“นายกฯ หนู” มั่นใจแก้ปัญหาเห็นผลคนเลือกกลับมาอีกรอบ เรือธงคนละครึ่งรอ “ขุนคลัง” พร้อมลุยทันที ยันกรอบเวลา 120 วันเริ่มนับ 1 ต.ค. เล็งจัด ครม.สัญจรอีสานใต้ ฉวยโอกาสเรียก “สส.เต้” ค่ายส้ม โชว์ตัวบนเวที เจ้าตัวย้ำชัดยังปักหลักอยู่ ปชน. “ภคมน” ซัด “อนุทิน” ไม่ให้เกียรติกัน “ไชยชนก” เผย “พ่อเนวิน” ให้กำลังใจ เชื่อว่า “ลูกทำได้” พท.จัด 20 ขุนพลชำแหละนโยบายเล็งต่อยอดยื่นซักฟอกถ้าพบพิรุธ “ชูวิทย์” ไขก๊อกพ้นสมาชิกเพื่อไทย “พีระพันธุ์” ขอไปต่อในนาม รทสช.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย นำทีมลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมเมืองกรุงเก่า ฉวยโอกาสเรียกนายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พระนคร ศรีอยุธยา พรรคประชาชน โชว์ตัวบนเวที ขณะที่เจ้าตัวรีบชี้แจง ยืนยันหนักแน่นเลือกตั้งครั้งหน้ายังปักหลักอยู่กับพรรคประชาชนต่อไป“หนู” นำทีมตรวจน้ำท่วมอยุธยาเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 ก.ย.ที่วัดโคกหิรัญ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยนำคณะประกอบด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี, น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล, นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมี น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ นายประดิษฐ์ สังขจาย สส.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย รวมถึงนายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พระนครศรีอยุธยา พรรคประชาชน (ปชน.) นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา รอต้อนรับลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและมอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน เมื่อนายกฯมาถึง ผู้นำท้องถิ่น สมาชิก อบจ. และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มอบดอกกุหลาบ และตะโกนเชียร์ว่า “ขวัญใจ อสม.” “รักท่านนายกฯ” ก่อนจะร่วมเซลฟี่อย่างเป็นกันเองเรียก สส.ปชน.ขึ้นเวทีย้ำทำเป็นทีมจากนั้นนายอนุทินได้เรียกนายทวิวงศ์ขึ้นมาบนเวที พร้อมกล่าวว่า “สส.เต้” อยู่พรรคประชาชน แต่ไม่ต้องกังวล แม้อยู่คนละพรรคแต่เขาโหวตให้นายอนุทิน เป็น สส.ที่ชาวบางบาลเลือกมา แต่ขานชื่อให้เท่ากับพ่อแม่พี่น้องทุกคนให้ฉันทานุมัติตนเป็นนายกฯ ในเมื่อพ่อแม่พี่น้องมีความทุกข์ยาก ไม่ว่าท่านจะเลือกใครเป็น สส.ก็ตาม นายกฯและรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลคลายทุกข์ให้กับพี่น้องทุกคน ทั้งนี้นายอนุทินยังเรียก สส.พระนครศรีอยุธยา ทั้งหมดขึ้นเวที พร้อมกล่าวว่า “ทำไมไม่ขึ้นมา เดี๋ยวก็สอบตกทั้งหมดหรอก”แก้ปัญหาได้คนเลือกกลับมาแน่นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งให้เร่งจ่ายเงินเยียวยาตามเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วจะดำเนินการทันที เมื่อถามว่าเวลาที่มีอยู่ของรัฐบาล จะดำเนินโครงการช่วยบรรเทาปัญหาซ้ำซากได้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มีรัฐบาลไหนทำโครงการต่างๆ ได้เสร็จภายในวาระของรัฐบาลนั้นได้ แต่เราต้องตัดสินใจเริ่ม ต้องไม่คิดว่าไปปัดแข้งปัดขาใคร ไม่ว่าใครนำเสนอขึ้นมาพรรคไหน พวกไหน ให้ประชาชนได้ประโยชน์ นิสัยตนไม่แคร์ว่าใครจะได้เครดิตถ้าประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ใครเสนอมา เห็นชอบหมด เมื่อถามว่าถ้าเริ่มต้นแล้วครั้งหน้าหวังว่าจะกลับมาสานงานต่อหรือไม่ นายอนุทินตอบว่าเราต้องหวังผลเป็นเลิศ ต้องทำงานให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจว่าเรามาแก้ไขปัญหาจริง และรักษางบประมาณประเทศเงินทุกบาททุกสตางค์ต้องไม่หายไปไหน เชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสเรากลับมาสานที่เราทำไว้คนละครึ่ง “ขุนคลัง” พร้อมลุยทันทีนายอนุทินยังกล่าวถึงการเดินหน้าโครงการคนละครึ่ง จะเข้าที่ประชุม ครม.ในวาระแรกเลยหรือไม่ว่า ทันทีที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พร้อม จะดำเนินการทันที ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ เรามีพร้อมไว้อยู่แล้ว เมื่อถามว่าการประชุม ครม.นัดแรก จะมีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการด้วยหรือไม่ เพราะมีคนจับตาอยู่ นายอนุทินตอบว่า ทำไมต้องจับตาเฉพาะ ครม.ชุดนี้ การแต่งตั้งโยกย้ายมีอยู่ตลอดเวลา ไม่เห็นมีปัญหา ทำไมต้องมีปัญหาที่รัฐบาลนี้ “ถ้าผมจะทำทำไมถึงต้องมีปัญหา ทุกอย่างต้องทำด้วยความเหมาะสมกับสถานการณ์ และภารกิจงาน ไม่มีทำเพื่อตอบสนองใคร ไม่มีทำเพื่อชำระความคับแค้นใจ ไม่มีแน่นอน”ยันกรอบเวลา 120 วันเริ่มนับ 1 ต.ค.ผู้สื่อข่าวถามว่าเวลาที่มีน้อยแค่ 4 เดือน จำเป็นต้องเอาข้าราชการที่สามารถตอบสนองนโยบายรัฐบาลมาทำงานใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ข้าราชการทุกคนก็สนองนโยบายรัฐบาลหมดแหละ ใครเป็นรัฐบาลเขาก็ต้องสนอง อย่าสนองแบบไปแกล้งคนอื่น ที่ผ่านมานอกจากสนองแล้วยังกลั่นแกล้งด้วย แต่รัฐบาลนี้ไม่มี เราไม่คิดหุนหันพลันแล่นเหมือนรัฐบาลคนก่อนหน้านี้ เมื่อถามย้ำว่าเวลา 120 วัน รัฐบาลเริ่มนับจากวันไหน นายอนุทินตอบว่า ง่ายๆ คือวันที่ 1 ต.ค. หลังอภิปรายแถลงนโยบายเสร็จในวันที่ 30 ก.ย.เล็งประชุม ครม.สัญจรอีสานใต้เมื่อถามว่า 4 เดือนนี้จะมีการประชุม ครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า คาดว่าจะมีสักครั้งหนึ่ง ไปดูในเขตปัญหาไทย-กัมพูชา แถบอีสานใต้ เดี๋ยวดูจังหวัดที่เหมาะสม ไม่ไปทำให้ข้าราชการและประชาชนลำบาก ส่วนจะเป็นช่วงไหน ขอคิดดูอีกที“เต้” ย้ำชัดยังคงปักหลักอยู่ ปชน.ด้านนายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พระนคร ศรีอยุธยา พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมว่า “เพียงแค่เข้าไปสังเกตการณ์ และนำข้อเสนอการแก้ปัญหา ขอให้เร่งแก้ปัญหาแก่ชาวอยุธยา โดยเฉพาะชาว อ.บางบาล โดยด่วน เมื่อนายกฯชวนขึ้นเวทีด้วยมารยาทผมก็ยินดี ทำให้ประชาชนชาว อ.บางบาล ได้เห็นว่าในฐานะนักการเมือง พวกเราต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ชาวอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มการเมืองพรรคใด ประชาชนทุกคนรอการแก้ปัญหาอยู่ทุกวัน แต่ในสภา ผมยังยืนยันว่าเป็นฝ่ายค้านและจะตรวจสอบการทำงานรัฐบาลทุกก้าวย่างอย่างเต็มที่แน่นอน ยืนยันอย่างหนักแน่น หากมีการเลือกตั้ง สส. ผมจะลงสมัครในนามพรรค ปชน.อย่างแน่นอน เลือกเต้ ทวิวงศ์ และพรรค ปชน. ท่านจะได้เต้ ทวิวงศ์ เข้าไปโหวตเลือก “คุณเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรค ปชน. หรือผู้ที่ได้รับฉันทามติจากประชาชนในการเป็นผู้นำรัฐบาลอย่างแน่นอน แบบไม่ต้องสงสัย”“ภคมน” ซัด “อนุทิน” ไม่ให้เกียรติน.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรค ปชน. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ได้ฟังคลิปนายกฯพูดบนเวที จ.พระนครศรีอยุธยา ที่กล่าวว่า “ดีแล้วเลือกเต้ ให้มาเลือกหนู” คิดว่าการพูดแบบนี้มันมากไป ฉวยโอกาสจากการเป็นผู้มากประสบการณ์ทางการพูดเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง นายกฯอาจคิดว่าการพูดถึง สส.เต้แบบนี้คือการให้เกียรติกัน แต่สำหรับดิฉัน “เสียมารยาท และไม่ให้เกียรติกัน” ทั้งที่คุณอนุทินทราบดีกว่าการโหวตให้เป็นนายกฯของพรรคประชาชน เกิดขึ้นด้วยเงื่อนไขทางการเมือง และดิฉันยืนยันอีกครั้งว่าการโหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ ไม่มีบุญคุณผูกพันกันไปมากกว่าเงื่อนไขที่สาธารณะรับรู้ ฝากถึงผู้เก๋าเกมทางการเมืองทั้งหลาย อย่าฉวยโอกาสทางการเมืองด้วยวิธีแบบนี้อีก”“เนวิน” ให้มีสติเชื่อว่า “ลูกทำได้”ช่วงเช้าที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เข้าสักการะศาลพระพรหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง มีนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี นายพชร อนันตศิลป์ ว่าที่ปลัดกระทรวงดีอี พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง หน่วยงานในสังกัด ตลอดจนทีม สส.พรรคภูมิใจไทยส่วนหนึ่ง อาทิ นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี ร่วมต้อนรับ ต่อมานายไชยชนกให้สัมภาษณ์ว่า งานกระทรวงดีอีในส่วนของการกระตุ้นเศรษฐกิจ มองเป้าหมายการลดต้นทุนของผู้ประกอบการที่ต้องจ่ายให้แก่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ไม่ว่าจะเป็นค่าขนส่ง รวมทั้งค่าธรรมเนียมการใช้บริการ (GP-Gross Profit) ว่าจะสามารถลดลงได้หรือไม่ เรื่องนี้มีแนวโน้มทำได้ 2 แนวทาง ภายใต้หลักการขอความร่วมมือแพลตฟอร์มมากกว่าจะใช้กฎหมายบังคับ และอยากแก้ปัญหาภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ โดยนำเทคโนโลยีมาช่วย เมื่อถามว่านายเนวิน ชิดชอบ บิดาฝากฝังอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายไชยชนกตอบว่า “เห็นรัฐมนตรีคนอื่นมีคุณพ่อ คุณแม่ไปส่งที่กระทรวงจึงถามขำๆ ว่าจะไปส่งที่กระทรวงหรือไม่ ท่านสอนอย่างเดียวคือ ขอให้มีสติ พ่อเชื่อว่าลูกทำได้”พท.จัด 20 ขุนพลชำแหละนโยบายวันเดียวกัน นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล วันที่ 29-30 ก.ย.ว่า พรรคเพื่อไทยเตรียม สส.