“หมอมิ้ง” ยืนยันนายกฯไม่ชิงยื่นลาออกก่อนศาล รธน.วินิจฉัย ทีมกฎหมายส่งคำปิดคดีตามนัด ขอสื่ออย่าขยายความให้สังคมสับสน “วิสุทธิ์” ย้ำ “อิ๊งค์” สู้จนถึงวันตัดสิน “ประเสริฐ” มั่นใจจะมีข่าวดีในวันที่ 29 ส.ค. ชี้ทักษิณรอดคดี 112 สร้างขวัญกำลังใจ พท. ลั่นยังไม่ถึงคิว แคนดิเดตนายกฯพรรคอื่น “วันนอร์” ปัดไม่มีเตรียมการรับมือ ให้เป็นเรื่องของศาลกับนายกฯ “ไชยา” โบ้ยวิปสองฝ่ายสื่อสารผิดพลาดเลยต้องชิงปิดประชุม ขอโทษถ้าทำให้สังคมไม่สบายใจ พรรค ปชน.ตามติดคดี “หญิงปริศนา” ซื้อตัว สส. พิสูจน์แล้วคลิปเสียงไม่มีตัดต่อ ดีเอสไอเผยรังวัดใหม่ที่เขากระโดงเหลือ 4,414 ไร่ พบสนามบอลทับที่สาธารณะ แฉเล่ห์แก๊งฮุบที่ดินหลวงนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายก รัฐมนตรี ออกมายืนยัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม จะไม่ยื่นลาออกก่อนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย วันที่ 29 ส.ค. คดีคลิปเสียงการสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ขอสื่ออย่าขยายความให้สังคมสับสนอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 23 ส.ค. ที่ลานด้านหน้าอาคารรัฐสภา ถนนสามเสน นายวันมูหะมัดนอร์มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ และเครื่องประกอบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนอัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่ลานด้านบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธี นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การก่อสร้างและอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 จะแล้วเสร็จในช่วงเดือน พ.ค.2569 จะมีการหารือกับสำนักพระราชวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดพระราชพิธีเปิดพระบรมรูปฯต่อไป ขณะนี้ทุกอย่างเรียบร้อย ดำเนินการอย่างสมพระเกียรติสูงสุดสำนักช่างสิบหมู่จัดสร้างขึ้นใหม่สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากรออกแบบให้มีขนาดใหญ่ 4 เท่าของพระองค์จริง ความสูงจากยอดพระชฎาจนถึงพื้นของพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ 7.7 เมตร ทรงเครื่องบรมราชภูษิตาภรณ์ ฉลองพระองค์ครุย ทรงพระชฎามหากฐินปักขนนกการเวก หรือปักษาสวรรค์ ซึ่งเครื่องราชศิราภรณ์ประเภทชฎา มีศักดิ์สูงรองจากพระมหาพิชัยมงกุฎ โดยมีความแตกต่างจากพระองค์เดิม คือมีพระที่นั่งกระจังใบเทศ 12 ใบ ฐานสองชั้นประดับรายรอบด้วยเทพพนม 21 องค์ พญาครุฑ 24 ตน การจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 เป็นการสร้างให้คล้ายกับภาพเมื่อวันที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกแห่งราชอาณาจักรไทย 10 ธันวาคม 2475“วันนอร์” ปัดเตรียมรับมือ 29 ส.ค.นายวันมูหะมัดนอร์ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียม พร้อมรับการตัดสินคดีคลิปเสียงนายกรัฐมนตรีสนทนา กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยวันที่ 29 ส.ค.ว่า สภาฯไม่ได้เตรียมรองรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. เป็นเรื่องของนายกฯที่ถูกกล่าวหาและศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย ผลเป็นอย่างไรเป็นเรื่องระหว่างศาลกับนายกฯ แต่ถ้ามีผลอย่างไร หรือสิ่งใดที่เป็นหน้าที่ของสภาฯ ก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดไม่วิจารณ์ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบ กระบวนการขั้นตอนการได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีใหม่ต้องใช้เวลากี่วัน นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะการโหวตเลือกนายกฯเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร คงใช้เวลาไม่นาน สภาฯพร้อมดำเนินการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่เราไม่อยากพูดตอนนี้ว่าผลจะออกมาเป็นบวก หรือเป็นลบ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไปวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ โดยเฉพาะฝ่ายนิติบัญญัติ เราต้องเคารพฝ่ายตุลาการ“หมอมิ้ง” ยันนายกฯไม่ชิงลาออกขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการยื่นคำแถลงปิดคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่า ทีมกฎหมายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม รวบรวมหลักฐานและข้อเท็จจริงทุกประเด็น เพื่อจัดทำเป็นคำแถลงปิดคดี โดยจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 25 ส.