เข้าทำนอง “วัวหายจึงล้อมคอก” แต่เรื่องนี้เป็นเรื่อง “เรือล่ม” จึงเรียกหามาตรการป้องกัน แต่ก็ยังดีกว่านิ่งเฉย มีรายงานข่าวว่าทางการต้องเร่งกู้ชื่อเสียง ด้านการท่องเที่ยวของไทยโดยด่วน หลังจากเกิดอุบัติเหตุเรือนำเที่ยวล่มที่ภูเก็ต ผู้โดยสารเสียชีวิต 50 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน ซ้ำเติมด้วยกรณี รปภ.สนามบินดอนเมืองตบหน้าชาวจีน
อธิบดีกรมการท่องเที่ยวแถลงว่า ทางการได้ออกมาตรการความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น เรือท่องเที่ยวที่ภูเก็ตทุกลำ ต้องถูกตรวจสอบรวมทั้งกัปตันเรือ และผู้โดยสาร แต่ถ้ายังไม่ได้ผลจะเสนอให้ใช้มาตรการเข้มงวดยิ่งขึ้น เช่น ห้ามเรือออกจากท่าในช่วงเดือนมรสุม ยอมรับว่าที่ผ่านมาเราเน้นถึงนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ไม่ได้สร้างมาตรฐานความปลอดภัย
จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวจีนทั้งสองเรื่อง ทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยลดลงทันที รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ในขณะนี้เป็นเสมือนหนึ่งว่าจีนชักใบเหลืองให้ไทย แม้ทางการจีนจะไม่ได้ประกาศเตือนอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานข่าวตามสื่อต่างๆของจีน เกี่ยวกับความไม่ปลอดภัย รวมทั้งเตือนให้ระวังถูกทำร้าย
จีนมีประชากรถึง 1.4 พันล้านคน นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปประเทศต่างๆหลายสิบล้านคน มาประเทศไทยเมื่อปี 2560 กว่าสิบล้านคน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดราว 35 ล้านคน การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้ประเทศสูงสุด ประเมินกันว่าหากนักท่องเที่ยวจีนหายไปประมาณ 1 ล้านคน ไทยจะสูญเสียรายได้ 4 หมื่นล้านบาท
รัฐบาลและทางราชการไทยจึงต้องรณรงค์เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ไขได้ง่ายๆ เพราะส่วนหนึ่งกลายเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน เป็นเรื่องของอารมณ์ คนจีนบางส่วนอาจมีทั้งโกรธและกลัว บางคนอาจไม่พอใจที่รองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งพูดถึงโศกนาฏกรรมเรือล่มที่ภูเก็ต ว่า เป็นเรื่องที่คนจีนทำกันเอง อาจจะมีส่วนจริง เช่น คนจีนอาจเกี่ยวข้องกับกิจการเรือท่องเที่ยว แต่คนจีนส่วนใหญ่ไม่รู้ความจริง
...
ต้องยอมรับด้วยว่าสาเหตุของปัญหาส่วนใหญ่มาจากเจ้าหน้าที่รัฐที่ภูเก็ตเนื่องจากความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมาย ไม่ตรวจสอบสภาพเรือและระบบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เหตุใดเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่เข้มงวด ส่วนที่ดอนเมืองเจ้าหน้าที่รัฐทำเอง
ซ้ำยังมีการเผยแพร่ข่าวตามสื่อของจีนอ้างว่านักท่องเที่ยวจีนที่มาทำวีซ่าเข้าประเทศที่ท่าอากาศยานไทย นอกจากจะเสียค่าธรรมเนียมรายละ 2,000 บาทแล้ว ยังต้องเสียค่าบริการพิเศษอีกรายละ 300 บาท หากต้องการบริการที่รวดเร็ว กล่าวโดยสรุปก็คือมีกลิ่นของการทุจริตคอร์รัปชันอยู่ด้วย เป็นปัญหาโลกแตกใครจะเป็นผู้แก้ปัญหา.