วิธีลงทุนให้รวยก่อนแก่ ฟังดูเป็นเรื่องที่ยากในสังคมไทยที่คนส่วนใหญ่ “แก่ก่อนรวย” เพราะมีการออมเงินเพื่ออนาคตกันน้อยมาก แต่ความจริงกลับไม่ยากอย่างที่คิด ข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุว่า คนไทยมีบัญชีลงทุนผ่านโบรกเกอร์ราว 2 ล้านบัญชี ส่วนใหญ่ชื่อซ้ำกัน นักลงทุนในหุ้นจริงๆอาจมีเพียง 150,000 คน ส่วน การลงทุนผ่านกองทุนรวมมี 6 ล้านบัญชี รวมบัญชีหุ้นและกองทุนรวมแล้ว มีผู้ลงทุนราว 11% ของประชากรไทย 70 ล้านคน ถือว่าน้อยมากๆแล้วทำอย่างไรจึงจะหาเงินให้ “รวยก่อนแก่” ได้อย่างที่ทุกคนอยากเป็นความจริงก็ไม่มีอะไรยาก ถ้าคนไทยมีวินัยการออม คุณกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย ให้คำแนะนำว่า มนุษย์เงินเดือน หรือผู้มีรายได้ไม่สูงนัก ควรลงทุนด้วย DCA หรือ Dollar Cost Average ซึ่งเป็นการ “ลงทุนแบบถัวเฉลี่ย” ด้วยการทยอยลงทุนด้วยจำนวนเงินที่เท่ากันทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว โดยไม่ให้ความสำคัญกับราคาหุ้นรายวัน แต่ให้ความสำคัญกับการเลือกหุ้นโดยอาศัยสถิติคุณกวี ได้ยกตัวอย่างในรายการคู่หูนักลงทุนว่า ถ้าออมเดือนละ 2,000 บาท ในหุ้นที่ให้ผลตอบแทน 12% ต่อปี ถ้าออมเป็นระยะเวลา 30 ปี จะได้เงิน 6,989,928 บาท แต่ถ้าออมเพียง 20 ปี และหยุดออมจนถึงปีที่ 30 จะได้รับเงิน 6,529,851 บาท การลงทุนด้วยกลยุทธ์ DCA จึงเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในระยะยาวเห็นไหมครับ การ “รวยก่อนแก่” เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลยสักนิด ถ้าเริ่มลงทุนตั้งแต่ยังทำงาน เริ่มออมตั้งแต่อายุ 30–40 ปี ไม่ต้องใช้เงินมาก เพียงเดือนละ 2,000 บาท เมื่อเกษียณอายุตอน 60 ปี คุณก็จะมีเงินออม 7 ล้านบาทอยู่ในมือเท่ากับว่า คุณจะมีเงินใช้จ่ายเดือนละ 30,000 บาทไปอีก 20 ปี นับตั้งแต่อายุ 60 ปีที่เกษียณไปจนถึงอายุ 80 ปี ถ้าออมต่อเดือนมากกว่านี้ ก็จะมีเงินใช้หลังเกษียณมากกว่านี้เงิน 7 ล้านบาทก้อนนี้ ถือเป็น เงินลงทุนส่วนตัวเพื่อการออมในระยะยาว เมื่อรวมกับ เงินได้จากการเกษียณอายุ เงินบำนาญแต่ละเดือน และ เงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพิ่มเติม คุณจะมีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณอย่างมีความสุขแน่นอน การลงทุนด้วยกลยุทธ์ DCA ก็ไม่มีอะไรยากอีกเช่นกัน ตั้งแต่ วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน–1 ธันวาคม จะมี งานมหกรรมการเงินส่งท้ายปี ครั้งที่ 3 Money Expo Year End 2019 มหกรรมการเงินการลงทุนครบวงจร จัดโดย วารสาร “การเงินธนาคาร” ที่ ฮอลล์ 99–100 ศูนย์ประชุมและนิทรรศการ ไบเทคบางนา เป็นเวลา 4 วัน ภายในงานจะมี ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารรัฐ นอนแบงก์ บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) บริษัทจัดการกองทุน (กองทุนรวม) บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย นำบริการทางการเงินการลงทุนไปให้เลือกลงทุนกันมากมายพร้อมด้วยโปรโมชันพิเศษแบบลดแลกแจกแถมส่งท้ายปีท่านผู้อ่านสามารถจะไป หาข้อมูลการลงทุนในงาน และ เลือกลงทุนกับโบรกเกอร์ต่างๆที่ไปออกบูธในงาน หลายโบรกเกอร์ก็อยู่ในบูธเดียวกับธนาคารแม่ ท่านสามารถไปสอบถามการลงทุนระยะยาวแบบ DCA ได้ ผมรับรองว่ามีให้บริการทุกโบรกเกอร์ แต่ละโบรกเกอร์มีคำแนะนำและเงินลงทุนแต่ละเดือนแตกต่างกัน เช่น ลงทุนเดือนละ 1,000 บาท ปีละ 12,000 บาท เป็นการลงทุนที่น้อยมากๆ แต่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในระยะยาว แต่ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ลงทุนตั้งแต่เดือนละ 2,000 บาทขึ้นไป จนถึงเดือนละ 5,000–10,000 บาท เพื่อให้เกษียณอย่างมีความสุขจริงๆ ต้องไปคุยเองในงาน จะลงทุนมาก ลงทุนน้อยขึ้นอยู่กับรายได้ แต่อย่างน้อย เดือนละ 1,000–2,000 บาท ผมเชื่อว่า มนุษย์เงินเดือน สามารถที่จะลงทุนได้อย่างแน่นอนก็เป็นเรื่องดีๆที่เอามาเล่าสู่กันฟังครับ ผมอยากให้คนไทยทุกคนรวยก่อนแก่ เพราะทำได้ไม่ยาก แค่ลงทุนเดือนละ 1,000–2,000 บาทเท่านั้น อย่ารอให้ “แก่ก่อนรวย” เลยครับแต่อย่าเพิ่งเชื่อผม ลองไปศึกษาข้อมูลที่ งานมหกรรมการเงิน Money Expo ส่งท้ายปี ครั้งที่ 3 ที่ ไบเทคบางนา ระหว่าง วันที่ 28 พฤศจิกายน–1 ธันวาคม ด้วยตัวเอง ผมเพียงนำข้อมูลมาเล่าเพราะเห็นว่าโอกาสดีมาถึงแล้ว พลาดไปก็น่าเสียดาย.“ลม เปลี่ยนทิศ”