิมพ์ ก.ไก่ พ.ศ.2535)

ตอนเช้าวันนั้น เมื่อสองพันปีที่แล้ว ขงจื๊อ ยอดเมธี นำสานุศิษย์เดินทางไปถึงศาลเจ้าหลู่หวนกง พอเข้าไปในวิหารใหญ่ ก็เห็นโอ่งใบหนึ่ง ตั้งตะแคงไปมา

ถามคนเฝ้าศาลได้ความว่า เขาเรียกกันว่าโอ่งเอียง

แท้จริงขงจื๊อรู้จักโอ่งใบนี้ดีอยู่แล้ว เขาหันไปบอกศิษย์ว่า เคยได้ยินว่าโอ่งเอียงใบนี้ ถ้าไม่ใส่น้ำจะตะแคงไปข้างหนึ่ง ถ้าหาก เทน้ำลงไปครึ่งโอ่ง มันจะตั้งตรง

แต่ใส่น้ำต่อไปจนเต็ม มันจะคว่ำ

พูดแล้ว ขงจื๊อก็สั่งให้ศิษย์ทดลอง...ช่วยกันไปหาน้ำมาเทใส่โอ่งใบนั้น ผลก็เป็นเช่นคำโบราณว่า เมื่อน้ำมีครึ่งโอ่ง โอ่งก็ตั้งตรง เมื่อเทน้ำลงไปเต็ม โอ่งก็คว่ำลง น้ำไหลนองไปทั่วพื้น

“เรื่องราวในโลกนี้ ก็ล้วนแต่เป็นเช่นนี้ มิใช่หรือ?” น้ำเสียงขงจื๊อซาบซึ้ง “เพราะเยี่ยงนี้ คนที่มีความพึงใจในตัวเองมากจนเกินไป มักจะล้มคว่ำได้ง่ายๆ”

เรื่องเล่าโอ่งเอียงเรื่องเดียว ชวนให้ขบคิดมิรู้สิ้น แต่หากยังไม่เข้าใจ...หงอิ้งหมิง ผู้แต่งหนังสือ ยังมีเรื่องเล่า เรื่องที่สอง “กระบอกเงิน”

ในตอนแรกกระบอกเงินก็ว่างเปล่า ต่อมาเมื่อมีอีแปะใส่เพิ่มเข้าไปวันละอันสองอัน จนเมื่อถึงวันหนึ่งที่กระบอกเงินนั้นเต็ม นี่คือสัญญาณแห่งเคราะห์กรรม

...

ในวันนั้น วันที่กระบอกเงินถูกผ่าออก

มีใครที่ไหนบ้าง ที่ใส่เงินลงไปในกระบอกเงินจนเต็มแล้ว ไม่ผ่าเอาเงินออกมาทำประโยชน์เล่า

กระบอกใส่เงิน เมื่อตอนที่ว่างเปล่า...สามารถรักษาความปลอดภัยของตนไว้ได้

คนก็ควรเป็นเช่นนั้น

ชั่วชีวิตหนึ่งพึงเปิดใจให้กว้าง รับสรรพสิ่งสวยงามเท่าที่มีในโลกมนุษย์ ด้วยความนอบน้อมถ่อมตน

อย่าคิดถึงแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการฝ่ายเดียว

อย่าปล่อยให้ความเย่อหยิ่งลำพอง เข้ามาแทรกอยู่เต็มหัวอก ทำแต่เรื่องเลวๆ เป็นที่อับอายขายหน้าต่อฟ้าดิน

ชะตากรรมสุดท้าย คงหนีไม่พ้นโอ่งเอียงที่ล้มคว่ำ เพราะน้ำเต็ม

เป็นเช่นกระบอกเงิน ที่จะถูกผ่าเมื่อเงินเต็ม

ตัวอย่างใกล้ๆ ในบ้านเมืองเรา พรรคการเมืองใหญ่ เมื่อคนนำพรรคถือใจตนเป็นใหญ่ ไม่ฟังคำใคร ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อย...ผลการเลือกตั้งที่ออกมา พรรคใหญ่ก็กลายเป็นพรรคเล็ก

กระทั่งเปลี่ยนผู้นำพรรคแล้ว หากยังได้แต่ผู้นำที่มีตัวตนใหญ่ ชนิดที่ “แตะต้องตัว” ไม่ได้ สถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้าย พรรคที่เล็กลงไปแล้ว เริ่มมีเค้าแตกให้เล็กออกไปอีก

ถ้าเป็นโอ่งเอียง...ล้มคว่ำน้ำไหลออกไปแล้ว ก็ยังตั้งหลักใหม่ ค่อยๆเติมน้ำครึ่งโอ่งก็กลับตั้งตรงได้ แต่ถ้าเป็นกระบอกเงินสถานการณ์เลวร้าย...เมื่อถูกผ่าออกแล้ว กระบอกเงินก็หมดค่า ถูกทิ้งเป็นขยะ

ชะตากรรมของโอ่งเอียง กับกระบอกเงิน หากจะมีข้อแตกต่างกันบ้าง ก็ตรงนี้เอง.

กิเลน ประลองเชิง