กรมการค้าภายในแจงราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่แม่แจ่มเป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ สั่งการ สพจ.เชียงใหม่ เร่งชี้แจงข้อเท็จจริงแก่ผู้ร้องเรียน พร้อมส่งทีมลงพื้นที่พิษณุโลก-เพชรบูรณ์-นครสวรรค์ ตรวจเข้มลานรับซื้อให้ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด ใช้เครื่องวัดความชื้นที่ได้มาตรฐาน และติดป้ายแสดงราคารับซื้อ พร้อมเร่งแก้ปัญหาเพื่อให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมตลอดฤดูกาลข้าวโพดเมื่อวันที่ 17 ก.ย. นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน (DIT) ได้ติดตามสถานการณ์การรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ใน อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 15 ก.ย. พบว่าปัจจุบันราคารับซื้อในทุกลานเป็นไปตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ประจำปี 2568/69 ข้าวโพดของเกษตรกรที่มีความชื้นเกิน 35% ลานรับซื้อในราคา กก.ละ 5.50-5.70 บาท หากต้องขนผลผลิตจากพื้นที่บนเขาหรือดอยจะหักเพิ่มเพียง 50-60 สตางค์เท่านั้น ยืนยันว่าราคาที่เกษตรกรบางส่วนร้องเรียนว่าตกเหลือเพียง กก.ละ 4 บาทนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทั้งนี้ จ.เชียงใหม่ มีผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รวมประมาณ 200,000 ตัน หรือคิดเป็นเพียง 4% ของผลผลิตทั้งประเทศ และผลผลิตในพื้นที่เชียงใหม่ส่วนใหญ่จะทยอยออกสู่ตลาดในช่วงเดือน ต.ค.เป็นต้นไป ทำให้ปัจจุบันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเชียงใหม่อยู่ในเกณฑ์ราคาที่เหมาะสมนายวิทยากรย้ำว่า กรมมอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มเกษตรกรที่ร้องเรียน หากพบกรณีที่เกษตรกรไม่ได้รับราคาตามคุณภาพผลผลิตจะเร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม กรณีที่เครือข่ายเกษตรกรอำเภอแม่แจ่มทั้ง 7 ตำบล ได้แก่ ช่างเคิ่ง ท่าผา แม่นาจร ปางหินฝน บ้านทับ กองแขก และแม่ศึก รวมประมาณ 500 คน เดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 15 ก.ย. เรื่องราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตกต่ำ กรมรับทราบข้อมูลแล้ว ยืนยันว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมดูแลและแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวต่อไปว่า ได้ติดตามการรับซื้อของลานและโรงงานอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนได้ลงพื้นที่ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สั่งเร่งแก้ปัญหาเครื่องวัดความชื้นรุ่น PM450 สามารถวัดได้ไม่เกิน 35% ทำให้ไม่สามารถระบุค่าความชื้นที่แท้จริงของข้าวโพดได้ จึงได้นำผู้แทนบริษัทผู้นำเข้าเครื่องวัดความชื้นลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมใน อ.วัดโบสถ์ และ อ.วังทอง บริษัทผู้นำเข้าได้รับทราบข้อจำกัดของเครื่องวัดความชื้นรุ่นดังกล่าว และยืนยันว่าจะเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้รองรับการวัดความชื้นที่สูงกว่า 35% ได้ต่อไป ในส่วนของพื้นที่อำเภออื่นใน จ.พิษณุโลก จ.นครสวรรค์ จ.เพชรบูรณ์ เป็นแหล่งผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สำคัญของประเทศ ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษพร้อมนายตรวจชั่งตวงวัดลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้ออย่างเคร่งครัด พบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีการติดป้ายแสดงราคารับซื้อและใช้เครื่องวัดความชื้นที่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการ 5 รายที่ไม่ติดป้ายราคา และตรวจพบการใช้เครื่องวัดความชื้นสิ้นสุดคำรับรองอีก 1 ราย มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป“ขอเน้นย้ำว่าเกษตรกรควรเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เมื่อมีความชื้นเหมาะสม เพื่อรักษาคุณภาพและให้ได้ราคาที่เป็นธรรม หากความชื้นสูงเกินไปจะทำให้ราคาถูกหักลดลง พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการลานรับซื้อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการแสดงราคาตามความชื้น การใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน และการออกใบอนุญาตขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างถูกต้อง หากประชาชนพบปัญหาในการซื้อขายสินค้าเกษตรหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ” นายวิทยากรกล่าวทิ้งท้ายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่