ทีใครทีมัน...ก็เป็นอย่างนี้แหละนักการเมืองไทย ไม่ใช่ว่าใครดีกว่าใคร แต่ผลประโยชน์และคะแนนเสียงคือจุดสำคัญมากกว่าชาติบ้านเมือง ก็มีคำถามว่าการที่ “ภูมิใจไทย” ถอนตัวออกจากรัฐบาลเพราะเหตุใด ตอบแบบสั้นๆง่ายๆก็คือหวังความได้เปรียบทางการเมืองโดยใช้เงื่อนไขที่ “เพื่อไทย” ยึดกระทรวงมหาดไทยคืนไปนั่นแหละคือคำตอบก็ถามกันต่ออีกว่าแล้วปัญหาที่เป็นชนักติดหลังอยู่นั้นไม่กลัวหรือ ไม่ว่าเป็นเรื่องเขากระโดงหรือฮั้ว สว.กลัวอยู่แต่ประเมินแล้ว 2 เรื่องนี้คงยังไม่จบง่ายๆ เพราะมันเป็นข้อกฎหมายที่จะต้องสู้กันอีกหลายยกแม้จะโดนกระทืบรุมถล่มอย่างไร แต่ก็ไม่มีทางทำอะไรได้ยิ่งรัฐบาล “เพื่อไทย” อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักคะแนนนิยมก็ตกลงเรื่อยๆ สนามเลือกตั้งครั้งหน้า“ภูมิใจไทย” มีสิทธิชนะเลือกตั้งได้จากนั้นก็จะได้เป็นรัฐบาลมีโอกาสที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีมีอำนาจเต็มๆ จากนั้นก็จะคิดบัญชีย้อนหลังใครทำอะไรไว้ก็จำเอาไว้ให้ดีอีกทั้งยังมีเรื่องสนามกอล์ฟ “อัลไพน์” ที่ดินวัดที่ยังทำค้างอยู่ก็นำมาเป็นประเด็นกระทืบ “เพื่อไทย” ให้หน้าหงายได้เพราะมีข้อมูลอยู่ในมือหมดแล้ว!นี่ก็เล่นกันได้ทั้งโคตรเหมือนกัน เพราะคนในตระกูล “ชินวัตร” มีชื่อเป็นหุ้นส่วนเกือบครบทุกคน แม้จะต้องว่าไปตามกฎหมายแต่ข้อมูลเรื่องนี้ชัดกว่า...คือที่ดินวัดที่ห้ามซื้อขายก็เป็นอย่างนี้แหละที่นักการเมืองฟาดฟันกันนั้นก็เพื่อรักษาผลประโยชน์ของพวกเขาทั้งนั้นหาใช่ว่าเพื่อชาติเพื่อประชาชนแต่อย่างใดนับแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศมี 2 พรรคเท่านั้นที่กุมบทบาทเอาไว้ทั้งหมดด้วยการเล่นบท “ตบจูบ” แหกตากันไปวันๆไม่ได้มีผลงานอะไรให้ประจักษ์ทั้งสิ้น!ด้านหนึ่งก็รักษาผลประโยชน์ของตัวเองทั้งที่เป็นเรื่องของตระกูล และอีกด้านหนึ่งก็พยายามสร้างฐานอำนาจเพื่อหวังจะควบคุมแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดว่ากันว่าแต่ละพรรคต่างก็มีตัวทีเด็ด“เพื่อไทย” ก็มี “ทักษิณ ชินวัตร”“ภูมิใจไทย” ก็มี “เนวิน ชิดชอบ”นักการเมือง 2 คนนี้ถือว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าแบบหาตัวจับได้ยาก นักการเมืองรุ่นก่อนๆที่ว่าแน่ๆน่ากลัวนั้นเอาเข้าจริงแล้วชิดซ้ายไปเลยไม่มีใครสู้ 2 คนได้!พูดง่ายๆว่าเหนือกว่านักการเมืองปกติธรรมดากล้าทำอะไรที่มันแปลกแหวกแนวแบบไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นคือครบเครื่องกว่าในทุกรูปแบบเรียกว่าถ้าประเทศไหนมีนักการเมืองแบบ 2 คนนี้รอวันฉิบหายได้!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม