สุดท้ายก็บริหารวิกฤติ “ตามยถากรรมสไตล์” เพราะถึงแม้ “นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล” ลงพื้นที่ตรวจงานแบบถี่ยิบ ตั้งทีมส่วนกลาง ส่วนหน้า บูรณาการ บูรณากูกันอีนุงตุงนัง เพื่อบริหารจัดการวิกฤติมหาอุทกภัยภาคใต้ หาดใหญ่ สงขลา แต่เอาแค่แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าก็ไม่เข้าเป้าแต่ผ่านไปเกือบสัปดาห์ “คนหาดใหญ่” ยังระทม “คนสงขลา” ยังทดท้อ ผู้คนต้องอึดรอจนเทวดาบันดาลให้ฟ้าฝนซา น้ำทะเลไม่หนุน ที่ท่วมอยู่ก็ค่อยๆลดระดับถูลู่ถูกังลุยน้ำออกมาเอง ไม่รอระดมอพยพกันแล้วไม่เท่านั้น สารพัดทีมบริหารจัดการ ประชุมทั้งวี่วัน สั่งการกันทั่วทิศทาง จนคนปฏิบัติไม่รู้จะฟังใครระบบ “มัลติคอมมานด์” เลยเอาไม่อยู่นั่นยังไม่รวมคิวแปร่งๆของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรมว.เกษตรฯ ที่ถูกตั้งไปบริหารจัดการน้ำส่วนหน้า นอกจากทับซ้อนกับอีกหลายคณะยังมีวาระเร้น เกมชิงแต้มแย่งของขลังเกมลึกระหว่าง “ผู้นำ-ผู้กอง”ถึงได้มองแง่ลบที่ว่าการบริหารจัดการของรัฐบาลกับมหาภัยพิบัติรอบนี้ ปล่อยคนเดือดร้อนเคว้งคว้าง รอด—ไม่รอด ก็แล้วแต่บุญแต่กรรม ตามยถากรรมแท้ๆที่ดีหน่อยก็คือ “กลไกของน้ำใจ” ของคนไทยทั่วประเทศ ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ด้วยกันเองจุนเจือ แบ่งปัน หรือบรรดาจิตอาสา กู้ภัย อินฟลูฯจากต่างพื้นที่ ระดมพลังความช่วยเหลือมาจากทั่วประเทศแม้แต่พรรคการเมือง คนการเมือง ที่ถูกมองว่าหวังแต่ “คะแนนเสียง”แต่ถ้ามุมดีๆ คงไม่มีใครจ้องเอาแต่ “ได้” มากกว่าต้องการ “ให้” และที่มาร่วมด้วยช่วยกัน หลักๆน่าเพราะความเป็นมนุษย์ที่มีต่อกัน ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปจับสัญญาณจากป้อมค่ายต่างๆ แม้แต่ผู้แทนฯเจ้าถิ่น นักการเมืองท้องถิ่น ไปถึงที่ก็ไม่บอกกล่าวออกสื่อแทบทั้งนั้น เพราะจะหาแสง หาพระแสง ได้แต้มหรือไม่ ก็เป็นของแถมอย่างที่ “ไร้อำนาจในมือ” ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ก็ระดับหัวหน้าลงไปช่วยดูแลหน้างานเล็กๆน้อยๆ นั่นก็ไม่ต่างจากพรรคประชาชน ทั้งหัวหน้า ทั้งคนสีส้มก็อยู่ในพื้นที่ ทั้งที่ไม่ใช่ฐานหลัก เช่นเดียวกับพรรคลุงบ้านป่าฯ เข็นตัวเองไปไม่ได้ก็สั่งส่งด่วน เคลื่อนโรงครัวไปบริการหน้างาน ฯลฯยามโลกระทม บางที่ก็แบ่งโลกสวย อวยคนการเมืองเล็กน้อยแล้วก็ตามสูตร แว้งกลับมาที่รัฐบาล อาสามาแล้วก็ต้องยอมรับ รายการบริหารวิกฤตการณ์ครั้งนี้ “วิกฤติเชื่อมั่น” ถาโถมใส่ “นายกฯหนู” ชนิดต้องร้องโอดโอยที่สำคัญในภาพรวมรัฐบาลภูมิใจไทย แม้ฝืนอวยเชียร์ยังไงก็ต้อง “สอบซ่อม”รอลุ้นฟื้นแต้มบวกในรอบต่อไป โดยเฉพาะกับงานบูรณะบ้านเมือง บ้านเรือน ที่พักอาศัย ร้านค้าขาย ผู้ประกอบการที่เสียหาย เยียวยาชีวิตผู้คนที่ได้รับผลกระทบ ดูแลครอบครัวที่สูญเสียและที่เร่งด่วนคือกระชากเศรษฐกิจจากหล่มหลุม คิวถัดไปเป็นโจทย์ยากทางบังคับ ไม่ทำก็ “พังพาบ”เพราะแผนอื่นแทบจะไม่เหลือให้ปั่นฟื้นแต้ม เพราะทั้งวิกฤติภัยคุกคามบ้านเมืองจากชายแดนเขมรก็ยังค้างคา หนำซ้ำลากไปเสี่ยงกับภัยคุกคาม ในมิติภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้ามหาอำนาจโลกขณะที่วิกฤติอุทกภัยพื้นที่อื่นๆทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง สำลัก น้ำจมบาดาลมาหลายเดือนไม่ติดตามดูแลเยียวยา เรตติ้งก็จะตกรูดไปกว่านี้ที่สำคัญยังดีมีดรีมทีมเศรษฐกิจรัฐบาลเป็นตัวช่วยชั้นดี กำลังเร่งมือปั่นแผนกระตุ้น “ควิก บิ๊ก วิน” สิบกว่าโครงการ ไล่ขยับปั่นมาตรการเป็นลูกระนาด ต่อจากโครงการ “คนละครึ่ง”แต่ถึงที่สุด ฟื้นเศรษฐกิจกระเตื้องได้ ก็ไม่รู้จะกลบกระแส จัดการน้ำท่วม “ย่ำแย่” ได้หรือไม่เรียกว่าในภาพรวมทางการเมือง แม้วันนี้ภูมิใจไทยยังไม่ถึงขั้นโคม่าร่อแร่ เพราะยังไงก็ถือแต้มต่อ ของขลัง พลังพิเศษ หลังเลือกตั้งแบเบอร์เพียงแต่ “อนุทิน” และขุมข่ายสีน้ำเงิน ปั่นงานเรียกแต้ม“ไม่ฟู” ตามที่คาดหวังดุลอำนาจวูบไหว 2 น.สีน้ำเงิน เริ่มถูกท้าทาย เสียงไม่ดังเหมือนเดิมแล้ว.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม