ช่วง “ขาลง”... อะไรต่อมิอะไรไม่เป็นใจไปเสียหมด ขนาดว่าน่าจะได้แต่ก็ไม่ได้ มันก็เป็นแบบนี้แหละ...โลกหลังจากที่ “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เริ่มเป็นลางบอกเหตุแล้วว่าจากนี้จะเกิดความเลวร้ายขึ้นก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ!“ภูมิธรรม เวชยชัย” ขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการแทนนายก รัฐมนตรีก็พยายามที่จะทำอะไรให้มันดูดีขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้พรรคประชาชนเปิดช่องทางที่พร้อมจะสนับสนุนให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยได้เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงมีข้อแม้ว่าจะต้องยอมรับเงื่อนไขที่กำหนด“ภูมิธรรม” ถึงกับเดินทางไปเจรจาด้วยตนเอง ทั้งๆที่เคยบาดหมางกันมาก่อน แต่จำใจต้องไปเพื่อหวังจะเพิ่มน้ำหนักให้เกิดความมั่นใจแต่ “ประชาชน” กลับไม่เลือกเป็นเช่นนั้นก็ต้องเล่นเกมหักเหลี่ยมเฉือนคมด้วยการยื่นทูลเกล้าฯเพื่อให้ “ยุบสภา” ด้วยมั่นใจว่าทำได้แต่กลับถูกตีกลับ เพราะไม่เป็นไปตามระเบียบ โดยเลขาธิการ กฤษฎีกาให้ข้อมูลว่ารักษาการนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจทำได้หวังว่าจะไม่ให้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกรัฐมนตรีก็เลยผิดพลาด!แม้กระทั่งพรรคประชาชนจับมือกับภูมิใจไทยรับข้อเสนอแล้วจะสนับสนุน “อนุทิน” ก็ยังไม่หยุดดิ้นพยายามที่จะยื้อให้ถึงที่สุดบอกว่าถ้าหนุน “ชัยเกษม นิติสิริ” แล้วจะ “ยุบสภา” ทันทีไม่ต้องรอ 4 เดือน แต่ก็ไม่สำเร็จพูดง่ายๆดิ้นจนหยดสุดท้ายวันที่ 9 ก.ย.2568 ศาลจะตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งจะเป็นการชี้ตาย “ทักษิณ ชินวัตร” หากรูปการณ์เป็นอย่างนี้ดูท่าไม่น่ารอด!อีกมุมในช่วง “ขาขึ้น” อะไรต่อมิอะไรก็ดูดีไปหมด ขนาดพรรคมีเสียงไม่ถึง 100 ยังสามารถผลักดันให้ขึ้นมาเป็นนายก รัฐมนตรีได้เมื่อพรรคประชาชนที่มี 143 เสียงหนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยมีพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลให้การสนับสนุนด้วยขนาด “กล้าธรรม” ยังเอาด้วยที่สร้างความเคืองแค้นให้ “ทักษิณ” ไม่น้อยหรือแม้กระทั่ง “งูเห่า” จากเพื่อไทยยังออกมาเลื้อยกันยั้วเยี้ยไปหมด“อนุทิน” จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจที่รอคอยที่สำคัญก็คือได้สร้างความแค้นเคืองใจให้ “ทักษิณ” ที่เคยทำอะไรไว้มากพอสมควรเมื่อได้มีอำนาจรัฐเต็มๆได้เป็นแกนนำรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็จริงแต่ก็สามารถที่จะตั้งรัฐมนตรีและสร้างผลงานให้ปรากฏได้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเลือกตั้งใหญ่อย่างชัดเจน ยิ่งสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่แม้เวลาน้อยแต่ถ้าได้ผลและสร้างความหวังได้ก็ได้คะแนนนิยมปัญหา “ไทย-กัมพูชา” ก็น่าจะดีขึ้น เพราะสามารถพูดคุยกันโดยตรงได้แบบนี้ก็สามารถโกยคะแนนได้ สส.เหนือกว่า “เพื่อไทย” แน่!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม