หนังสือเล่มหนารวมปาฐกถา แสดงที่สามัคยาการสมาคม พ.ศ.2470 ถึง 2474 อำมาตย์ตรี หลวงเลขาวิจารณ์ (ศรีศุกร์ บุรณศิริ) พิมพ์ในงานปลงศพ ลมุน อินทรมนตรี ณ สุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2474
ปี พ.ศ.2560 สถาบันพระปกเกล้า มอบให้คุณธงชัย ลิขิตพรสวรรค์ สำนักพิมพ์ต้นฉบับ นำมาพิมพ์ใหม่ ผมเจอหนังสือเก่าพิมพ์ใหม่ กลิ่นกระดาษสะอาดหอม ก็ถูกใจแล้ว เมื่ออ่านคำนำ มีคำกล่าวว่า “ทรงคุณวิเศษยิ่งนัก”
อยากรู้หนังสือเล่มนี้จะทรงคุณวิเศษแค่ไหน ลองอ่านปาฐกถา อำมาตย์ตรี หลวงวิจิตรวาทการ (กิมเหลียง วัฒนปฤดา) เรื่องสุภาษิตต่างๆ
หลวงวิจิตร ยกสุภาษิต โคลงโลกนิติบทหนึ่ง
จ่ายทรัพย์วันละบาทซื้อมังสา นายหนึ่งเลี้ยงพยัคฆา ไป่อ้วน สองสามสี่นายมา กำกับ กันเอย แบ่งทรัพย์สี่ส่วนถ้วน เสือตาย
โคลงบทนี้ มีเนื้อความ 4 บาท บรรจุคำ 29 คำ แต่มีความหมายที่จะต้องอธิบายยืดยาว
โดยเฉพาะสำหรับคนที่เป็นนายคน การสิ่งหนึ่งสิ่งใด จะต้องตรวจตราด้วยตนเองให้ทั่วถึงอยู่เสมอ จะหลับตาไว้ใจผู้หนึ่งผู้ใด โดยไม่ตรวจตราเสียเลยนั้นไม่ได้
ถึงแม้จะตั้งผู้กำกับตรวจตราแทนตัวเราเองสักเพียงไร ก็ไม่เหมือนอย่างเราไปตรวจตราเอง ถ้าขืนไว้ใจใคร
ลงท้ายก็จะมีแต่ความหายนะ
หลวงวิจิตรท่านอธิบายแค่นี้ พอเป็นที่เข้าใจ แต่จะให้แจ้งกระจ่าง ก็ต้องยกนิทานเล่าประกอบ
มีคนคนหนึ่งไปได้เสือมาตัวหนึ่ง มอบให้คนใช้คนหนึ่งเลี้ยงไว้ จ่ายเงินให้วันละหนึ่งบาท เจ้าคนนั้นยักไว้เสียสลึงหนึ่ง ซื้อเนื้อให้เสือกินวันละสามสลึง
เสือก็ไม่รู้จักอ้วน
นายรู้ตัวว่าถูกโกง แทนที่จะไปตรวจตราด้วยตนเอง กลับตั้งอีกคนหนึ่งไปคอยคุม
เจ้าคนที่คอยคุมก็เอาเสียอีกสลึงหนึ่ง เสือได้กินเนื้อเพียงสองสลึง ก็ผอมลง
...
นายก็ตั้งคนตรวจตราไปอีกคนหนึ่ง คราวนี้เกิดมี 3 คน แบ่งกันไปคนละสลึง เสือก็ยิ่งผอมลงอีก นายก็ตั้งคนตรวจตราไปควบคุมอีกคนหนึ่ง เป็น 4 คนด้วยกัน
คราวนี้พวกเหล่านั้น ก็แบ่งกันเสียคนละสลึง จนหมดบาท
เสือเลยตาย
หลวงวิจิตรบอกว่า ยังไม่เคยเห็นโคลงสุภาษิตโคลงไหน ไพเราะกินความลึกซึ้งสนุกสนาน และสอนใจดี เท่าโคลงนี้
ผมแค่ทดลองอ่าน ตอนเดียว ในเรื่องเดียว ยังไม่ทันได้อ่าน ของท่านผู้รู้อีกหลายท่าน
เรื่องศาสนา ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ เรื่องว่าด้วยมูลเหตุแห่งการสร้างวัดในประเทศสยามของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เรื่องปัญหาเกี่ยวแก่การลงอาชญาผู้กระทำผิดกฎหมาย ของนายปรีดี พนมยงค์ ฯลฯ
ยอมรับเลยครับหนังสือที่มีคุณวิเศษยิ่งนัก เป็นอย่างไร ตั้งใจจะอ่านทุกเรื่องเติมปัญญาไปเรื่อยๆ
บ้านเมืองยุคใหม่ ก้าวหน้ากว่าบ้านเมืองยุคก่อนมาก ผู้คนยิ่งมาก กลไกการบริหารก็ยิ่งซับซ้อน ระบบตรวจสอบนั้น ไม่ต้องพูดถึง วางกลไกหลายชั้น ถ่วงดุลกันชนิดกระดิกกระเดี้ยไม่ไหว
เรื่องที่กำลังฉาวโฉ่ เห็นจะต้องใช้คำว่า โกงกันตั้งแต่ภารโรง ไปยันปลัดกระทรวง จนนับไม่ไหว ไม่รู้ว่า มีเสือตายไปแล้วกี่ตัวต่อกี่ตัว...
กิเลน ประลองเชิง