“โสภณ ซารัมย์” ไม่สนใจโพลชี้กระแสนิยมนายกฯตก ท้าทายยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ยุบสภาทันที “วันนอร์” แนะใช้ “ยะลาโมเดล” แก้น้ำท่วมซ้ำซาก “จุลพันธ์” ให้เวลารัฐบาลปรับปรุงตัว ฉะโยกย้ายข้าราชการรับเลือกตั้งกระทบแก้ปัญหาชาวบ้าน “เท่าพิภพ” ยันไม่ละทิ้งอุดมการณ์ โพลชี้ “อภิสิทธิ์” ตีตื้นพื้นที่ภาคใต้ ผลงานตรวจสอบของฝ่ายค้านยังโดดเด่นนายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์รัฐบาลไม่สนหลังโพลชี้กระแสความนิยมในตัวนายกฯลดลง บอกไม่วอร์รี ยืนยันถ้าฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ “พวกผมก็ยุบสภา” ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้เวลารัฐบาลปรับปรุงแก้ไขช่วยเหลือชาวบ้านก่อน“โสภณ“นำส่งถุงยังชีพช่วยชาวใต้เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 พ.ย. ที่ศูนย์ประสานงานรับ-ส่งต่อการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ ดอนเมือง นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ส่งมอบถุงยังชีพธารน้ำใจจากพี่น้องชาว จ.บุรีรัมย์ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ มี พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รมช.กลาโหม ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ให้การต้อนรับ นายโสภณกล่าวว่า นำถุงยังชีพมาส่งต่อให้ผู้ประสบภัยภาคใต้ จ.สงขลา มูลค่ารวม 1 ล้าน 4 แสนบาท รัฐบาลพยายามเต็มที่ดูแลพี่น้องประชาชน ภายใต้งบประมาณ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจทำทุกวิถีทางเยียวยาพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับความสามัคคีของพี่น้องประชาชน ด้าน พล.ท.อดุลย์กล่าวว่า ยืนยันอีกครั้งรัฐบาลมีงบประมาณสนับสนุน แต่ในสภาวะวิกฤติเร่งด่วน น้ำใจของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเยียวยาจิตใจไม่สนใจกระแสอยู่ที่ ปชช.ตัดสินต่อมานายโสภณในฐานะแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลกระทบจากการบริหารสถานการณ์น้ำท่วมของรัฐบาลต่อสนามเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรค ภท. ที่ผลโพลระบุความนิยมของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท.ลดลงว่า ไม่ห่วงเรื่องกระแสการเมือง ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ หากนำสถานการณ์มาปั่นเป็นกระแสเฟกนิวส์ ทำให้ประชาชนที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงหลงผิด เชื่อว่าเวลาและการกระทำจะเป็นเครื่องพิสูจน์รัฐบาล พวกตนไม่ได้ Worry (กังวล) กับเรื่องกระแส เรื่องโพล พวกตนก้าวข้ามเรื่องนั้นแล้ว มันไม่ Perfect เราก็รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่มีรัฐบาลไหนที่ทำให้สมบูรณ์ได้ มันเกินคาด แต่จะทำอย่างไรส่วนที่บกพร่องก็เป็นอุทาหรณ์ไป ส่วนความนิยมทางการเมืองพวกตนทำผิดประชาชนจะตัดสิน ไม่ใช่บางคนบางกลุ่มไปปั่นถ้ายื่นอภิปราย “พวกผมยุบสภา”นายโสภณกล่าวต่อว่า บรรยากาศแบบนี้จะวัดใจคนว่าใครปรารถนาดีกับประชาชนจริง ทำจริง ไม่ใช่วาทกรรม นายกฯลงพื้นที่ตลอดเชื่อว่าประชาชนรับรู้รับทราบ ไม่ได้กังวล เมื่อถามเรื่องการตัดสินใจยุบสภาของนายกฯหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ท่ามกลางสถานการณ์อุทกภัยที่ต้องเร่งฟื้นฟูจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อพรรค ภท.