ค. ตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ทีมกฎหมายได้ดำเนินการตามแนวทางการพิจารณาคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายกฯจะยื่นลาออกจากตำแหน่งก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัย วันที่ 29 ส.ค. นพ.พรหมินทร์ตอบว่า ยืนยันว่านายกฯจะไม่ยื่นลาออก ขอสื่ออย่านำประเด็นดังกล่าวไปขยายความต่อเพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน“วิสุทธิ์” ย้ำ “อิ๊งค์” สู้จนถึงวันตัดสินนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในวันที่ 29 ส.ค.ว่า สส.พรรคเพื่อไทยยังมีกำลังใจ และเชื่อมั่นในตัวนายกฯว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อประเทศชาติบ้านเมือง มีแต่ความปรารถนาดี และนายกฯก็มีกำลังใจดี เมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่ว่า น.ส.แพทองธารจะไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนวันตัดสินคดี นายวิสุทธิ์ตอบว่า ยังยืนยันไม่มีเรื่องนี้ ไม่เคยได้ยิน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธารจะสู้ต่อจนถึงวันตัดสินใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบมั่นใจว่า “แน่นอน”“ประเสริฐ” มั่นใจสัญญาณ “ข่าวดี”นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แกนนำ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลมั่นใจนายกฯสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมดได้ และจะมีข่าวดีในวันที่ 29 ส.ค. ส่วนกรณีที่ศาลยกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดี 112 ถือเป็นการทำให้ทุกข้อกล่าวหาที่ผ่านมาได้รับความกระจ่าง และกลายเป็นขวัญกำลังใจสำคัญแก่สมาชิกพรรค เพราะนายทักษิณคือผู้นำทางจิตวิญญาณของเพื่อไทย ที่เหลืออีก 2 คดี ได้แก่ คดีคลิปเสียงนายกฯ และคดีชั้น 14 หลายฝ่ายมองว่าอาจส่งผลกระทบหนัก พรรคยังมั่นใจจะได้รับข่าวดีเช่นกัน เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม ความมั่นใจมาจากการที่ น.ส.แพทองธารไปชี้แจงต่อศาลด้วยความบริสุทธิ์ใจ หากพิจารณาโดยตรงจะเห็นว่าไม่มีเจตนาทำให้ประเทศเสียหาย ตรงกันข้ามนายกฯได้ปกป้องผลประโยชน์ชาติมาต่อเนื่อง เป็นข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ส่วนถ้าผลไม่เป็นไปตามคาด พรรคเพื่อไทยยังไม่มีแผนสำรอง ส่วนความเป็นไปได้ในการยุบสภานั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ขณะนี้ไม่พบปัจจัยใดที่จะนำไปสู่การยุบสภาไม่ถึงคิวแคนดิเดตนายกฯพรรคอื่นผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวนายกฯอาจลาออกเพื่อยุติคดี นายประเสริฐยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง การเดินทางไปชี้แจงต่อศาลคือการพิสูจน์ตัวเองแล้วในอีกทางหนึ่ง เมื่อถามถึงความพร้อมของนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย หาก น.ส.แพทองธารต้องพ้นจากตำแหน่ง นายประเสริฐตอบว่า ขอให้ถึงจุดนั้นก่อน ขณะนี้มั่นใจว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนแคนดิเดตนายกฯจากพรรคการเมืองอื่นอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี แคนดิเดตนายกฯจากพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะขึ้นมาแทน และอาจทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนข้าง ไม่น่าเป็นไปได้ หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก็ยังต้องเลือกจากบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยยังมีตัวเลือกอยู่ ยืนยันว่าพรรคร่วมยังคงสนับสนุนแน่นแฟ้น“ไชยา” ยกข้ออ้างชิงสั่งปิดประชุมวันเดียวกัน นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่สั่งปิดประชุมสภาฯก่อนพิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลงร่วมไทย-กัมพูชา หรือ MOU 2543 และ 2544 ที่เสนอโดยนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทยว่า วันนั้นได้รับแจ้งจากวิปรัฐบาลว่า หลังการตอบกระทู้ถามแล้ว จะมีการรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวาระการประชุมมีอยู่ประมาณ 4-5 หน่วยงาน แต่มีหน่วยงานเดียวที่พร้อมคือ กองทุนสื่อสร้างสรรค์ ยืนยันว่าได้รับสัญญาณมาว่าหากไม่มีอะไรเปลี่ยน แปลงก็ถือว่าสิ้นสุดการประชุม รู้สึกเสียใจที่ถูกมองว่าเป็นคนชิงปิดการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ การตกลงกันระหว่างวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต้องคุยกันให้จบ แต่ไม่ได้รับทราบมาก่อนว่าฝ่ายค้านจะเสนอญัตติด้วยวาจาในเรื่องดังกล่าว เพิ่งรับทราบหลังปิดประชุม ไม่ทราบเลยว่าเขาไปคุยกันอย่างไร แต่ตอนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เห็นเดินคุยกันอยู่หลายรอบ ก็รอสัญญาณอยู่ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่ แต่ไม่มีการประสานงานมา จึงคิดว่าไม่มีวาระอะไรต่อไปแล้ว ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังขอโทษหากการสื่อสารผิดพลาดเมื่อถามว่า กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ยื่นหนังสือขอให้ สส.และ สว.เสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ นายไชยาตอบว่า การขอเปิดอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ขั้นตอนนี้ยังไม่เกิดขึ้น ต้องรอให้พรรคการเมืองลงชื่อ และให้รัฐบาลมาตอบ แต่เรื่องญัตติเอ็มโอยู2543 เอ็มโอยู 2544 ไม่ทราบจริงๆ หากเกิดความผิดพลาดในการสื่อสารจนทำให้สังคมไม่สบายใจ ต้องขอโทษด้วย อย่างไรก็ตาม การทำงานในสภาฯไม่สามารถราบรื่นได้ หากไม่ได้รับความร่วมมือ อยากให้ สส. ฝ่ายค้าน และ สส.ฝ่ายรัฐบาลใช้กลไกในสภาฯ ไม่มองเรื่องการเมืองมากเกินไป เวทีสภาฯควรเป็นการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง อะไรที่เป็นประโยชน์ของประชาชนและประเทศ ต้องถอยกันคนละก้าว เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีการชิงปิดประชุมเพราะรัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ นายไชยาตอบว่า การประชุมจะราบรื่นหรือไม่วิปรัฐบาลต้องคุยกัน ขอย้ำว่าไม่ได้เป็นเครื่องมือใคร แม้จะมาจากพรรคเพื่อไทย รัฐบาลต้องเข้มงวดเรื่องเสียงให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาแบบนี้ออกหมายเรียก “หญิงปริศนา” ซื้อ สส.ด้านนายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงความคืบหน้าการนำหลักฐานและคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์กับหญิงปริศนา ที่ติดต่อขอซื้อเสียงโหวตกฎหมาย 10 ล้านบาท เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เพื่อสืบสวนเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาตรา 176 ว่า ส่งหลักฐานต่างๆให้ตำรวจไปตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. และในวันเดียวกันนั้น ตำรวจได้ออกหมายเรียกส่งไปถึงบ้านหญิงปริศนาให้เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 26 ส.ค. รอดูว่าเขาจะมาตามหมายเรียกหรือไม่ แต่เบื้องต้นทราบว่ามีบิดาของเขาเป็นผู้รับหมายเรียก ระหว่างนั้น ผกก.สภ.น้ำพอง ได้เรียกพยานที่เป็นเพื่อนตนเข้าให้การเพิ่มเติม ข้อมูลที่ให้เจ้าหน้าที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพิสูจน์แล้วคลิปเสียงไม่มีตัดต่อนายชัชวาลกล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค. โทรศัพท์ไปสอบถามผลตรวจสอบหลักฐาน ตำรวจแจ้งว่าได้เร่งให้กองพิสูจน์หลักฐานดำเนินการ พบว่าในคลิปเสียงสนทนาของตนกับหญิงปริศนา ไม่พบว่ามีการตัดต่อคลิป และวันที่ 24 ส.ค. เวลา 10.00 น. จะเข้าให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง เตรียมข้อมูลเอาไว้แล้ว ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสุภาพสตรีปริศนาเป็นคนขอนแก่น หรือคน กทม. รอให้ตำรวจเป็นผู้เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกดีกว่า วันนี้ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ใจแล้วว่าคลิปไม่มีการตัดต่อแต่อย่างใดผลรังวัดใหม่เขากระโดง 4,414 ไร่สำหรับความคืบหน้ากรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 19-21 ส.ค.ว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้พบเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนเดินทางต่อไปยังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนกรณีเรื่องแผนที่ที่ รฟท.ทำร่วมกับสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ตามคำสั่งศาลปกครอง แสดงพื้นที่เดิม 5,083 ไร่ แต่การวัดในระบบใหม่เมื่อเดือน ก.