“ปชน.” เคลียร์ครหาฝ่ายค้ำ “พริษฐ์” แจง 3 เงื่อนไขชี้ขาดยื่นซักฟอกรัฐบาล “อนุทิน” ถ้ารัฐบาลอยู่เกิน 31 ม.ค.69-แก้รัฐธรรมนูญเหลวไม่สำเร็จในสิ้นปี-ดำเนินนโยบายเสียหายหนัก ไม่โปร่งใส แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม รอดู 12 ธ.ค. เปิดสภาฯสมัยวิสามัญวัดความจริงใจ บี้ “เสี่ยหนู” เล่นยาแรงปราบสแกมเมอร์ ปัดค่ายส้มปักธงแก้ รธน.มัดคอพรรคอื่น “ภราดร” โต้ พท.ใครกันแน่เตะถ่วงรื้อ รธน. ยัน กมธ.ต้องถกจบอย่างช้าต้น ธ.ค. “จุลพันธ์” นัดหารือผู้นำฝ่ายค้าน ลั่นถ้า ปชน.ลังเลพร้อมลุยเองยื่นซักฟอก ขอเวลายกเครื่อง พรรคกอบกู้เรตติ้ง ปัดข่าวลือ “สุริยะ-ณัฐพงศ์-ยศชนัน” แคนดิเดตนายกฯ “โอ๊ค-เอม-อิ๊งค์” แท็กทีมเยี่ยม “ทักษิณ” บอกโดยรวมพ่อโอเคหลังบางฝ่ายจับตาท่าทีพรรคประชาชน (ปชน.) หลีกเลี่ยงตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ล่าสุดนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคปชน. ยืนยันพรรค ปชน. พร้อมใช้ทุกกลไกของสภาฯตรวจสอบรัฐบาล รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่มีเงื่อนไข 3 ข้อเป็นตัวตัดสิน“ไอติม” ตั้ง 3 เงื่อนไขไม่ไว้วางใจ รบ.เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงจุดยืนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรค ปชน.ว่า ในฐานะแกนนำฝ่ายค้านพร้อมใช้ทุกกลไกของสภาตรวจสอบรัฐบาล รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย มีเงื่อนไข 3 ข้อจะใช้ยื่นอภิปรายคือ 1.ถ้ารัฐบาลอยู่เกินวันที่ 31 ม.ค.69 ไม่ยุบสภา จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที 2.หากแก้รัฐธรรมนูญหมวด 15/1 ปลดล็อกรัฐธรรมนูญใหม่ไม่สำเร็จในชั้นสภาในสิ้นปีนี้ ถ้าจะให้เสร็จในวาระ 3 ต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญพิจารณาวาระ 2 การที่รัฐบาลตัดสินใจเปิดหรือไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ จะบอกได้ว่าจริงใจแก้รัฐธรรมนูญแค่ไหน 3.หากดำเนินนโยบายสร้างความเสียหายหนักต่อประชาชน สะท้อนความไม่โปร่งใส แทรกแซงกระบวน การยุติธรรม อาจยื่นอภิปราย แต่ต้องรอเปิดสมัยประชุมสามัญวันที่ 12 ธ.ค. แต่กระบวนการเมื่อยื่นแล้ว กรอบเวลาจะเป็นอย่างไร ต้องหารือกับพรรค พท.ด้วย แม้พรรค พท.มี สส.เกิน 100 คนยื่นได้ด้วยตัวเอง แต่หากเรามีเป้าหมายตรงกัน ควรหารือแต่ละพรรคมีมุมมองอย่างไรรธน.เสร็จไม่ทันสิ้นปียื่นซักฟอกทันทีเมื่อถามว่าหากไม่มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญจะดำเนินการอย่างไร นายพริษฐ์ตอบว่าถ้าไม่เปิดผิดเงื่อนไขข้อ 2 ไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี แต่ถ้าเปิดสมัยวิสามัญพิจารณาวาระ 2 เสร็จก่อนวันที่ 12 ธ.ค. ช่วงรอ 15 วันก่อนเข้าวาระ 3 ถ้าตัดสินใจรอก็รอ แต่ถ้ามีเหตุอื่นที่ไม่สามารถรอ 15 วันได้ เป็นสิทธิที่พรรคการเมืองจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และหากวาระ 3 ปลายเดือน ธ.ค.ไม่ผ่านสภาฯ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เมื่อถามว่าพรรค ปชน.