หรือไม่ นายโสภณตอบว่า พรรค ภท.ไม่เกี่ยว แต่ประกาศแล้วว่า “ถ้ายื่นอภิปราย พวกผมก็ยุบ ส่วนประชาชนจะบอกว่ายุบแล้วมีผลกระทบกับน้ำท่วม เป็นเรื่องของคนที่ยื่น ไม่เห็นความสำคัญและความเดือดร้อนของประชาชน ยื่นมาผมก็ยุบ เพราะประกาศมาก่อนแล้ว คุณยื่นมาผมก็ยุบ” ส่วนเราเป็นรัฐบาลรักษาการเราก็เดินหน้าทำเต็มที่ แต่อาจตกลงไปหน่อยในฐานะรัฐบาลรักษาการ แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นก็เดินหน้าเต็มที่ฟื้นฟูแนะใช้ “ยะลาโมเดล” แก้น้ำท่วมนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดจากปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลา ว่า ผลกระทบเกิดขึ้นบ้าง แต่ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนหนึ่งมาจากการเตรียมความพร้อมของหลายภาคส่วน ตามแนวคิด“ยะลาโมเดล” ปีนี้ จ.ยะลา มีการแจ้งเตือนประชาชนตลอดเวลา ลักษณะแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า ประชาชนจึงมีความตื่นตัวตลอดเวลา ขณะเดียวกัน จ.ยะลา ก็มีการจัดเตรียมศูนย์พักพิงที่มีความพร้อม ก่อนหน้านี้เคยใช้แนวคิดเชิงป้องกันก่อนเกิดปัญหาที่ จ.อุดรธานี ปัจจุบัน จ.อุดรธานี เกิดความเสียหายน้อยจากปัญหาอุทกภัย หลังจากนี้รัฐบาลควรเตรียมการและสำรวจจังหวัดที่เกิดอุทกภัยบ่อย อาทิ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.อ่างทอง อาจนำแนวคิด “ยะลาโมเดล” ไปปรับใช้ได้ จะทำให้ความเสียหายลดลง และการสำรวจความเสียหายหลังน้ำลดเป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ ไม่ควรปล่อยนานเกิน 1 เดือน เพราะคนจะลืม“จุลพันธ์” ให้เวลารัฐบาลปรับปรุงขณะที่นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำคณะ สส.ลงพื้นที่ จ.สงขลา ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และให้กำลังใจประชาชนในศูนย์อพยพ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคส่ง สส.ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ให้ความช่วยเหลือประชาชน ส่งสิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัยแล้ว 5 รอบ ในฐานะฝ่ายค้านเตรียมตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาไปโจมตี รัฐบาลคงรู้ตัวว่าสิ่งที่ดำเนินการไปบกพร่องล้มเหลว แม้จะไม่สบายใจกับการทำงานของรัฐบาล แต่ยังไม่ถึงเวลา อยากให้เวลารัฐบาลปรับปรุงแก้ไข ช่วยเหลือประชาชนทันท่วงที เพราะความเดือดร้อนประชาชนไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ตอนนี้รัฐบาลมีความผ่อนคลาย อาจมองว่าสถานการณ์น้ำท่วมจุดหลักที่หาดใหญ่เบาลง แต่สถานการณ์ครั้งนี้น้ำท่วมเป็นวงกว้างในภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้น้ำยังไม่ลด อยากเตือนรัฐบาลยังไม่ใช่เวลาผ่อนคลาย ยุติกลไกช่วยเหลือประชาชน จนกว่าสถานการณ์น้ำจะลดลงฉะโยกย้าย ขรก.กระทบช่วย ปชช.นายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า ส่วนการโยกย้ายข้าราชการนอกฤดูกาลของนายกฯที่ยังคงดำเนินการอยู่ พรรคเพื่อไทยตรวจสอบอยู่ เป็นรัฐบาลชั่วคราวแต่โยกย้ายข้าราชการมากกว่ารัฐบาลปกติ เป็นการเตรียมเลือกตั้งหรือไม่ ผลกระทบจากการโยกย้ายส่งผลต่อการช่วยเหลือประชาชน เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัด อำเภอ รวมถึงสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สะท้อนให้เห็นอยู่ ถึงเวลาที่รัฐบาลและฝ่ายค้านต้องมาคุยกัน เราพร้อมสะท้อนปัญหาผ่านช่องทางที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญหนุนแก้ รธน.ไปพร้อมแก้น้ำท่วมนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวถึงการเปิดประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 วันที่ 10-11 ธ.ค.ว่า กมธ.พร้อมตอบทุกคำถาม และคาดว่าจะได้พิจารณาต่อในวาระ 3 ช่วงวันที่ 29 ธ.ค. ถือว่าเสร็จก่อนช่วงเวลาปีใหม่ อยากให้รัฐบาลส่งสัญญาณถึงประชาชนที่รอกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญว่า จะเสร็จทันสิ้นปีหรือไม่ เนื่องจากสัมพันธ์กับการตั้งคำถามประชามติ อย่างไรก็ตาม กมธ.ไม่ละเลยปัจจัยการเมืองที่มีกระแสข่าวยุบสภาก่อน หรืออาจปล่อยให้ผ่านวาระ 2 ไปก่อนแล้วค่อยยุบสภา เหมือนไม่อยากให้รัฐธรรมนูญผ่าน หรือเอารัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันไปเกี่ยวข้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนสถานการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วม กมธ.ตระหนักถึงความสำคัญของสถานการณ์ที่จำเป็น ต้องเน้นการช่วยเหลือ การฟื้นฟูเยียวยาความเสียหาย อยากให้รัฐบาลโฟกัสเรื่องนี้ แต่การแก้รัฐธรรมนูญและแก้ปัญหาน้ำท่วมสามารถทำไปพร้อมกันได้ยังมีสามปมใหญ่ที่เห็นต่างกันอยู่นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า เนื้อหาการแก้รัฐธรรมนูญมีความเห็นแตกต่างกัน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.องค์กรร่างรัฐธรรมนูญ 2.การออกแบบมีกลไกการรับฟังความคิดเห็น และกลไกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 กลไก มาจากสูตร 20 หยิบ 1 ทำให้ กมธ.หลายคน 2 กลไก มาจากสูตร 20 หยิบ 1 ทำให้ กมธ.หลายคนกังวลจะนำไปสู่ปัจจัยการฮั้ว หรือบล็อกโหวตหรือไม่ และ 3.คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่าให้เขียนหลักการพื้นฐาน หรือเนื้อหาสาระในรัฐธรรมนูญฉบับถัดไปในการจัดทำรัฐธรรมนูญรอบนี้ด้วย ก่อนถามประชาชน ขณะนี้ร่างพรรคประชาชน มีการแตกออกมานิดหน่อยว่าควรต้องเขียนเรื่องใดบ้าง เชื่อว่าไม่ว่าจะมีความเห็นต่างอย่างไร สมาชิกรัฐสภามุ่งมั่นให้มีกลไกปลดล็อกไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ นี่คือโอกาสดีที่สุดนำไปสู่การปลดล็อกต่างๆ ไม่เห็นว่ามีประเด็นใดทำให้ไม่สามารถเดินหน้าจนจบวาระ 3 ได้ ไม่มีปัจจัยขัดขวางการพิจารณา เราพร้อมรับทุกสถานการณ์การเมืองที่อาจเกิดขึ้น แต่จะเสียดายที่สุดหากต้องยุบสภาก่อน ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ ทั้งที่ใกล้มากที่สุดในรอบ 8-9 ปีที่ผ่านมา“เท่าพิภพ” ยันไม่ละทิ้งอุดมการณ์นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงหลังประกาศไม่ลงสมัคร สส. ในการเลือกตั้งรอบหน้าระบุว่า แม้ไม่ประสงค์ลงเลือกตั้งต่อในฐานะ สส.