เริ่มวันพรุ่งนี้ 2-4 พฤศจิกายน ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด อาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 35 ในฐานะประธานอาเซียน งานนี้มีผู้นำจาก 17 ประเทศเข้าร่วมประชุมยกเว้น ประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ส่งแค่ที่ปรึกษา นายโรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงทำเนียบขาวคนใหม่ เป็นทูตพิเศษเข้าร่วมการประชุมสุดยอดครั้งนี้ และส่ง นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ เข้าร่วมประชุม Indo-Pacific Business Forum และ การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ขณะที่ สภาผู้แทนสหรัฐฯ เตรียมลงดาบถอดถอน ประธานาธิบดีทรัมป์ ในการประชุมเมื่อวานนี้
ไปดูรายชื่อ ผู้นำ 17 ประเทศ ที่มาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 35 กันเสียหน่อยนะครับ ถือเป็นการให้เกียรติประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ
ผู้นำอาเซียน 1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯไทย เจ้าภาพการประชุม 2.สมเด็จพระราชาธิบดี โบลเกียะห์ นายกฯบรูไน 3.นายลี เซียนลุง นายกฯสิงคโปร์ 4.ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกฯมาเลเซีย 5.นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย 6.นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ 7.นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา 8.สมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา 9.นายทองลุน สีสุลิด นายกฯลาว 10.นายเหวียน ชวน ฟุค นายกฯเวียดนาม
ผู้นำประเทศคู่เจรจา 1.นายหลี่ เค่อเฉียง นายกฯจีน 2.นายอีนัก-ยอน นายกฯเกาหลีใต้ 3.นายชินโสะ อาเบะ นายกฯญี่ปุ่น 4.นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกฯออสเตรเลีย 5.นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกฯนิวซีแลนด์ 6.นายนเรนทรา โมดี นายกฯอินเดีย 7.นายดิมิทรี เมดเดเวฟ นายกฯรัสเซีย
การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศคู่เจรจาครั้งนี้ สาระสำคัญอยู่ที่ การประชุม RCEP ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค 16 ประเทศ ระหว่าง 10 ประเทศอาเซียนกับคู่เจรจา 6 ประเทศคือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เพื่อร่วมกันสร้าง เขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีประชากรรวมกันกว่า 3,560 ล้านคน มีมูลค่าจีดีพีรวมกันกว่า 50 ล้านล้านดอลลาร์ 39% ของโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันกว่า 11.4 ล้านล้านดอลลาร์ กว่า 30% ของมูลค่าการค้าโลก โดยไม่มีประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 1 ของโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา เข้าร่วมด้วย จึงไม่แปลกที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ จะไม่มาร่วมประชุม ส่งแค่ที่ปรึกษามาแทน
...
ที่สำคัญการประชุมสุดยอดอาร์เซ็ปครั้งนี้ ประเทศจีน ผลักดันหนุนหลังประเทศไทย อย่างเต็มที่ ทำให้ผู้นำสหรัฐฯอาจไม่สามารถแสดงบทบาทบนเวทีนี้ได้อย่างเต็มที่
วันนี้จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรี ถ้าหาก คณะเจรจาไทยสามารถสรุปการเจรจาได้สำเร็จ สามารถ ออกแถลงการณ์ร่วม หรือ Joint Leaders Statement ในวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ได้ ชื่อเสียงประเทศไทยจะขจรขจายไปทั้งโลกเลยทีเดียว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็จะได้หน้าบานเป็นกระด้งไปด้วย ในฐานะประธานการประชุม ผมขอเอาใจช่วย ขอให้การเจรจาขั้นสุดท้ายในสองวันนี้ประสบความสำเร็จ จะได้มีการ ประกาศเขตเสรีการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ RCEP ที่เจรจามา 6 ปีตั้งแต่ปี 2556 ไม่สำเร็จเสียทีก็เพราะ อินเดียยังมีความกังวลเรื่องสินค้าราคาถูกจากจีนจะส่งเข้าไปถล่มตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นข้อกังวลที่ผมเห็นว่า มีเหตุอย่างยิ่ง ข้อกังวลของผู้นำอินเดียเรื่องนี้ ผู้นำไทยไม่เคยมีใครคิดหรือแสดงความกังวลเลย ตัวอย่างเช่น เขตการค้าเสรีอาเซียน ไทยเปิดประตูทุกบาน รถยนต์จากประเทศเพื่อนบ้านส่งมาขายเมืองไทยเสียภาษี 0% คือไม่ต้องเสียภาษี แต่รถยนต์ผลิตจากเมืองไทยส่งไปขายเวียดนามกลับเจอภาษีสารพัด เป็นต้น
ถ้า เขตการค้าเสรี RCEP สามารถตกลงกันได้สำเร็จ อนาคตธุรกิจคนไทยไม่รู้จะเป็นอย่างไร คงโดนสินค้าดีกว่าถูกกว่าจาก จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย ตีตลาดยับเยินแน่นอน ผมก็ฝากให้ผู้นำประเทศไทย ไปนอนคิดเป็นการบ้านก่อนการประชุม จะดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนอย่างไร.
“ลม เปลี่ยนทิศ”