สัปดาห์ที่ผ่านมามีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สมควรแก่การบันทึกไว้ 2 เรื่อง 2 รสครับ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงใน 2 พรรคการเมืองใหญ่ ในแบบ “สวนทาง” คือ “โบกมือลา” กับ “คัมแบ็ก” กลับคืนสู่เหย้าในประเด็น “โบกมือลา” เกิดขึ้นกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งช่วงนี้ถือว่าอยู่ในช่วง ขาลง สุดๆ สมาชิกคนดังทยอยอำลาแบบเลือดไหลออกไม่หยุด...และช็อกที่สุดก็คือ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตหัวหน้าพรรค ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยส่วนในประเด็น “คัมแบ็ก” เกิดขึ้นที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่ออดีตหัวหน้าพรรคและอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัดสินใจคืนสู่เหย้า “ประชาธิปัตย์” กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเตรียมสู้ศึก หลัง “ยุบสภา” อีกครั้ง...มาเริ่มที่การโบกมืออำลาของนักการเมืองรุ่นเก๋าจากเพื่อไทย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ก่อนก็แล้วกัน เพราะเหตุเกิดขึ้นก่อน 1 วันอดีตผู้นำฝ่ายค้านบรรยายถึงความอึดอัดใจหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะในประเด็นที่ไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริหารพรรครุ่นใหม่ และยิ่งนานวันก็ยิ่งมีปัญหามากยิ่งขึ้น จึงได้ตัดสินใจอำลาพร้อมกับยืนยันว่าไม่ใช่เพราะพรรคซวดเซ และไม่ใช่เพราะตัวเองถูกดูด แต่เพราะความอึดอัดและช่องว่างระหว่างวัยที่เกิดขึ้นกับผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันท่านที่ติดตามอ่านคอลัมน์นี้มาพอสมควรคงจะพอจำได้ว่า ผมเคยเขียนถึง สส. สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อยู่บ่อยๆว่าเราเป็นเพื่อนรักเพื่อนซี้กันมาตั้งแต่ปี 2501 นับถึงบัดนี้ก็ 67 ปีเข้าไปแล้วแม้ผมจะเรียนเตรียมอุดมศึกษาปีที่ 1 หรือ ม.7 ใน พ.ศ.โน้น ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และสมพงษ์เรียน ม.7 เช่นเดียวกันที่ โรงเรียนอำนวยศิลป์ แต่ในห้องผมมีเพื่อนที่มาจาก อำนวยศิลป์ อยู่ด้วยคนหนึ่งซึ่งสนิทกับสมพงษ์มาก เป็นคนชักจูงผมและเพื่อนๆอีกหลายคนไปเป็นเพื่อนกับสมพงษ์หัดดื่มเหล้ามาพร้อมๆกันที่ภัตตาคาร “นิวยอร์ก” ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯตรงบริเวณที่เป็น สำนักงาน ป.ป.ส. ในปัจจุบันเมื่อจบ ม.8 แล้ว พวกเราต่างก็แยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง...สมพงษ์ ไปเรียนวิศวะที่เยอรมนีได้ปีเศษๆก่อนตัดสินใจเบนเข็มไปเรียนบริหารธุรกิจที่ บอสตัน สหรัฐฯ แล้วกลับมาทำงานในฐานะผู้จัดการเบียร์ คลอสเตอร์ ที่บางกระบือเพื่อนลงสมัคร สส.ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2529 ที่จังหวัดชลบุรี โดยการสนับสนุนของ “พี่เขย” ไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ และจาก “กำนันเป๊าะ” ต่อมาใน พ.ศ.2531 ย้ายไปสังกัดพรรครวมไทย ลงสมัครที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เป็น สส.เชียงใหม่ มาตั้งแต่บัดนั้นจากนั้นชีวิตทางการเมืองก็พวยพุ่งได้เป็นรัฐมนตรี หลายต่อหลายกระทรวง อาทิ อุตสาหกรรม, แรงงาน, ยุติธรรม, ต่างประเทศ, สำนักนายกฯ และ รองนายกรัฐมนตรี ก็เคยเป็นมาแล้วแน่นอนตำแหน่งสำคัญที่สุดตำแหน่งหนึ่งก็คือ “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร” นั่นเองด้วยวัย 84 ปีเศษๆ ก็ถือว่าอายุมากพอสมควรแล้ว แต่อ่านจากบทให้สัมภาษณ์ดูเหมือน สมพงษ์ ก็ยังห่วงหาอาลัยบ้านเมืองของเราอยู่ โดยบอกผู้สื่อข่าวว่าพร้อมจะเป็นที่ปรึกษาให้แก่พรรคไหนก็ได้ที่ยังเห็นความสำคัญ พรรคใดสนใจก็เชิญนะครับสรุป...ใครจะมอง สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อย่างไรก็ช่างเถิด แต่ในฐานะเพื่อนคนหนึ่งของเขา ผมขอแสดงความชื่นชมและขอปรบมือให้กับความสำเร็จที่น่าจะสูงสุดในบรรดาเพื่อนรุ่นเดียวกัน ทั้งอำนวยศิลป์และเตรียมอุดมรวมกันป.ล. เนื้อที่คอลัมน์มีจำกัดเขียนได้เหตุการณ์เดียวก็ “เต็ม” ซะแล้ว...เพราะฉะนั้นข่าวใหญ่การเมืองข่าวที่ 2 “อภิสิทธิ์คัมแบ็ก” คงต้องยกยอดไปว่ากันพรุ่งนี้ตามระเบียบนะครับ.“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม