จู่ๆ ภราดร ศักดา ตำนานนักข่าวรุ่นพี่ วัย 87 ปี ยังสดชื่นแจ่มใส ดั้นด้นมาหายื่นหนังสือ “อยู่กับสามจอมพล” ให้ บอกสั้นๆ เขียนจากประสบการณ์ 67 ปี อยากให้ได้อ่าน

(สำนักพิมพ์ยุคใหม่ เคล็ดไทยจำหน่าย)

นักข่าวรุ่นผมทำข่าวรัฐบาลเผด็จการมาไม่น้อย เจอรุ่นพี่ รุ่นที่ทันสมัยจอมพล ป. จอมพล สฤษดิ์ เข้าก็ต้องชิดซ้าย

เผด็จการรุ่นนั้นไม่ต่อปากต่อคำกับนักข่าวยืดยาว ท่านเอาจริง พูดสั้นไม่กี่คำ แต่เอาถึงตาย เด็กรุ่นใหม่ที่ตั้งท่า “ลองของ” เผด็จการ น่าจะอ่านมากกว่าใครอื่น

เรื่องที่ 16 ภราดร ศักดา เล่าถึงท่านผู้นำจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เจ้าของสโลแกน “น้ำไหล ไฟสว่าง หนทางดี”

สมัยนั้นน้ำประปากรุงเทพฯไม่ค่อยไหล ไฟฟ้าก็ดับๆติดๆ คุณภราดรอยู่แถวสี่กั๊กพระยาศรี ข้างวัดราชบพิธฯ ริมกำแพงวัดมีก๊อกน้ำประปาสำหรับประชาชน

ใครหิวน้ำก็ใช้คันชักน้ำออกมาดื่มฟรี ยืนยันว่ายุคท่านจอมพลที่ 2 น้ำไหลดีจริง

ส่วนไฟฟ้าก็สว่างไสวไปทั่วกรุงเทพฯ แต่ผิดสังเกตช่วงใกล้ตรุษจีน จะเป็นเพราะพ่อค้าปิดบัญชีไม่ลง หรือเพราะอะไรไม่รู้เกิดเหตุไฟช็อตทำให้ไฟไหม้ถี่ยิบ

ไฟไหม้ใหญ่ที่ตลาดพลู ตำรวจสอบสวนแล้วไฟไม่ได้ช็อต แต่มีคนตั้งใจเผา...ท่านจอมพลมี ม.17 ใช้ในมือ ท่านก็สั่งฉับไว สำนวนชาวบ้านว่า “เอาไปยิงเป้า”

เจอยิงเป้าเข้าไป ข่าวไฟไหม้ก็ซาลง ชาวบ้านยกมืออนุโมทนาสาธุ พลอยเป็นใจไปกับอำนาจเผด็จการ เพราะเห็นว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยทันตา

แต่เสียงแซ่ซ้องการใช้ ม.17 ยิงเป้า คนเผาเมืองก็เบาลง เมื่อมีการยิงเป้าคอมมิวนิสต์ที่อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร คนที่สนใจการเมืองบางฝ่ายเริ่มตั้งข้อสงสัย

...

การใช้ ม.17 ยิงเป้า นายครอง จันดาวงศ์ ผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ โดยไม่มีการสอบสวนเป็นข่าวใหญ่ คนรู้ทางการเมืองว่ารัฐบาลจอมพลเอาใจสหรัฐอเมริกา ที่กำลังเป็นโรคกลัวคอมมิวนิสต์ขึ้นสมอง

สมัยนั้นการเดินทางไปสกลนครไม่ง่าย ภราดร ศักดา ไปถึงอุดรใช้ถนนที่จอมพลสฤษดิ์สั่งตัดใหม่ ไปถึงสกลนคร ยืนยันนโยบาย “หนทางดี”

ภราดรถูกสั่งให้ไปทำข่าวเบื้องหลังการยิงเป้า ซึ่งมีข่าวนายครอง เป็นคอมมิวนิสต์ใหญ่ ซ่องสุมผู้คนมากมาย มีลานฝึกอาวุธอยู่ข้างบ้าน

เชื่อมโยงกับคดีมีการฆ่ากันหลายคน ที่บ้านไม้ล้มแบ่ง ที่ปากเซ เขตติดต่อลาว

การทำข่าวของนักข่าวยุคหวาดคอมมิวนิสต์ ถูกคนของทางการจับตา ไปนั่งกินข้าวที่ร้านอาหาร ไปคุยกับคนในร้านถ่ายรูปก็ถูกกระซิบให้ระวัง นั่นเป็น “ร้านญวน”

บากบั่นเข้าไปถึงจุดข่าวก็พบความจริงที่น่าสลดใจ บ้าน “ครูครอง” หลังโรงพักสว่างแดนดินนั้น พื้นที่ที่ถูกบอกว่าเป็นลานฝึกอาวุธ เป็นพื้นที่เล็กๆ ผูกควายได้แค่สองตัว

ส่วนเรื่องคนฆ่ากัน เป็นเรื่องของพ่อค้าวัวหักหลังกันฆ่ากันเอง แต่ถูกผูกโยงแบบจับแพะชนแกะเข้าไป เป็นเรื่องก่อการร้ายของ นายครอง จันดาวงศ์

ภราดร ศักดา เล่าว่า ปี 2502 ถามทางไปบ้าน “ครูครอง” มีแต่คนส่ายหน้าหนี แต่เมื่อไปวันนี้วันที่ความจริงคลี่คลายก็ถูกแนะนำให้ไปไหว้สถูปบรรจุอัฐิครูครองด้วยความภาคภูมิใจ

ยุคเผด็จการมีนโยบายน้ำไหล ไฟสว่าง หนทางดี มีทั้งการยิงเป้า “ครูครอง” หักกลบลบหนี้กัน ผลงานแบบท่านจอมพล...ยังขาดทุน

อย่างน้อยก็ข้อที่โหดร้ายทำลายคนดี ซึ่งควรจะใช้สร้างสรรค์สังคมไป อย่างน่าเสียดาย.

กิเลน ประลองเชิง