เห็นการแก้รัฐธรรมนูญสำคัญกว่าสแกมเมอร์หรือไม่ เพราะถ้ารัฐธรรมนูญไม่ผ่านจะยื่นอภิปรายทันที นายพริษฐ์ตอบว่า ให้น้ำหนักทั้งคู่ พรรค ปชน.ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง ส่วนที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ปชน. ระบุยังไม่เห็นความผิดร้ายแรงของรัฐบาลต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจพรรคพยายามตรวจสอบชี้ให้เห็นข้อกังขาเกี่ยวกับนโยบายและการดำเนินงานของรัฐบาล สิ่งที่ชัดเจนที่สุดเป็นเรื่องสแกมเมอร์จะตรวจสอบต่อไป เมื่อเปิดสภาวันที่ 12 ธ.ค. จะมีข้อมูลเพิ่มเติมรัฐบาลเอาจริงเอาจังมากแค่ไหน รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อน และการเปิดสมัยวิสามัญหรือไม่ 2 ข้อมูลนี้จะนำมาประกอบการตัดสินใจของพรรคจี้งัดยาแรงปราบสแกมเมอร์นายพริษฐ์กล่าวอีกว่า การจัดการปัญหาสแกมเมอร์ของรัฐบาล มี 2 ข้อเสนอที่อยากเห็นรัฐบาลเอาจริงเอาจังมากขึ้น 1.รัฐบาลประเทศอื่นใช้ยาแรงกว่ารัฐบาลไทยมาก โดยเฉพาะอายัดทรัพย์ 2.รัฐบาลต้องร่วมมือประเทศอื่นมากกว่านี้ แลกเปลี่ยนข้อมูลและทรัพยากร รูปธรรมยังเห็นไม่ชัดถึงกลไกดึงประเทศมาร่วมมือแก้ปัญหา มาตรการที่มียาแรงมากขึ้นในการทำงานเชิงรุก เพื่อแสวงหาความร่วมมือกับต่างชาติ อยากเห็นรัฐบาลขยับเมื่อถามว่ากำหนดยุทธศาสตร์อย่างไร ขณะนี้เหมือนพุ่งเป้า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯ นายพริษฐ์ ตอบว่า ไม่ได้พุ่งเป้าพรรคใด แต่พูดถึงการบริหารงานแบบภาพรวม สแกมเมอร์ต้องร่วมมือต่างประเทศมากกว่านี้ ความรับผิดชอบหลักอยู่ที่นายกฯ เราตรวจสอบตามเนื้อผ้าทุกคนในฝ่ายบริหาร แต่ปัญหาจะแก้ได้ต้องอาศัยนายกฯซัดไร้เอกภาพแก้ปัญหาน้ำท่วมนายพริษฐ์กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์อุทกภัย อยากเรียกร้องคือ 1.ทบทวนแผนการระบายน้ำ ให้เป็นธรรมในแต่ละพื้นที่ เฉลี่ยทุกข์สุข ไม่กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง 2.ทบทวนเกณฑ์และจังหวะการเยียวยาต้องสม่ำเสมอ ไม่ใช่รอน้ำลดอย่างเดียว 3.ประสานหน่วยงานในพื้นที่ จัดหาศูนย์อพยพ ศูนย์พักพิงให้ได้มาตรฐาน การทำงานล่าช้า นี่คือความไม่เป็นเอกภาพของหน่วยงานต่างๆ ภายใต้การบริหารงานรัฐบาลชุดนี้ การบริหารจัดการน้ำต้องใช้หลายหน่วยงานทั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทานให้ร่วมมือกันปัดค่ายสีส้มมีธงแก้รัฐธรรมนูญนายพริษฐ์ ในฐานะ กมธ.พิจารณารัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม รัฐสภา กล่าวถึงข้อสังเกตว่าพรรคปชน.พยายามควบคุมการแก้รัฐธรรมนูญในชั้น กมธ.ให้เป็นไปตามข้อเสนอของพรรค ปชน.ว่า ไม่ได้เป็นธงแบบนั้น เข้าใจดีแต่ละคนมีมุมมองต่างกัน อยากให้ กมธ.แสวงหาฉันทามติทุกฝ่าย การจะผ่านวาระ 3 ได้ ไม่ใช่เฉพาะใช้เสียงข้างมาก แต่ต้องได้ 20% ของฝ่ายค้านและ 1 ใน 3 ของ สว. หลังผ่านวาระ 3 แล้ว ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนด้วย ร่างรัฐธรรมนูญต้องตอบ 2โจทย์คู่ขนานได้ฉันทามติของรัฐสภาระดับหนึ่ง และตอบโจทย์เพียงพอที่ประชาชนจะเห็นชอบตอนประชามติ หากหาข้อสรุปร่วมกันได้ โดยไม่ลงมติได้ก็ดี แต่หากจำเป็นต้องลงมติต้องทำ ให้รู้แต่ละทางมีผู้เห็นด้วยหรือไม่มากน้อยแค่ไหน การประชุม กมธ.