เขตเดิม แต่อุดมการณ์เหมือนเดิม อยากให้การเมืองไทยและประเทศไทยดีขึ้น ไม่มีเครื่องมือใดเปลี่ยนประเทศได้เท่าการเมืองที่ดี ยินดีทำงานการเมืองต่อไป ไม่เกี่ยงจะทำงานเบื้องหลังในพรรค หรือบทบาทอื่นในอนาคต เชื่อมาตลอดว่าพรรคการเมืองเป็นพาหนะทำตามความฝันให้สำเร็จ คำถามที่ยากที่สุดคือไปทำอะไรต่อ ตอนนี้อยากทำเยอะมาก ช่วงแรกคงกลับไปเป็นมัคคุเทศก์เหมือนเดิม ขับ Grab บ้างเพื่อให้มีรายได้ เป้าสุดท้ายคือทำให้คำว่า Laokao ไปอยู่ใน Oxford Dictionary ให้ได้ ทำแผนปฏิวัติการท่องเที่ยวไทยต่อ แน่นอนว่าเปลี่ยนใหญ่แน่ เขียนหนังสือทำช่อง YouTube การเมือง ตามรอยการเมืองการปกครองไปรัฐสภา คุยกับพรรคการเมือง ตามม็อบ ทำบริษัทที่ปรึกษาการเมือง ออกแบบนโยบาย ทำคอร์สฝึกอบรมนักการเมืองคนที่สนใจลงการเมือง หากเคราะห์ดีมีบุญไม่โดนตัดสิทธิ ตั้งใจทำการเมืองท้องถิ่นระดับผู้บริหารเทศบาล ถ้าไม่ลงเองก็จะช่วยทำ ตำแหน่งนายกเทศบาลนครเป็นตำแหน่งเลือกตั้งดีที่สุดในไทย มีอำนาจและงบประมาณจัดการตนเองสูง สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวันได้มากกว่าโพลชี้ “อภิสิทธิ์” ตีตื้นพื้นที่ภาคใต้วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดผลการสำรวจประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวม 2,000 หน่วยตัวอย่าง ที่มีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้เรื่อง “กระแสการเมือง ภาคใต้” ระหว่างวันที่ 18-24 พ.ย. เมื่อถามถึงบุคคลที่คนใต้จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 32.25 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 25.65 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับ 3 ร้อยละ 15.40 นายอนุทิน ชาญวีรกูล อันดับ 4 ร้อยละ 12.85 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อันดับ 5 ร้อยละ 2.50 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่คนใต้จะสนับสนุนในวันนี้ พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 28.60 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 2 ร้อยละ 28.45 ระบุว่ายังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 17.80 พรรคประชาชน อันดับ 4 ร้อยละ 11.65 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 5 ร้อยละ 3.90 พรรครวมไทยสร้างชาติผลงานตรวจสอบของฝ่ายค้านเด่นขณะที่สวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือน พ.ย.2568” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 2,208 คน ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ย. พบว่า ให้คะแนนภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำเดือน พ.ย. เฉลี่ยที่ 3.90 คะแนน ลดลงจากเดือน ต.ค. ที่ได้ 4.02 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 4.46 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนต่ำสุด คือการแก้ปัญหาความยากจน 3.44 คะแนน ด้านนักการเมืองที่มีบทบาทโดดเด่น ร้อยละ 57.34 ระบุฝ่ายรัฐบาลยังไม่มีใครผลงานโดดเด่น รองลงมาร้อยละ 23.46 นายอนุทิน ชาญวีรกูล และร้อยละ 19.20 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ด้านฝ่ายค้านที่มีผลงานโดดเด่น ร้อยละ 39.49 ระบุ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองลงมาร้อยละ 31.97 น.ส.รักชนก ศรีนอก และร้อยละ 28.54 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส่วนผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบประจำเดือน ร้อยละ 39.51 คือคนละครึ่งพลัส ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบประจำเดือน ร้อยละ 49.72 ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่