ค.2567 พบพื้นที่จริง 4,414 ไร่ ตามรายงานเป็นการวัดแผนที่โดยคำสั่งศาลปกครองกลางที่ รฟท. ร้องขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดินในพื้นที่การรถไฟฯ เพื่อตำแหน่งที่ชัดเจนด้วยการวัดที่ โดยมีเจ้าหน้าที่การรถไฟฯร่วมรังวัด อีกทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ได้รังวัดตามอำนาจหน้าที่ ผลการรังวัดจึงได้เป็นเนื้อที่ 4,414 ไร่ดังกล่าวสนามบอลทับที่สาธารณะสำหรับประเด็นระวางของแผนที่ที่พบมีสิ่งปลูกสร้างทับที่สาธารณะ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการขออนุมัติหรือไม่นั้น มีรายงานจากดีเอสไอว่า ข้อมูลจากแหล่งข่าวในพื้นที่แจ้งว่าสิ่งปลูกสร้างทับที่สาธารณะ ประกอบด้วยสนามฟุตบอลในพื้นที่ของการรถไฟฯ เนื่องจากตามระวางโฉนดที่ดินบริเวณเขากระโดง จะมีทางสาธารณะพาดผ่านสนามฟุตบอลและบางส่วนของสนามฟุตบอลไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ประเด็นดังกล่าวยังคงอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้ชัดเจนกรณีสารบบที่ดินพบการทำนิติกรรมอำพรางในโฉนดหลายแปลงแฉพฤติกรรมแก๊งฮุบที่ดินหลวงตามรายงานข่าวยังแจ้งว่า มีนักการเมืองที่เป็นเจ้าของที่ดินในที่ดินเขากระโดง มีพฤติกรรมการโอนที่ดินแบบให้กันกลับไปกลับมา ช่วงปี 2565 และก่อนเลือกตั้งในปี 2566 ข้อมูลจากสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าในห้วงปี 2513-2539 เจ้าหน้าที่การรถไฟฯได้ไปรับรองการออกโฉนดของชาวบ้านในพื้นที่ รับรองแนวเขตว่าไม่ได้เป็นของการรถไฟฯ 513 ไร่ แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าอยู่ในที่ดินของการรถไฟฯ ทั้งนี้ หากมีการครอบครองที่ดินเกินกว่า 50 ไร่ และพิสูจน์ได้ว่าเป็นการออกโฉนดโดยมิชอบ กรณีบุกรุก ยึดถือ ครอบครองที่ดินของการรถไฟฯ โดยการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่การรถไฟฯ 4,414 ไร่ จะเข้าข่ายรับเป็นคดีพิเศษตามลักษณะคดีบัญชีแนบท้ายประกาศ กคพ. (ฉบับที่ 8) เรื่อง กำหนดรายละเอียดลักษณะของการกระทำความผิด ที่เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (1) แห่ง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ และความผิดที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินในเรื่องความผิดมูลฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้ง “อภิชาติ” ปธ.ขับเคลื่อนนโยบายมท.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า หลังมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ตลอดจนกลไกกระทรวงมหาดไทยทุกระดับ ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเร่งด่วน 8 Quick Wins ภายใต้แนวคิด “3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข” เพื่อให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายกระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่ให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในระยะเร่งด่วน 3 เดือน มีนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อดีต สว.และอดีตอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน เป็นประธานกรรมการ มีรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงประธานคณะทำงานและที่ปรึกษาแต่ละด้าน ร่วมเป็นกรรมการ วิเคราะห์และปรับปรุงข้อมูล รวมถึงติดตามรายงานผลอย่างต่อเนื่องทุก 15 วัน หรือทันทีเมื่อมีสถานการณ์เร่งด่วน โดยตน และ 2 รมช.มหาดไทย มุ่งมั่นขับเคลื่อนงานกระทรวงมหาดไทยในเชิงรุก มีการมอนิเตอร์ติดตามใกล้ชิดกกต.ยื่นค้านประกันตัว “พีระวิทย์”อีกเรื่อง นายเกรียงไกร พานดอกไม้ รองเลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าพบ พ.ต.อ.วีระวุฒิ ดำสุวรรณ ผกก.สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวนายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค อดีตหัวหน้าพรรคไทรักธรรม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสระบุรี ที่ จ.117/2566 ลงวันที่ 16 มิ.ย.2566 และเป็นผู้ต้องหากระทำความผิดอาญาฐานเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง มีการนำหรือยินยอมให้บุคคลอื่นนำเงินหรือทรัพย์สินของพรรค การเมืองไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว หรือใช้เพื่อการอื่นใด อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค การเมืองมาตรา 132 ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5—10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000—200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ พ 962/2567 คดีหมายเลขแดงที่ 2607/2568 ของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ลงวันที่ 11 มิ.ย.2568 และคดีหมายเลขดำที่ พ 827/2567 คดีหมายเลขแดงที่ พ 499/2568 ของศาลจังหวัดสระบุรี ลงวันที่ 25 มิ.ย.2568 เห็นว่าคดีมีอัตราโทษสูง หากปล่อยตัวชั่วคราวอาจทำให้ผู้ต้องหาหลบหนี ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น อีกทั้งยังปรากฏพฤติการณ์การหลบหนีการจับกุมตามหมายจับ จึงยื่นคัดค้านการให้ประกันตัวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่