เรื่องของเลขยันต์ผู้รู้หลายท่านชี้ว่างมงายไร้สาระ มอมเมาชาวบ้านให้ลุ่มหลงไสยศาสตร์ เป็นเดรัจฉานวิชา ไม่ใช่แก่นธรรม การปลุกเสกพระเครื่องของขลัง ในวงการสงฆ์ เหมือนการอาศัยศาสนาหากิน

นี่คือส่วนหนึ่งของความในใจ คุณณัฐธัญ มณีรัตน์ ผู้เขียนหนังสือ เลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์ (วารสารมิวเซียมสยาม สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ จัดพิมพ์ พ.ศ.2553)

ณัฐธัญเชื่อมั่นว่า ระบบเลขยันต์ เป็นหนึ่งในความเชื่อที่มีมาคู่กับความเป็นมนุษย์ เกี่ยวข้องกับทุกอารยธรรมโบราณของโลกทุกภูมิภาค คำกล่าว เลขยันต์ไร้สาระ ทำให้พุทธศาสนามัวหมอง ดูจะไม่ยุติธรรม

ณัฐธัญเชื่อว่า ระบบเลขยันต์อาจจะเป็นอุบาย ทำให้คนเข้าหาพุทธธรรม อาจมีสารัตถะสำคัญซุกซ่อนไว้ แบบอาศัยเปลือกหุ้มแก่น

หนังสือเลขยันต์ แผนผังอันศักดิ์สิทธิ์ มาจากงานวิจัยเรื่อง การศึกษาวิเคราะห์ระบบยันต์ในภาคกลางของประเทศไทย ที่รองศาสตราจารย์ สุกัญญา สุจฉายา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นบรรณาธิการ

อาจารย์สุกัญญาเขียนไว้ในคำนำ “ข้าพเจ้าสงสัย เหตุใดอาจารย์เทพ สาริกบุตร จึงได้ให้ความหมายของยันต์ว่า สายรกพระพุทธเจ้า”

คำ “สายรก” มีความหมายโดยนัยของแหล่งกำเนิดชีวิต และเป็นภาพที่แสดงเส้นสาย

อาจารย์สนใจคัมภีร์ปถมัง คัมภีร์ที่ประมวลความรู้เกี่ยวกับวัฏฏะของการเกิดและการดับของจักรวาลไว้ในรูปเส้นสัญลักษณ์ กำเนิดของจักรวาลภัทรกัลป์ การอุบัติของพระพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ กำเนิดของสรรพชีวิตในโลก

จนถึงสูญนิพพาน โดยแสดงเป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นที่ “พินทุ” หรือจุดวงกลมเล็กๆ จุดตั้งต้นการลากเส้นยันต์

พินทุจึงเป็นจุดรวมจิต เป็นจุดกำเนิดของสรรพชีวิต ผู้ที่ศึกษาคัมภีร์ปถมัง จึงต้องเริ่มต้นด้วยพลังศรัทธา ข้อสงสัยต่อมา จุดพินทุกับเส้นสายชีวิตและพลังแห่งจิตสัมพันธ์กันอย่างไร

...

ปี 1990 นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์สมัยใหม่ ค้นพบทฤษฎี “สตริง” ซึ่งพัฒนาต่อมาเป็นทฤษฎี ซุปเปอร์สตริง ทฤษฎีนี้มีคำอธิบาย สิ่งที่เราคิดว่าเป็นคลื่นอนุภาคเช่นอิเล็กตรอนในสภาพหนึ่งเป็นอนุภาค หรือมีลักษณะเป็นจุดนั้น

หากแยกต่อไป แทนที่จะเป็นจุด กลับกลายเป็นสายสตริงที่เล็กละเอียดกว่าอะตอมถึงสามเท่า และยังสั่นระรัวๆ แสดงว่า จักรวาลมิได้มีเพียงหนึ่งเดียวคือจักรวาลของเราเท่านั้น ยังมีจักรวาลอื่นซ้อนอยู่ถึง 10 มิติ

มิติยิ่งต่ำยิ่งสั่นสะเทือนมาก มิติยิ่งสูงยิ่งสั่นสะเทือนน้อย

นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า นอกจากแรงทางฟิสิกส์ทั้งสี่แรง แรงดึงดูด แรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงนิวเคลียร์อย่างแข็ง แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน

ยังมีพลังงานหรือแรงจิต ที่สามารถรวมแรงทั้งสี่ประสานเข้าเป็นหนึ่งเดียว

นักวิทยาศาสตร์ตะวันตก เพิ่งค้นพบความรู้นี้ไม่กี่สิบปี คัมภีร์ลบผงทั้ง 5 คัมภีร์ที่เหลืออยู่ คือประจักษ์พยานแสดงปรีชาญาณของพระสงฆ์สยามในอดีต ว่ารู้เรื่องมิติของสถานที่และมิติของเวลาล่วงหน้าก่อนหลายร้อยปี

อาจารย์สุกัญญาได้ยินชื่อ คัมภีร์ปถมัง เมื่ออ่านขุนช้างขุนแผน เข้าใจว่าเป็นวิชาไสยศาสตร์ ความน่าทึ่งเป็นวิชาที่ถ่ายทอดโดยผู้หญิง คือนางทองประศรี เมื่อได้อ่านคัมภีร์ทั้งเล่ม ก็ต้องทำลายความคิดเก่า นำไปสู่ความเชื่อใหม่

คัมภีร์ปถมังเป็นพุทธศาสตร์ และจักรวาลศาสตร์อันลึกซึ้ง เป็นคู่มือสำคัญของนักปฏิบัติ

ผมอ่านถึงตรงนี้ เริ่มศรัทธาน้อมใจว่า ไสยศาสตร์ที่มีหลาย

ผู้รู้ดูแคลนนั้น แท้จริงเป็นเปลือกหุ้มแก่น ถ้ากะเทาะเปลือกออก ก็ใช้เป็นเส้นทางไปถึงพระนิพพานได้

ท่านผู้ใหญ่ที่กำลังจะชำระพุทธพาณิชย์ในวงการสงฆ์ เห็นจะต้องตั้งหลักคิดใหม่ อีกด้านของเลขยันต์ สัญลักษณ์ของไสยศาสตร์นั้น ซ่อนแก่นธรรมเอาไว้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระไปโดยสิ้นเชิง.

กิเลน ประลองเชิง