ไว้อภิปรายร่วม 20 คน จะสอบถามว่า 4 เดือนของรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย สามารถทำตามนโยบายได้จริงหรือไม่ รวมถึงคนที่มาเป็นรัฐมนตรีจะได้รับความเชื่อถือจากต่างชาติ คนในประเทศ และได้รับความร่วมมือจากข้าราชการหรือไม่ รวมถึงคดีฮั้ว สว. ที่ดินเขากระโดง การแก้รัฐธรรมนูญจะแก้ได้จริงไหม คนที่จะถูกซักถามหนักๆไม่น่าจะผิดความคาดหมายไปจากที่สังคมเคลือบแคลงเรื่องคุณสมบัติ และความรู้ความสามารถ ส่วนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล พรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นมาตรการที่ทำไม่ได้ ทำยาก ใช้เงินเยอะ จะเอาเงินมาจากไหนในเวลาจำกัด ไม่สอดคล้องสภาพการเงินการคลังเล็งต่อยอดยื่นซักฟอกถ้าพบพิรุธนายสุทินกล่าวต่อว่า ส่วนการต่อยอดไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ยังไม่ได้คุยกัน แต่หากรัฐบาลทำอะไรสุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดความเสียหาย หรือทำสิ่งที่สังคมวิตก ถ้าคุณทำปั๊บเราก็เปิดปุ๊บ พร้อมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ มองว่าช่วงเวลา 4 เดือน รัฐบาลใหม่คงพอไปได้ แต่จะไปแบบอิหลักอิเหลื่อ เป็น 4 เดือนที่ประเทศเสียหายมาก ทั้งระบบนิติรัฐ ระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา และเรื่องเกี่ยวกับฮั้ว สว. เขากระโดง ถ้าทำกระทบนิติรัฐแน่นอน ขณะที่ระบบสภาจะซื้อระดมช็อป สส.เข้าพรรค เป็น 4 เดือนที่ดูน่าเกลียดมาก เพื่อภารกิจพิเศษของพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น เริ่มต้นก็เห็นแล้วว่ามีการตั้งคนของตัวเองเป็น รมว.ยุติธรรม อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ วางคนของตัวเองมาคุมเรื่องนี้ คิดว่ามีการแทรกแซงแน่ แต่เนียนหรือไม่เนียนต้องรอดูต่อไปรอซัก 4 เดือนยุบสภาหรือยุบคดีนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่ารัฐบาลเสียงข้างน้อยจะยุบสภาใน 4 เดือนจริง ทีมอภิปรายของพรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่สุดความสามารถ พร้อมตั้งคำถาม 4 เดือนยุบสภา หรือ 4 เดือนยุบคดี และ 4 นโยบายรัฐบาลอนุทิน หรือ 4 ข้อหายนะ มี สส.เพื่อไทยแสดงเจตจำนงร่วมอภิปรายจำนวนมาก เพื่อชี้ให้เห็นถึงการขาดโอกาส ขาดคนมีฝีมือ ขาดความโปร่งใส ขาดอนาคตประชาธิปไตย ไม่มั่นใจรัฐบาลชุดนี้จะพาคนไทยเดินไปทิศทางใด ให้จับตาการแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 29-30ก.ย. จะฝากความหวังที่พรรคฝ่ายค้ำใน MOA ไม่ได้มั่นใจได้อย่างไรจะตรวจสอบรัฐบาลที่ตั้งมากับมืออย่างเข้มข้น พรรคเพื่อไทยยืนยันทำหน้าที่ตรวจสอบนโยบายรัฐบาลอย่างเข้มข้น ส่วนพรรคฝ่ายค้านใดจะเป็นเดอะแบก นั่งร้าน หรือฝ่ายค้ำ เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแบ่งงานรองนายกฯคุมโซนเลือกตั้งนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ แบ่งงานให้รองนายกรัฐมนตรี 6 คน หากไม่นับงานรองนายกฯที่ดูแลภาพรวมเศรษฐกิจ และการรับผิดชอบงานทางกฎหมาย ที่เหลือถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นการแบ่งงานภูมิภาค เหนือ กลาง อีสาน ใต้ ตะวันออก เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้งต้นปี 2569 จัดแม่ทัพคุมโซน ตอบสนองความต้องการกลุ่มการเมือง ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ นับวันยิ่งละเมิดข้อตกลง MOA ตั้งแต่นายอนุทินได้เป็นนายกฯ มีกลุ่มการเมืองหลายพรรคย้ายเข้ามาแบบไม่เกรงใจพรรคสีส้ม ที่เคยยึดมั่นหลักการก็นิ่งเงียบ อย่างเรื่องหลุมยุบหน้าโรงพยาบาลวชิระ ปชน.ที่มี สส.กทม. 32 คน ไม่แสดงท่าทีใดๆ ไม่รู้มีดีลพิเศษหรือไม่ ไม่แปลกใจแฟนคลับส้มจะผิดหวัง ลืมหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่เป็นฝ่ายค้ำยันให้รัฐบาลหรือไม่ ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังผลงาน 4 เดือน ขอเพียงอย่าสร้างปัญหาใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะปัญหาทุจริต ห้ามเกิดเด็ดขาดในยุครัฐบาลคนละครึ่ง คนนอกครึ่ง บ้านใหญ่อีกครึ่ง อะไรที่สัญญาไว้ให้พูดแล้วทำ“ชูวิทย์” ไขก๊อกพ้นสมาชิกเพื่อไทยผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีต สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ได้ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. ทำเอกสารถึงนายทะเบียนสมาชิกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีความประสงค์ขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.เป็นต้นไป ขณะที่ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ลูกสาวนายชูวิทย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เส้นทางในชีวิตคนมีหลายเส้นทาง แต่มี 2 เส้นเท่านั้นที่ต้องเดิน เส้นหนึ่งเรียกว่าเส้นทางแห่งความฝัน อีกเส้นหนึ่งแม้ไม่อยากเดินก็ต้องเดิน นั่นคือเส้นทางแห่งความเป็นจริง ชีวิตคนสั้นนัก ไม่มีเวลาให้มานั่งเสียใจ อย่าเสียเวลาให้คน หรือเรื่องที่ทำให้ไม่เป็นสุข สิ่งนี้ไม่ใช่ป้ายสุดท้ายของชีวิต ยิ้มกับมันแล้วเดินต่อไป ชีวิตอาจมีความหวังมากมายที่สุดท้ายต้องผิดหวัง อาจมีความฝันมากมายที่สุดท้ายต้องกลายเป็นความว่างเปล่า อาจมีคำพูดมากมายที่สุดท้ายไม่รู้จะบอกใครได้ เรื่องบางเรื่องทำดีที่สุดแล้ว ไม่เป็นไปอย่างที่ปรารถนาก็พอ อย่าไปยึดให้แน่นมากนัก คนบางคนใส่ใจมากเกินไป ก็ใช่ว่าจะมีความสุข หากทางที่เดินขรุขระ จงให้กำลังใจแก่คนร่วมทาง หากชีวิตมากมายด้วยลมฝนกระหน่ำ จงยิ้มให้ตัวเอง ชีวิตคนเราเก็บความสุขใส่ในใจเก็บความทุกข์ใส่ขวดโหลแล้วโยนทิ้งไป เก็บไว้ไม่มีประโยชน์ ให้กำลังใจกันนะ #รักพ่อที่สุด สส.10 สมัย ตอนนี้ดำรงตำแหน่งพ่อผู้แทนฯ หนูจะทำให้พ่อภูมิใจ”“ศักดิ์ดา”โวล้าน % ชนะเลือกซ่อมขณะที่นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รมช.มหาดไทย และอดีต สส. กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4 ในวันที่ 19 ต.ค.ว่า วันที่ 12 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะนำแกนนำพรรค ภท. ลงพื้นที่และขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ช่วย น.ส.วิสุดา วิเชียรศิลป์ ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม สส.