อุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคใต้ โดยเฉพาะ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เที่ยวนี้ สะท้อนให้เห็นขีดความสามารถในการรับมือกับภัยธรรมชาติของ ภาครัฐและหน่วยราชการ ได้ชัดเจนที่สุด วิกฤติ จะเป็นบทพิสูจน์ วิสัยทัศน์ ในอดีต ประเทศไทยเคยเจอกับมหันตภัย สึนามิ บริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ต้องยอมรับว่า เราไม่มีความพร้อมในเรื่องของระบบเตือนภัย จนถึงวันนี้เราก็ยังไม่พร้อมอยู่ดี กระทรวงดีอี ขออนุมัติงบประมาณมหาศาล เพื่อสร้างระบบเตือนภัยแห่งชาติ แต่ไม่ว่าจะเกิดน้ำท่วมดินโคลนถล่มในภาคเหนือ หรือน้ำท่วมฉับพลันในภาคใต้ สร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมหาศาลทุกครั้ง เพียงแต่ว่าการรับมือกับปัญหาหลังจากที่เกิด สึนามิ ในวันนั้นมี ความพร้อม กว่าน้ำท่วมหาดใหญ่ในวันนี้อย่างชัดเจนเช่นกันรัฐบาลถูกสรรเสริญจากตั้งแต่ระดับชาวบ้านไปจนถึงทีมกู้ภัย ภาคเอกชนที่ลงไปช่วยเหลือชาวบ้านตามมีตามเกิดการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ใช่แค่ไปยืนผัดข้าวหรือยืนน้ำตาซึม แล้วก็กลับมานั่งประชุมในห้องแอร์ โดยไม่ได้สัมผัสกับความเดือดร้อนแสนสาหัสเหมือนอย่างชาวบ้านเป็นหมื่นๆครอบครัว ที่ลอยคอ รอคอยอยู่ในน้ำ ย่อมไม่เข้าใจถึงหัวอกชาวบ้านที่เดือดร้อนอยู่ในปัจจุบันที่เสียความรู้สึกกับภาคการเมือง รองนายกฯและ รมว.คลัง เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ แจ้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณการใช้จ่ายปี 2568 และงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ให้รีบเสนอเข้า ครม.ภายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ อาจจะเนื่องมาจากว่า รัฐบาลมีความจำเป็นที่ จะต้องยุบสภา ในวันที่ 12 ธ.ค. ตามที่ นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ให้สัมภาษณ์สื่อไว้หลายครั้งว่า ถ้ายื่นอภิปรายก็ยุบสภาทันทีไม่ยอมให้ถูกด่าฟรีหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ยอมรับกับสื่อว่า ได้หารือกับหัวหน้าพรรคประชาชน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ถึงเรื่องการ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตามมาตรา 151 ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาชน ให้เหตุผลว่า ไม่เห็นด้วยที่จะยื่นอภิปรายรัฐบาลตอนนี้ เพราะจะทำให้ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องตกไป ซึ่งประเด็นนี้ หัวหน้าพรรคประชาชน ก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดถามว่าถ้ามีข้อมูลความไม่ชอบมาพากลในรัฐบาลหนักหนาสาหัสขนาดนี้ โดยเฉพาะพรรคประชาชนย่อมจะรู้ดีที่สุดและมีข้อมูลความไม่ชอบมาพากลพร้อมที่สุด มีหลักฐานชัดยิ่งกว่าชัด จนมี รมต.ต้องลาออกจากตำแหน่ง องค์ประกอบครบทุกอย่าง แต่พรรคประชาชนยอมแลกการไม่ยื่นอภิปรายเพื่อแก้รัฐธรรมนูญที่เป็นก้างขวางคอการเมืองศีลเสมอกัน ฮั้วอำนาจเพื่อแสวงหาอำนาจไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านและความหายนะของประเทศตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม