วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปคุยเรื่อง “ใบขับขี่” ที่กำลังเป็น ข่าวร้อนระดับชาติ กันสักวันนะครับ หลังจากที่ คุณสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้เสนอแก้กฎหมาย พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ให้เพิ่มโทษจำคุกและค่าปรับสูงลิ่ว สำหรับผู้ทำผิดเกี่ยวกับใบอนุญาตขับขี่ ใครฟังแล้วอึ้งกิมกี่ไปเลย รวมทั้ง นายกฯตู่ ด้วย
ผมขอทบทวนบทลงโทษใหม่ไว้ตรงนี้อีกสักครั้งนะครับ
กรณีขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ กฎหมายเดิมมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 1,000 บาท กฎหมายใหม่ เพิ่มโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
กรณีขับรถใหม่ระหว่างใบขับขี่หมดอายุ ถูกพักใช้ หรือเพิกถอน หรือถูกยึดใบอนุญาต กฎหมายเดิมมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท กฎหมายใหม่ เพิ่มโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท
กรณีขับรถโดยไม่แสดงใบขับขี่ กฎหมายเดิมมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท กฎหมายใหม่ เพิ่มโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
ผมไม่รู้ว่า คนเขียนกฎหมายไทยเป็นโรคอะไร กฎหมายเกือบทุกฉบับมักลงโทษจำคุกบวกค่าปรับ คดีเล็กๆมากมาย แค่ลงโทษปรับ หรือทำโทษทางสังคมให้รู้สึกผิดและเข็ดหลาบก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาไปติดคุก จนทำให้มีนักโทษล้นคุกในทุกวันนี้ การลงโทษผู้ทำผิดไม่ร้ายแรงให้ติดคุก อาจทำให้คนดีกลายเป็นคนไม่ดีก็ได้
ประเด็นที่คนกังขามากที่สุดก็คือ โทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท แม้การลงโทษจำคุกและปรับ จะให้ฟ้องศาลก็ตาม แต่การเขียนกฎหมายแบบนี้เท่ากับเปิดช่องให้มีการเรียกเงิน แลกกับการปล่อยตัวได้ง่ายขึ้น โทษปรับยิ่งหนักยิ่งเรียกง่าย
เมื่อข่าวกฎหมายฉบับนี้เผยแพร่ออกไป กรมการขนส่งทางบก ก็ถูกจวกเละทั้งในโลกโซเชียลมีเดียและสื่อต่างๆ แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย ต้องหารือกันก่อน ต้องมองกันหลายๆมุม ต้องไปหาประเด็นอื่นๆมาด้วย อย่ามองแค่ว่าเป็นการเพิ่มความรับผิดชอบให้กับคนที่ต้องพกใบขับขี่หรือไม่
...
ผมขอปรบมือให้ นายกฯตู่ ที่ ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมฉบับนี้ เป็นการ ปัดภาระความรับผิดชอบ ของ กรมการขนส่งทางบก เอง ที่ปล่อยให้ปัญหาใบขับขี่หมักหมม แล้วมาลงโทษประชาชนแทน โดยไม่รับผิดชอบอะไรเลย
ผมลองค้นข้อมูลเล่นๆก็พบว่า ณ วันที่ 31 มกราคม 2561 กรุงเทพมหานครมีการจดทะเบียนรถใหม่ในรอบ 10 ปี (ตั้งแต่ปี 2551-2560) รวม 8.5 ล้านคัน และ มียอดจดทะเบียนสะสม 9.8 ล้านคัน เป็นรถยนต์นั่งและบรรทุกส่วนบุคคล 5.5 ล้านคัน รถจักรยานยนต์ 3.6 ล้านคัน ที่เหลือเป็นรถโดยสาร รถบรรทุก
แต่ มีการออกใบอนุญาตขับรถ หรือ ใบขับขี่ เพียง 4,827 ล้านใบ
แสดงว่า คนขับรถในกรุงเทพฯไม่มีใบขับขี่ถึง 5 ล้านใบ โอ้มายก๊อดแล้วทั่วประเทศละ มีคนขับรถที่ไม่มีใบขับขี่อีกเท่าไหร่?
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร กรมการขนส่งทางบก น่าจะมีคำตอบ
เมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ผมก็ไม่อยากฟื้นฝอยเรื่องเก่า แต่ควรมองไปข้างหน้าว่า จะหาทางแก้ไขปัญหาคนไม่มีใบขับขี่ได้อย่างไร แทนที่จะเพิ่มโทษจำคุกและปรับสูงสุด 50,000 บาท ซึ่งไม่ได้แก้ปัญหาอะไร นอกจากเพิ่มช่องทางการทุจริตมากขึ้น
ในขั้นต้นผมคิดว่า ควรแบ่งปัญหาออกเป็นส่วนๆ เพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว เช่น บังคับผู้ซื้อรถใหม่ทุกคนต้องมีใบขับขี่ไปแสดงมิฉะนั้นก็ซื้อรถไม่ได้ (ปี 2560 คนกรุงเทพฯซื้อรถใหม่ 945,999 คัน) อย่างญี่ปุ่น ใครไม่มีโฉนดที่ดินที่จอดรถหรือเอกสารเช่าที่จอดรถไปแสดง ก็ซื้อรถยนต์ไม่ได้ เป็นต้น ส่วนผู้ขับรถที่ไม่มีใบขับขี่อีก 5 ล้านใบ ก็ให้ทยอยไปทำใบขับขี่ใหม่ เท่าที่กรมการขนส่งทางบกจะรับมือได้ โดยมีกำหนดเวลาชัดเจน
การแก้ปัญหา ต้อง win win ครับ ไม่ใช่เอะอะก็จะจับประชาชนติดคุกอย่างเดียว.
“ลม เปลี่ยนทิศ”