จะเสี่ยงสู้หรือหมอบ...ก็ต้องตั้งปุจฉาเอาไว้ก่อน เพราะคงอีกไม่กี่วันน่าจะรู้แล้วศาลรัฐธรรมนูญจะแจ้งวันนัดหมายเพื่อวินิจฉัยคดี “คลิปฉาว” บทสนทนาระหว่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีไทย กับ “ฮุน เซน” แห่งกัมพูชา อันเนื่องมาจากปัญหาความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศครับ...เป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีไทยหลุดจากเก้าอี้ได้ในระหว่างรอคอยนี้ก็มีข่าวลือต่างๆนานาว่า “แพทองธาร” จะสู้เต็มที่ไม่มีลาออก หรือจะยอมถอยคือลาออกก่อนที่จะถึงวันตัดสินหรือข่าวที่ว่าหลังงบประมาณผ่านสภาวาระ 3 จะลาออกเองก็คาดเดากันไปต่างๆนานา!ลูกพรรค “เพื่อไทย” ระดับแกนนำต่างก็ออกมายืนยันว่าไม่มีลาออกแต่จะสู้ให้ถึงที่สุดถ้าไม่หลุดก็ทำหน้าที่ต่อไปยาวๆแต่ถ้าหลุดเก้าอี้ก็กลับไปเลี้ยงลูกที่บ้าน13-15 ส.ค.2568 สภาได้นัดหมายให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณปี 2569 วาระ 2-3 หลังจาก กมธ.ได้พิจารณาเสร็จเรียบร้อยในท่ามกลางเสียงสนับสนุนรัฐบาลปริ่มน้ำและมีอาการไม่ค่อยดีจะล่มมิล่มแหล่มาตลอด แม้จะมั่นใจว่ายังไงก็ผ่าน เพราะเป็นงบประมาณที่มีความสำคัญไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายต่างก็ให้การสนับสนุนแต่เนื่องจากเป็นงบการเงิน หากไม่ผ่านจะทำให้รัฐบาลเกิดปัญหาได้จึงประมาทไม่ได้จึงอยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องนัดหมายกันให้ดีต้องเช็กชื่อให้ครบเพื่อให้กฎหมายผ่านไปให้ได้ก็ต้องติดตามดูกันไปแน่นอนว่าวันนี้ปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาแม้จะคลี่คลายไประดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่จบเพราะล่าสุดทหารไทยยังเจอกับระเบิดอีกเป็นเรื่องที่ฝ่ายทหารจะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้ เพราะมิฉะนั้นจะต้องเสียกำลังพลไปอย่างไม่น่าเสียและน่าเจ็บใจยิ่งว่าไปแล้วปัญหาไทย–กัมพูชาคงไม่จบได้ง่ายๆ!ก็ต้องหาหนทางที่จะทำให้ทุกอย่างเป็นปกติแต่การเมืองไทยนั้นจะเริ่มร้อนแรงมากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะวันที่ 22 ส.ค.2568 ก็จะมีการพิจารณาคดี ม.112“ทักษิณ ชินวัตร” เป็นจำเลยจากนั้นวันที่ 9 ก.ย.2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองก็จะตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่าด้วยการป่วยทิพย์ของ “ทักษิณ”มีความเป็นไปได้ว่าคดี “แพทองธาร” น่าจะมีการนัดหมายชี้ขาดระหว่างกลางคือไม่ปลายเดือน ส.ค. ก็ต้นเดือน ก.ย.ทุกคดีมีผลต่อการเมืองไทยอย่างไม่มีทางเลี่ยงเพราะ...ไม่ว่า “ทักษิณ” หรือ “แพทองธาร” ล้วนเป็นแม่เหล็กทางการเมืองที่มีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออกแต่ที่จะมีผลการเมืองโดยตรงก็คือคดีของนายกรัฐมนตรีเพราะหากหลุดจากตำแหน่งก็ต้องหานายกรัฐมนตรีคนใหม่รัฐบาลชุดนี้ก็ล้มไปนั่นจะทำให้เกิดการแย่งชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศที่ต้องสู้กันเต็มพิกัดเพราะมันมีผลต่อการเลือกตั้งใหญ่และอนาคตการเมืองของประเทศด้วย!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม