ย้ายข้าราชการ เสริมขุมอำนาจ
คงเป็นอีกสเต็ปสำคัญคือการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ทหาร ตำรวจระดับสูงนอกเหนือจากเพื่อให้ทำงานสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลหรือผู้มีอำนาจ
ที่สำคัญก็คือเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านประเทศราบรื่น
ฝ่ายกองทัพนั้นมีความชัดเจนอยู่แล้วว่าเพื่อความมั่นคงของ คสช. น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่สุดในการวางตัวบุคคลในตำแหน่งสำคัญๆ
เพราะจะเป็นรอยเชื่อมต่อไปถึงการเลือกตั้งจึงต้องใช้คนที่ไว้วางใจได้ มีศักยภาพเพื่อคุมกำลังแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
เพียงแต่ว่าปัญหาการแต่งตั้งนายทหารครั้งนี้มีอยู่จุดหนึ่ง เนื่องจากที่ผ่านมามีการวางไลน์เอาไว้ระยะยาว โดยเฉพาะจากกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ซึ่งใกล้ชิดกับศูนย์อำนาจ หรือที่เรียกกันว่าบรรดา “น้องรัก” ทั้งหลาย
ทอดยาวมาหลายปีจะออกมาในสูตรนี้ เพียงแต่เมื่อปีที่ผ่านมาการแต่งตั้ง ผบ.ทบ.กลับผิดฝาผิดฝั่งอย่างที่ไม่เคยคาดการณ์ มาก่อน
คนที่วางตัวเอาไว้กลับไม่ได้ตำแหน่งสำคัญ
ผบ.ทบ.กลับกลายเป็น พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ที่มาจากป่าหวาย ไม่รู้ว่าเหตุผลจริงเพราะอะไรกันแน่
แต่ถ้าดูจากผลแล้วเท่ากับตัดตอนสาย “บูรพาพยัคฆ์” อย่างชัดเจน
และปีนี้ก็คงจะยืนบนตำแหน่งต่อไปอีก 1 ปี เพราะจะเกษียณอายุราชการในปี 2561 และที่ผ่านมาได้สร้างผลงานให้ปรากฏและสนองงานรัฐบาลและ คสช.ได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ตำแหน่ง ผบ.ทบ.จึงไม่ต้องพูดถึงแม้จะมีข่าวทำนองว่าอาจจะดันให้ขึ้นไปเป็น ผบ.สส. แต่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
ที่จะต้องมองกันต่อไปคือการตั้งนายทหารระดับสำคัญเพื่อเตรียมการเอาไว้เพื่อสืบตำแหน่งหลังจาก พล.อ.เฉลิมชัย เกษียณอายุราชการในปีหน้า
และสามารถรองรับอำนาจ คสช.และการก้าวไปสู่ตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์หลังการเลือกตั้งในปี 2561
...
วันนี้มีชื่อ พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่จะ ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. เป็นเต็งหนึ่งเพื่อรองรับตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนต่อไป
นอกจากนั้น ก็มีตำแหน่งสำคัญๆ ในระดับ 5 เสือ ทบ.ว่าจะมีใครได้ขยับขึ้นมาบ้างหลังจากที่ต้องโยกย้าย 5 เสือเดิมบางส่วนไปสู่ตำแหน่งอื่นๆ
ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ก็มีความสำคัญ
ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ก็มีความสำคัญเช่นกัน
ขณะนี้โผการโยกย้ายทหารยังไม่ลงตัว แต่ก็มีการวางตัวกันเกือบลงตัวทั้งหมดแล้ว แต่ด้วยเงื่อนไขการเมืองและในวงการทหารที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงและความเป็นไปในสถานการณ์ต่างๆ
การโยกย้ายแต่งตั้งครั้งนี้คงจะมีปัจจัยภายนอกกองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมิใช่ว่าจะว่ากันเฉพาะผู้มีอำนาจและรับผิดชอบโดยตรง
เพราะมิฉะนั้นจะเกิดปัญหาขัดแย้งกันเองได้
เอกภาพในกองทัพถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและการเปลี่ยนผ่านประเทศทางการเมืองอีกด้วย
ยิ่งดูจากรูปการณ์หลังการเลือกตั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์น่าจะไปต่อบนตำแหน่งนายกฯ การจัดการภายในกองทัพจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูง
เนื่องจากจะต้องเชื่อมโยงทุกอย่างที่เป็นระบบ.
“สายล่อฟ้า”