“ทางอีศาน” ฉบับเดือนสิงหาคม 2561 มีเรื่องสาระหนักเบา ถูกจริตผมหลายเรื่อง วันนี้ผมขอเรื่องเบาๆ มาเล่าผ่อนคลายบรรยากาศลุ้นระทึกทางการเมือง เรื่องคนพากย์หนังทิดโส สุดสะแนน เกริ่นนำว่า สมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาคอีสานยังล้าสมัย สิ่งบันเทิงเริงรมย์มีแต่หมอลำพื้น หมอลำกลอน รำวงพื้นบ้าน และหนังบักตื้อ (หนังปราโมทัย)ต่อมาก็มีหนังขายยา ลิเก ละคร และวงดนตรีเดินสายมาเปิดวิกเก็บเงินตามหอประชุมต่างๆอำเภออำนาจเจริญสมัยนั้น เริ่มมีโรงไฟฟ้าปั่นไฟ เปิดเวลาหกโมงเย็นถึงเที่ยงคืนเริ่มมีโรงหนังครั้งแรก ล้อมสังกะสีมีหลังคาครึ่งเดียวเฉพาะห้องฉายหนังกับห้องคนพากย์ ฝนตกคนดูก็เบียดอยู่ด้านมีหลังคา ค่าดูเด็ก 50 สตางค์ ผู้ใหญ่ 1 บาทธรรมเนียมของโรงหนัง ตอนหัวค่ำก็จะเปิดเพลง ชวนคนให้เดินมาซื้อขนม น้ำแข็งน้ำหวาน รอเวลาดูหนังทุ่มครึ่ง ก็เปิดเพลงมาร์ชสามัคคี 4 เหล่า วนไปวนมา กว่าหนังจะฉายก็ปาเข้าไปเกือบ 3 ทุ่ม แต่ถ้าเป็นหนังฝรั่งหรือหนังญี่ปุ่นดังๆ อย่าง แซมซั่น โรมิโอจูเลียต เจ็ดสิงห์แดนเสือ จังโก้ ริงโก้ คนดูมักเต็ม หนังก็ฉายแต่หัวค่ำหนังฝรั่งดังๆดีๆ ก็ต้องมีนักพากย์ดัง ขวัญใจชาวอีสานตอนนั้น มี ดาราพร นันทวรรณ มหาราช แต่ที่ดังระดับซุปเปอร์สตาร์ ก็คือ โกญจนาท คนนี้พากย์นอกบท ลีลายียวนกวนอารมณ์ สลับมุกฮา ตลอดทั้งเรื่องนักพากย์อย่างโกญจนาท ถ้าขึ้นชื่อโฆษณา พากย์หนังธรรมดา ก็เป็นหนังทำเงินแฟนๆที่ชอบลีลาก็มาดูกันเต็มโรงทิดโส เล่าว่า ก่อนหนังจะฉาย โรงหนังจะปิดไฟมืด คนดูเพ่งจอหนัง สักครู่ลำแสงจากเครื่องฉายก็เริ่มมีภาพไตเติล เสียงพากย์ระบบเอ็คโค่ก็ดังขึ้น “เจ็ดสิงห์แดนเสือ” และเงียบภาพในจอฉายโลโก้บริษัทผู้สร้าง เสียงเอ็คโค่ก็ดังอีก “เมโทรสิงโตเห่า” สร้างคนดูก็เริ่มฮือ...พอถึงชื่อดารานำแสดง “ยูน หัวโล้น” ตามด้วย “โกญจนาท บรินเน่อร์” เท่านั้นแหละ ก็เกิดเสียงฮาตรึม พร้อมเสียงปรบมือกันสนั่นโรงส่วนหนังขายยาดูฟรี ก็มีแต่หนังคาวบอย หนังอินเดียเก่าๆ นักพากย์มักรอบจัด โฆษณาขายยาอยู่นั่นแหละ กว่าจะยอมฉาย ฉายไปแล้วจบม้วนถึงตอนดี ก็โฆษณาๆยาแก้ไข้ปวดหัวตัวร้อน ยาแก้ไอ ฯลฯตัวอย่าง...ใครที่ไอค็อกไอแค็ก ไอกะด็อกกะแด็ก จนตกกระได กระดอนไปในกระด้ง ไอจนปวดกระดูกกระเดี้ยว เสียวไปถึงกระดองใจ ต้องกินยาแก้ไอของห้าง “เจ๊กกินหมู” เอ๊ย ไม่ใช่ “เต็กเฮงหยู”ถ้าขายยาไม่ได้ตามเป้า ก็ยังโฆษณาต่อไป จนมีเสียงตะโกน ฉายเถอะๆ ชาวบ้านที่มีสตางค์ก็ช่วยกันซื้อยา กว่าจะฉายหนังต่อได้ย้อนอดีตหนังปิดวิก หนังขายยาบ้านนอกแล้ว ทิดโส สุดสะแนน ก็เล่าเรื่องทิ้งท้าย วัยรุ่นอำนาจเจริญเหมารถสองแถวไปดูหนังดัง ที่โกญจนาทพากย์ ที่เมืองอุบลฯ เที่ยวกลับก็คุยกันตลอดทางนี่คือความสุขความบันเทิงที่สุด ของหนุ่มๆบ้านนอกยุคนั้นทุกคนก็กลับถึงอำนาจเจริญด้วยดีทุกคน แต่ “มุก” ที่ทิดโสตั้งใจปล่อยให้คิด ก็คือคำถาม เมื่อหลงอำนาจแล้วยากจะหาทางออก ผู้รู้หาคำตอบให้ว่า ทางออกจากอำนาจมีได้ 4 ทางออกเส้นทางอำนาจ มุกดาหาร ออกเส้นทางอำนาจ เขมราฐ ออกเส้นทางอำนาจ ยโสธร และออกเส้นทางอำนาจ อุบลราชธานีส่วนใครที่ไม่อยากออกจากอำนาจ ก็ให้อยู่ต่อไป เพราะอำนาจเจริญผมอ่านเรื่องคนพากย์หนัง กำลังสนุกเพลินๆ เมื่อทิดโส สุดสะแนน พลิกมาจบด้วย “มุก” เสียดสีการเมืองกว่าจะร้อง “ฮือ” รับ “มุก” นี้ทัน ก็เสียเวลาไปเป็นนาน.กิเลน ประลองเชิง