วันที่ 12 พ.ย. ประเด็นที่เห็นต่างจะหาข้อสรุปได้ทางใดทางหนึ่ง โมเดลพรรค ปชน.บางประเด็น กมธ.เห็นด้วย บางประเด็นไม่เห็นด้วย เชื่อว่าใกล้ได้ข้อสรุปแล้ว ไม่ว่าข้อสรุปเป็นเช่นไร ทุกฝ่ายพร้อมเดินหน้า เป้าหมายคือหาฉันทามติทุกฝ่าย หาจุดกึ่งกลางที่ยอมรับของทุกฝ่าย เอาโมเดลมาผสมในสิ่งที่รับได้ในเชิงหลักการ และผ่านความเห็นชอบประชาชน“ภราดร” โต้ “จุลพันธ์” ใครกันแน่เตะถ่วงนายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุบรรยากาศใน กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปอย่างช้าๆ โอกาสจะผ่านวาระ 3 มีน้อยมากว่า นั่นคือเป้าหมายของพรรค พท.หรือไม่ที่จะให้ไม่ผ่าน อยากให้ไปดูบันทึกรายงานการประชุม คนที่ถกเถียงและพูดเยอะที่สุดคือพรรคอะไร จริงๆเรื่องมันจบตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว สัปดาห์แรกผ่านไปด้วยดี พอสัปดาห์ที่ 2 มีความพยายามบางอย่าง หากไปดูบันทึกการประชุมจะทราบใครที่พยายามจะเตะถ่วง ในส่วนของพรรค ภท.ไม่มีใครขวางและถ่วงการแก้รัฐธรรมนูญ มีแต่ผลักดันและเสนอต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญที่พูดอยากให้เปิดเดือน พ.ย. ยอมรับว่า กธม.แก้ไขรัฐธรรมนูญทำไม่ทัน ไล่ไทม์ไลน์หากจะเปิดสมัยวิสามัญเพื่อให้แก้รัฐธรรมนูญทันสิ้นปีนี้ ต้องวันที่ 8-11 ธ.ค.ได้บอกไทม์ไลน์ทุกคนหมดแล้วชี้ กมธ.ต้องทำเสร็จอย่างช้าต้น ธ.ค.นายภราดรกล่าวว่า ขั้นตอนการเปิดสมัยวิสามัญ ประธานรัฐสภาต้องแจ้งมาที่นายกฯเพื่อให้เปิดการประชุมสมัยวิสามัญ แต่ก่อนไปถึงขั้นตอนนั้นอยู่ที่ กมธ.วิสามัญแก้ไขรัฐธรรมนูญจะพิจารณารัฐธรรมนูญเสร็จหรือไม่ เพราะหากทำไม่เสร็จก่อนเปิดประชุมสมัยสามัญวันที่ 12 ธ.ค. ไม่มีประโยชน์ที่จะเปิดสมัยวิสามัญ ดังนั้น กมธ.ควรต้องทำรัฐธรรมนูญให้เสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค. หากเสร็จตามกรอบเสนอให้ประธานรัฐสภาแจ้งนายกฯ เพื่อเปิดการประชุมสมัยวิสามัญได้ เมื่อดูกรอบการทำงาน กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญน่าจะเสร็จทัน ถ้าไม่มีใครพยายามเตะถ่วงหรือพูดไม่รู้จบ เมื่อถามว่าวันที่ 12 พ.ย.จะเรียกประชุมเพื่อลงมติเกี่ยวกับองค์กรจัดทำรัฐธรรมนูญ จะได้ข้อยุติหรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า ต้องทำให้จบภายในสัปดาห์นี้พท.ขอเวลายกเครื่องกอบกู้เรตติ้งที่พารากอนซีนีเพล็กซ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงผลโพลพื้นที่ภาคเหนือที่พรรค พท.คะแนนนิยมลดลง ขณะที่พรรค ภท.และพรรค ปชน.สูงขึ้นว่า เรากำลังอยู่ในช่วงยกเครื่อง ต้องให้เวลาปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการ การทำงาน ยอมรับอยู่ในภาวะเพลี่ยงพล้ำบ้าง แม้คนมองว่าตกต่ำ แต่บางจุดคะแนนนิยมพรรคอยู่ระดับสูง อยู่ที่พรรคจะปรับเปลี่ยนการทำงาน มีนโยบายตอบโจทย์ประชาชนมากน้อยเพียงใด แคนดิเดตตรงใจหรือไม่ หากตอบโจทย์ได้คนที่ยังไม่ตัดสินใจกว่า 30% พร้อมรองรับการทำงานพรรค พท.