กาญจนบุรี เขต 4 บุตรสาวตน หาเสียง โดยตนได้พูดคุยกับนายอนุทินไว้คร่าวๆแล้ว ทั้งนี้ คู่ต่อสู้ในพื้นที่คือพรรคเพื่อไทย (พท.) ทั้งนี้ ตนมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์จะได้รับชัยชนะ จากผลงานประชาชนชื่นชอบ เพราะตนทำงานลงพื้นที่มาตลอด ทั้งนี้ คงไม่เกี่ยวกับการเป็นรัฐบาล เพราะอยู่ที่ประชาชนตัดสินใจที่เขาเห็นผลงานของเราที่ผ่านมา“พีระพันธุ์” ระดมผู้ร่วมอุดมการณ์อีกเรื่อง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า เชื่อว่าที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนหลายคนรู้สึกเบื่อการเมือง เบื่อนักการเมือง ชอบอ้างประชาชน พอมีอำนาจกลับเข้ามาหาผลประโยชน์ มาเล่นการเมือง แต่ไม่เคยคิดแก้ไขปัญหาประชาชนอย่างแท้จริง จึงเป็นที่มาของการก่อตั้งพรรค รทสช. มั่นใจว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่ได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเข้ามาทำงานการเมืองให้กับประเทศชาติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในส่วนที่รับผิดชอบคือด้านพลังงาน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องสู้และทำจริง โดยไม่สนใจผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นไปต่อในนามรวมไทยสร้างชาติ“ผมขอถือโอกาสนี้เชิญชวนทุกคนที่มีแนวคิด มีความตั้งใจเหมือนผมและพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมทำงานด้วยกัน สามารถสมัครได้ 2 วิธี ได้แก่ วิธีที่ 1 สมัครด้วยตนเองที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เลขที่ 35/3 ซอยอารีย์ 5 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ และวิธีที่ 2 คือ กรอกใบสมัครที่ลิงก์นี้ https:// forms.gle/jwYGG9zNn Gedtiqb7 ผมขอถือโอกาสนี้เชิญชวนท่านทั้งหลายที่เบื่อการเมือง เบื่อนักการเมือง ชอบอ้างแต่ประชาชน ถึงเวลาก็เข้ามาหาประโยชน์ ท่านที่คิดและมีความตั้งใจเหมือนผมมาร่วมกันทำงานการเมืองที่ดี มาเป็นนักการเมืองที่ดี ให้เห็นครับว่าประเทศนี้ยังไปได้ต่อ มาร่วมกันที่พรรครวมไทยสร้างชาติครับ”นายพีระพันธุ์กล่าวคนเสื้อแดงล้อมวงกินข้าวหน้าคุกเวลา 15.00 น. ที่หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม กลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย รวมตัวนัดรับประทานอาหารที่หน้าเรือนจำคลองเปรมอีกครั้ง ให้กำลังใจนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ มีการเปิดเพลงที่นายทักษิณเคยขับร้องสมัยลี้ภัยการเมืองอยู่ต่างประเทศ วันนี้มีกลุ่มญาติวีรชนปี 2553 ร่วมด้วย ทั้งหมดปักหลักปูเสื่อ ตั้งโต๊ะแจกอาหาร นายวรชัยนำข้าวมันไก่มาแจก และมีประชาชนนำอาหารมาร่วมสมทบ อาทิ แกงส้มชะอมทอด ต้มยำหนู หนูนาย่าง บวดเผือก ข้าวผัดกะเพรา ข้าวหมกไก่ ฯลฯ ในช่วงท้ายคนเสื้อแดงได้ทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง คนที่ชอบกลั่นแกล้งคนอื่นให้เจ็บทุกข์ร้อนจากการกระทำของตนเอง ก่อนยุติกิจกรรมและนัดหมายใหม่อีกครั้งในวันเสาร์ที่ 4 ต.ค.เวลา 15.00 น.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่