ในอนาคต หลังเปิดนโยบายและแคนดิเดตนายกฯพรรค พท.ออกมา เชื่อมั่นจะกระตุ้นฐานเสียงขึ้นมาได้ นโยบายพรรคในอนาคตจะตอบโจทย์ตรงความต้องการประชาชน วันนี้ความต้องการประชาชนไม่เหมือน 2 ปีก่อน พรรคการเมืองต้องปรับตัว ปรับนโยบายให้เข้าความต้องการประชาชนแต่ละช่วงเวลาปัดข่าวลือ 3 แคนดิเดตนายกฯนายจุลพันธ์กล่าวว่าส่วนกระแสข่าวพรรค พท.เคาะ 3 รายชื่อแคนดิเดตนายกฯ มีชื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.การเลือกตั้ง นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ลูกเขยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล บุตรชายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯกระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง พรรคยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ไม่มีการเคาะรายชื่อบุคคลใดทั้งสิ้นนัดหารือ “ณัฐพงษ์” เร็วๆนี้นายจุลพันธ์ยังกล่าวถึงการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าได้นัดคุยเป็นทางการกับนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน.ในเร็วๆ นี้ คงคุยหลายเรื่อง ทั้งการแก้กรอบรัฐธรรมนูญ การยื่นญัตติต่างๆจะร่วมมือกันอย่างไร ส่วนที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคปชน.ระบุยังไม่พบความผิดร้ายแรงของรัฐบาลที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ได้แปลกใจ เพราะสัญญาณความใกล้กันของพรรค ปชน.กับพรรค ภท.มีมาสักพักแล้ว แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจหากมีข้อสงสัยจะเสียหายต่อประเทศ ฝ่ายค้านคงอยู่เฉยไม่ได้ เรามีเสียงเกินกว่า 100 เสียงอยู่แล้ว คงพิจารณาภายในพรรคก่อน หากจะยื่นจริงต้องหารือพรรค ปชน. คิดเห็นอย่างไร ที่ฟังมาเป็นเพียงความเห็น น.ส.ศิริกัญญาคนเดียว ไม่รวมผู้นำฝ่ายค้าน ต้องฟังความเห็นรอบด้าน ทุกคนเห็นตรงกันหรือไม่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรค ปชน.ที่ตรวจสอบเรื่องสแกมเมอร์บอกเสียหายเยอะ อยากให้พรรค ปชน.คุยกันให้ชัดเจน แล้วนำมาหารือในวันที่พบกัน จะได้รู้ทิศทางพรรค ปชน. ความเสียหายอย่างการฮั้ว สว. เขากระโดง จะบอกไม่เกิดความเสียหายไม่ได้ถ้าพรรคส้มลังเล พท.ยื่นซักฟอกเองเมื่อถามว่าหาก 2 พรรคเห็นต่างกัน พรรคพท.จะยื่นอภิปรายเองหรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่า ถูกต้อง เราไม่ได้ยืนอยู่ภายใต้ข้อจำกัดในกระบวนการทำเอ็มโอเอ ไม่มีข้อจำกัด การตัดสินใจของพรรคพท.เป็นอิสระ ดูประโยชน์สูงสุด ความพร้อมข้อมูลและความเสียหายประเทศ เมื่อถามว่าต้องรอให้แก้รัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ก่อนหรือไม่ นายจุลพันธ์ตอบว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นปัจจัยที่พรรคคำนึงถึง แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องรอหรือไม่ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญของพรรค พท.พูดคุยว่า ต้องดูความจริงใจรัฐบาลและ สว.เสียงส่วนใหญ่ตั้งใจแก้ไขจริงหรือไม่ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะตั้งใจแก้ไข เพราะกระบวนการใน กมธ.ล่าช้า ขอเรียกร้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ตั้งแต่วันที่ 19-20 พ.ย. แต่มีทีท่าไม่ได้รับการสนอง จะไปเปิดวันที่ 8-10 ธ.ค.ทำให้ล่าช้า ต้องเพิ่มอีก 15 วัน ถึงจะลงมติวาระ 2 ปลายเดือน ธ.ค.ถึงจะลงมติวาระ 3 ได้ วันลงมติจะชัดเจนว่า สว. สส.ฝ่ายรัฐบาลเห็นชอบกับการแก้ไขหรือไม่“อิ๊งค์” ลุยยกเครื่อง 30 บาท ด้วย AIเมื่อเวลา 15.00 น. ที่โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดงาน MOONSHOP FORUM ครั้งที่ 1 หัวข้อ “ยกเครื่อง 30 บาท ด้วย AI : รักษาดี อยู่ดี ตายดี” เพื่อออกแบบแนวนโยบายอนาคต นำระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเข้าสู่ยุคข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ ดึงเทคโนโลยีเสริมประสิทธิภาพการดูแลประชาชนทุกช่วงวัย โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า นโยบายที่ดีไม่ได้เริ่มจากตัวเลขหรือเอกสาร แต่เกิดจากความฝันที่อยากเห็นประเทศดีขึ้น และพลังความหวังของประชาชน ดีเอ็นเอพรรค พท.สืบทอดจากไทยรักไทยที่กล้าทำสิ่งที่เคยถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรคที่พิสูจน์แล้วว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงกับชีวิตคนไทยอย่างมาก ยกระดับคุณภาพชีวิต เป็นรากฐานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า คนป่วยเรื้อรังไม่จำเป็นต้องล้มละลาย ไปสร้างหนี้เพราะมี 30 บาทจ่ายได้ หายได้ เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนในประเทศควรได้รับ ทุกวันนี้เทคโนโลยีสำคัญมาก จึงนำมาพัฒนาปรับปรุงนโยบายให้ใช้ได้ดี ทั่วถึง เกิดประโยชน์กับคนหมู่มากยิ่งขึ้น ต้องสร้างนโยบายเช่นนี้ให้เกิดขึ้น กล้าฝันไปเกินกรอบ เป็นสิ่งที่พรรค พท.อยากผลักดันให้เกิดขึ้นจริง นี่คือดีเอ็นเอแท้ๆของพรรค พท. อยากให้คนไทยทุกคนมีความฝันเล็กๆ ที่ทำให้ใหญ่ขึ้นและเกิดขึ้นจริงได้ ขอให้มั่นใจว่าจะมีนโยบายดีๆ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย3 พี่น้องชินวัตรแท็กทีมเยี่ยมพ่อเมื่อเวลา 10.20 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน สมาชิกครอบครัวชินวัตร ประกอบด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร และนายพานทองแท้ ชินวัตร เข้าเยี่ยมนายทักษิณชินวัตร อดีตนายกฯ หลังเข้าเยี่ยมประมาณ 1 ชั่วโมง น.ส.แพทองธารเปิดเผยว่า ตอนนี้คุณพ่อโดยรวมก็โอเค ขณะที่นายพานทองแท้กล่าวว่า คุณพ่อโอเคครับ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับออกไปทันที“นันทนา” นำคำพิพากษาสู้คดีชั้น ป.ป.ช.น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กล่าวถึงกรณีศาลแขวงดุสิตมีคำสั่งยกฟ้องคดีหมิ่นประมาท สว.ที่มีอาชีพขายหมู ไม่เป็นการหมิ่นประมาทหรือด้อยค่าว่า จะนำไปใช้เป็นพยานหลักฐานชี้แจงต่อ ป.ป.ช.หลังถูกที่ประชุมวุฒิสภาลงมติมีความผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีด้อยค่าเพื่อน สว. คำพิพากษาชี้ชัดไม่ใช่การหมิ่นประมาทหรือด้อยค่า แต่ทำหน้าที่ สว.วิพากษ์ วิจารณ์กระบวนการจัดสรรคนมาดำรงตำแหน่งในคณะ กมธ.ฯ มั่นใจมีน้ำหนักน่าเชื่อถือหนักแน่นพอที่จะได้รับความเป็นธรรมจาก ป.ป.ช. เพราะกระบวนการ ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.เอาผิดตนเป็นการกลั่นแกล้ง คณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ที่ประชุมวุฒิสภารู้อยู่แล้วว่าศาลอาญาจะอ่านคำพิพากษาคดีหมิ่นประมาทเรื่องนี้วันที่ 10 พ.ย. แต่ยังเดินหน้าบรรจุวาระให้ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเอาผิดจริยธรรม ทั้งที่ สว.บางส่วนทักท้วงให้รอแต่ประธานวุฒิสภายังเดินหน้าให้ลงมติรวบรัด กลั่นแกล้งชัดเจน จากนี้ขอปรึกษาทนายความก่อนจะฟ้องกลับใครบ้าง“อนุทิน” เยี่ยมโรงเรียนอัสสัมชัญเมื่อเวลา 08.30 น. ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย เยี่ยมเยียนโรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก ในฐานะศิษย์เก่า เลขประจำตัว 25684 รุ่น 98 เป็นนายกฯคนที่ 5 ที่เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียน พบปะคณะผู้บริหาร ครู นักเรียน วางดอกไม้หน้าอนุสาวรีย์ บาทหลวงเอมิล ออกัสต์ กอลมเบต์ ผู้ก่อตั้งโรงเรียน นำพวงมาลัยไหว้คุณครูที่เคยสอน พร้อมกล่าวถึงความทรงจำในรั้วโรงเรียนตอนหนึ่งว่า ยังจำคุณครูได้ทุกคน ทุกอย่างปลูกฝังมาจากที่นี่ วิชาความรู้ที่ได้รับนำพาสู่อนาคตที่ดี มาสเซอร์ พนาเวศ หลายรัตน์ ผูกพันที่สุด เปรียบเสมือนผู้มีพระคุณสูงสุดในโรงเรียน พอได้ 49 คะแนน มาสเซอร์ปัดให้เป็น 51 ด้วยความเมตตา เรียกแม่ของตนมาให้เคี่ยวเข็ญให้มากกว่านี้ ถ้าปล่อยไปแบบนี้เป็นโจรแน่นอน ร.ร.อัสสัมชัญบ่มเพาะให้พวกเราเป็นผู้เป็นคน ทำให้ละอาย และเกรงกลัวต่อการทำชั่ว หลังจากนี้อย่าลืมหาโอกาส หากมีโอกาสเมื่อไหร่ให้คิดถึงบ้านเมือง คิดถึงประเทศ คิดถึงอนาคตของตัวเองและของพ่อแม่ และคนรุ่นอย่างลุงที่ต้องพึ่งพาพวกน้องๆให้ดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ได้ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็น มนุษย์ที่ดี เราต้องฝากประเทศนี้ไว้กับมือของลูกๆหลานๆแนะทางสานฝันนั่งเก้าอี้นายกฯจากนั้นตัวแทนนักเรียนถามว่ามีคำแนะนำอะไรให้ชาวอัสสัมชัญที่อยากประสบความสำเร็จและอยากเป็นนายกฯ นายอนุทินตอบว่า สิ่งแรกต้องเชื่อฟังคุณพ่อ คุณแม่ เคารพคุณพ่อคุณแม่ เคารพครูบาอาจารย์ รักษาวินัยใฝ่รู้เอาไว้ และต้องตั้งมั่นอยากเป็นอะไรต้องตั้งเข็มไปทางนั้น ทุ่มเทเต็มที่จะประสบผลที่คาดหวังไว้ได้อย่างไม่ยาก จากนั้นไปเยี่ยมชมหอเกียรติยศแห่งโรงเรียนอัสสัมชัญ ศูนย์การเรียนรู้วิจัยและพัฒนา นวัตกรรม เทคโนโลยีการบินและอวกาศ และเทคโนโลยีขั้นสูงของโรงเรียน ทดลองขับเครื่องบินจำลอง ร่วมชมการเตรียมงานการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 31 และร่วมเป่าแซกโซโฟนกับวงดุริยางค์ AC Bandอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่