“ภูมิธรรม” ลั่นจบนะ ปัดข่าว “นายกฯอิ๊งค์” จ่อไขก๊อกหลังสภาฯผ่านงบฯปี 69 วาระ 2-3 ยันนายกฯสู้คดีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน เซน” ตามกระบวนการ พท.ไม่ต้องมีแผนสำรองรับมือ สั่งคุมเข้มองค์ประชุมสภาฯถกงบฯ 3 วัน “วิสุทธิ์” ขอพรรคร่วมฯขันนอต สส.ให้ความสำคัญสูงสุด ดักคอฝ่ายค้านอย่าเล่นเกมป่วน “ไหม” เตือนรัฐบาลไปรวมเสียงมาให้ครบ อย่ามาหวังน้ำบ่อหน้า จวกงบฯไขมันพอกทุกกระทรวงต้องหั่นเพิ่ม ไร้ความพร้อมสู้เศรษฐกิจโลก “ศุภชัย” หยันโชยกลิ่นนายกฯชิงไขก๊อกหนีปมร้อน ข้องใจดีเอสไอดองคดี รมต. แต่เร่งรีบทำคดีฮั้ว สว. “สว.อิสระ” ล่าชื่อใหม่ลุยไฟยื่นสอย สว.สีน้ำเงิน กระแสข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก รัฐมนตรี เตรียมลาออกจากตำแหน่ง หลังผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2-3 มีออกมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาปฏิเสธยืนยันว่าไม่มี และ น.ส.แพทองธารไม่เคยพูดเช่นนั้น“อ้วน” โต้ “อิ๊งค์” ไม่เคยพูดลาออกหลังงบฯเมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม จะลาออกหลังผ่านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระ 2-3 โดยย้อนถามว่า “ข่าวมาจากไหน มันไม่มีกระแสข่าวหรอก เพราะไม่มีคนพูด และ น.ส.แพทองธารไม่เคยพูด ท่านพิสูจน์ตัวเอง อย่าไปเอาอะไรที่คนพูดนิดๆหน่อยๆมาเป็นกระแสในสังคม เพราะจะเป็นปัญหา ยืนยันว่าไม่มีและนายกฯ ไม่ได้พูด จบนะ”ยันเพื่อไทยไม่ต้องมีแผนสำรองเมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) ต้องเตรียมแผนรองรับไว้หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่มี เพราะนายกฯเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ พรรค พท.ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร นายกฯพูดชัดเจนแล้วว่าเข้าสู่กระบวนการ ดังนั้น อย่าไปทำให้มี ประเด็นอะไร จริงๆไม่มีอะไรเลย พวกเราไม่เคยได้ยินอะไรเลย เมื่อถามว่าแผนสำรองยังเป็นนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยืนยันว่าพรรค พท. ไม่มีแผนสำรอง ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการรอเพิกถอนจบคุยเยียวยาที่เขากระโดงนายภูมิธรรมกล่าวถึงแนวทางการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ว่า จะต้องรอเรื่องราวให้จบก่อน ค่อยไปพูดเรื่องการเยียวยาในวันข้างหน้าต่อ เมื่อถามว่า ต้องรออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่มาเซ็นหรือไม่ นายภูมิธรรมไม่ตอบคำถามสั่งคุมเข้มองค์ประชุมงบฯ 3 วันนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมพรรคร่วมรัฐบาลในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค.ว่า วันที่ 13 ส.ค. เวลา 08.30 น. จะประชุม สส.เพื่อไทยที่รัฐสภาและเวลา 09.00 น. ประชุมวิปรัฐบาล เพื่อทำความเข้าใจพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้ความสำคัญการประชุมงบฯรายจ่ายปี 2569 มากที่สุด สส.น่าจะรู้หน้าที่อยู่แล้ว เชื่อมั่นว่าองค์ประชุมครบ ได้แจ้งรัฐมนตรีที่เป็น สส.แล้วว่าต้องอยู่สภาทั้ง 3 วัน การประชุมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.ถึงเวลา 23.30 น. จะพักประชุมและวันรุ่งขึ้นจะเริ่มเวลา 09.00 น.เช่นเดิม วันแรกเราตั้งเป้าจะทำให้ได้ 15 มาตรา วันถัดไปจะได้ลงตัว จากการพูดคุยกับฝ่ายค้านได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกฝ่ายต้องไปควบคุมคนของตัวเองให้อภิปรายอยู่ในแนวทาง และ กมธ.อย่าชี้แจงเกินเลย เอาพอสมควร หากเป็นเช่นนี้จะควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบเวลา 3 วัน ตามที่ตั้งใจไว้ดักคอฝ่ายค้านอย่าเล่นเกมป่วนเมื่อถามว่า กังวลฝ่ายค้านจะเล่นเกมนับองค์ประชุมหรือไม่ นายวิสุทธิ์ตอบว่า ครั้งนี้เป็นงบประมาณแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาเล่นอะไรกัน ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ รัฐบาลเตรียมพร้อมระดมคนให้อยู่ในที่ประชุมสภาฯ ส่วนเสียงปริ่มน้ำของรัฐบาลในฐานะวิปอยากได้เสียงรัฐบาลเยอะๆ แม้เสียงปริ่มน้ำต้องเดินหน้า ทำให้การประชุมผ่านไปให้ได้ วิปต้องทำงานเต็มที่ ต้องขอความร่วมมือ สส.ทุกคน มั่นใจว่างบฯจะผ่าน 100% เมื่อถามว่า หลังจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถอนตัวออกจากการเป็นรัฐบาล อาจไม่โหวตเห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.งบฯ นายวิสุทธิ์ตอบว่า พรรค ภท.ไม่โหวตให้อยู่แล้ว แต่ไม่เป็นอะไร พรรครัฐบาลต้องโหวตให้กัน ฝ่ายค้านไม่จำเป็นต้องโหวตให้เรา เป็นเรื่องของเขา ยอมรับกันได้ รู้กติกาหน้าที่ตัวเองอยู่เชื่อทุกฝ่ายพร้อมหนุนงบฯกองทัพนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวถึงความพร้อมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบฯปี 69 วาระ 2-3 วันที่ 13-15 ส.ค.ว่า วาระนี้ไม่ใช่เป็นวาระพรรคการเมือง แต่เป็นวาระประเทศ เชื่อว่าการอภิปรายของผู้แปรญัตติหรือ สส.ทั่วไปจะยึดประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องของรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนต้องช่วยกัน กรณีงบฯกองทัพที่แต่ละปีจะถูกตั้งคำถาม แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นภาคประชาสังคมหรือรัฐบาลส่งสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลและประชาชนพร้อมสนับสนุนกองทัพเต็มที่ ในยามประเทศต้องเดินหน้า เชื่อว่าการบริหารจัดการงบฯจะตั้งอยู่บนพื้นฐานการสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาลไปแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศด้านต่างๆต่อไป มั่นใจว่าวันที่ 13-15 ส.ค. จะไม่เกิดเหตุ เช่น เสนอนับองค์ประชุม หรือให้งบฯไม่ผ่าน ฝ่ายค้านจะโหวตอย่างไรคงไม่ไปก้าวล่วง แต่ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ เช่น งดออกเสียงหรือโหวตคว่ำเจตนาคืออะไร สถานการณ์ตอนนี้ประชาชนจับตาดูการทำงานของ สส. โหวตแล้วต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้แก้ต่างโพลรัฐบาล—ทหารเนื้อเดียวกันนายอนุสรณ์กล่าวว่า ส่วนกรณีนิด้าโพลเผยผลสำรวจคนไทยไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลนั้น ว่า รัฐบาลยินดีรับฟัง แต่การทำงานของรัฐบาลไม่ได้แยกส่วนระหว่างกระทรวงต่างประเทศ หรือทหาร รัฐบาลทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานทั้งกระทรวงกลาโหม ทหาร กระทรวงการต่างประเทศ ภาคส่วนที่ไปดำเนินการต่างๆมาจากนโยบายรัฐบาล จากนี้ไปจะเห็นแนวทางการดำเนินงานด้านความมั่นคงการต่างประเทศ รัฐบาลต้องสื่อสารทำความเข้าใจให้มากขึ้นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำไมประชาชนมองแยกส่วน จริงๆรัฐบาลกับกองทัพเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เมื่อถามว่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับมาอย่างไร นายอนุสรณ์ตอบว่า รัฐบาลทำงานหนักทุกวัน ช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์ชายแดนกับวันนี้ รัฐบาลเร่งยกระดับการทำงานหลายด้าน เรื่องที่รัฐบาลทำได้ดีคือฟื้นฟูเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนการสื่อสารรัฐบาลเร่งยกระดับ เชื่อว่าต้องทำให้ดียิ่งขึ้นต่อไปให้ประชาชนทราบแนวทางการดำเนินการของรัฐบาลโอ่จัดงบฯรับ ศก.โลกผันผวนนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ อดีต สส.ชลบุรี พรรค พท. รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 กล่าวว่า การพิจารณางบฯ 3.78 ล้านล้านบาท รัฐบาลมุ่งเน้นใช้งบฯให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน ฟื้นฟูเศรษฐกิจปากท้องและเศรษฐกิจมหภาค แต่เศรษฐกิจโลกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย ดังนั้นการจัดทำงบฯปี 69 จึงจัดงบประมาณเพื่อรับการผันผวนเศรษฐกิจโลก ทำให้ กมธ.ปรับลดงบฯรวม 8,900 ล้านบาท ขณะเดียวกันให้กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญการเจรจาการค้าระหว่างประเทศมากที่สุด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และเปิดตลาดสินค้าเกษตรไทยในต่างประเทศในกลุ่มประเทศที่ศักยภาพ เพิ่มรายได้ให้สินค้าไทยหวดกลุ่มอคติทำลายโอกาส ปท.นายสรวุฒิกล่าวว่า ส่วนด้านท่องเที่ยวประเทศ ไทยไม่มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ น่าเสียดายโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เป็นโอกาสครั้งใหญ่ยกระดับท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงเม็ดเงินลงทุนหลายแสนล้านและนัก ท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน ถูกต่อต้านจากพรรคการเมืองและกลุ่มอคติการเมือง สร้างวาทกรรมมาบิดเบือน จนโครงการต้องชะลอไปทำลายโอกาสสร้างอาชีพ สร้างรายได้ประชาชน ขณะที่เพื่อนบ้านทั้งสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ กำลังสร้างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ดึงนักท่องเที่ยวต่อเนื่องรทสช.มั่นใจสภาผ่านงบฯ 69 ราบรื่นนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ในวาระที่ 2 และ 3 วันที่ 13-15 ส.ค.ว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรคได้เน้นย้ำ สส.พรรค รทสช.ให้เข้าร่วมพิจารณาโดยพร้อมเพรียงกัน เนื่องจาก เป็นกฎหมายสำคัญต่อการใช้จ่ายงบฯภาครัฐแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้พี่น้องประชาชนในภาวะที่เศรษฐกิจ ชะลอตัว สำหรับข้อกังวลพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า การแปรญัตติงบฯไม่ตอบสนองต่อการแก้ปัญหาที่เกิดจากภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯนั้น พรรค รทสช.มีความเห็นสอดคล้องกับรัฐบาลว่า ผลกระทบที่เคยคาดว่าจะรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของไทยนั้นมีโอกาสที่จะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯกำหนดของไทยนั้นหากเทียบในภูมิภาคอาเซียนแล้วอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน คือ 19-20% และรัฐบาลยังมีชุดข้อมูลที่ใช้ในการประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้านและครบถ้วน ซึ่งการแปรญัตติในวงเงินงบประมาณ 8.92 พันล้านบาทนี้ รัฐบาลได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้วที่จะได้จัดสรรเพื่อแก้ไขปัญหาจำเป็นเร่งด่วนของชาติและประชาชน พรรค รทสช.มั่นใจจะสามารถผ่านการพิจารณาได้อย่างราบรื่นปชน.ฉะไขมันพอกห่วงไร้งบพยุง ศก.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียม ความพร้อมของพรรคประชาชนในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2-3 วันที่ 13-15 ส.ค.ว่า พรรคประชาชนทำงานเต็มที่ทั้งในชั้นกรรมาธิการและอนุ กมธ.ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆเรียบร้อยแล้ว มีทั้งที่สามารถตัดได้และไม่ได้ในชั้นอนุ กมธ. เมื่อเสนอในห้อง กมธ.ชุดใหญ่ยังไม่สามารถตัดได้ จึงรวบรวมเป็นโครงการต่างๆที่เป็นไขมันต้องตัดเพิ่มเติมในงบฯปี 2569 การอภิปรายจะไม่พุ่งเป้าไปที่กระทรวงใด แต่ต้องการให้เห็นว่ายังมีงบที่เป็นไขมันแทรกอยู่ในทุกกระทรวง งบฯปี 2569 ที่กำลังเผชิญสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวต้องการงบฯฟื้นฟูหรือพยุงเศรษฐกิจ แต่กลับไม่เตรียมงบฯไว้อย่างเพียงพอ ดังนั้นหากปรับลดไขมันได้ จะมีงบฯไปเพิ่มเพื่อพยุงหรือฟื้นฟูเศรษฐกิจซัดไม่มีความพร้อมสู้ภาวะ ศก.โลก น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ปีนี้ กมธ.ตัดลดงบได้ 8,900 ล้านบาทเท่านั้น และงบฯที่มาขอแปรญัตติไม่ได้เป็นแบบที่คาด ตอนแรกคิดว่างบแปรญัตติจะเป็นงบฯที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก เกษตรกร แต่กลายเป็นงบปกติที่ตั้งงบฯไว้ไม่เพียงพอ เช่น งบฯจ่ายค่าสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ปีหน้าต้องใช้งบฯ 2 หมื่นล้านบาท แต่สำนักงบประมาณตั้งงบฯไว้แค่ 6 พันล้านบาท ต้องจัดสรรงบฯแปรญัตติไปเพิ่ม 5 พันล้านบาท แต่ยังไม่เพียงพอชำระหนี้อยู่ดี หรือแม้กระทั่งงบประชุมสภาฯ ผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (IMF) ยังขอเพิ่ม เพราะไม่ได้ตั้งงบฯไว้ กลายเป็นว่าไม่ได้เตรียมความพร้อมงบฯปี 2569 ในการพยุงเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวขู่อย่าหวังน้ำบ่อหน้าจากฝ่ายค้านเมื่อถามว่ามองว่าเสียงของรัฐบาลที่ปริ่มน้ำจะเป็นอุปสรรคทำให้การโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯในครั้งนี้ไม่ผ่านหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญาตอบว่า เป็นเรื่องน่ากังวลใจอยู่ ตอนแรกเราคิดว่ารัฐบาลจะรวบรวมเสียงได้หนักแน่นกว่านี้ แต่หลายครั้งในการประชุมสภาฯที่ผ่านมากลายเป็นเสียงรัฐบาลง่อนแง่นมาก ทำให้สภาล่มหลายครั้ง ดังนั้นการประชุมงบฯองค์ประชุมต้องพร้อมตลอด เพราะต้องโหวตเป็นรายมาตราด้วย ต้องลุ้นมากว่ารัฐบาลจะรวบรวมเสียงข้างมากได้หรือไม่ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร สุดแต่จะคาดเดา โหวตกฎหมายทั่วไปองค์ประชุมล่มยังไม่เป็นไร แต่โหวตงบฯแล้วองค์ประชุมล่มอาจเกิดปัญหา งบฯเสร็จไม่ทันได้ ขอความร่วมมือรัฐบาลรวบรวมเสียงมาให้ได้ครบถ้วน อย่าหวังน้ำบ่อหน้าจากเสียงฝ่ายค้าน นี่คือกฎหมาย ครม. ฝ่ายค้านไม่สามารถโหวตรับให้ได้จริงๆ วาระ 1 เราไม่สามารถโหวตรับได้ เมื่อมาวาระ 2 ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงในแบบที่ต้องการ จะให้โหวตรับคงลำบากใจ ขอให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมมาให้พร้อมภท.ได้กลิ่นนายกฯชิงไขก๊อกหนีนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค ภท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม จากการสนทนาทางโทรศัพท์กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยออกซ้ายหรือขวา แต่จากการวิเคราะห์ตามข้อเท็จจริง คำสนทนาดังกล่าวของนายกฯถือว่าจบแล้ว ไม่รู้ว่านายกฯไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไร คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ได้กระทำไปในทางการเมืองในตำแหน่งนายกฯได้ เมื่อถามว่าพรรค ภท.ได้หารือเรื่องนี้อย่างไร เพราะมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. เป็นแคนดิเดตนายกฯอยู่ นายศุภชัยตอบว่า ยังไม่ถึงเวลา แต่มีกระแสข่าวนายกฯจะลาออก ต้องเลือกนายกฯใหม่ หรือหากยุบสภาฯต้องดูว่านายกฯรักษาการได้หรือไม่ตามกฎหมาย แม้ในพรรค ภท.มีนายอนุทิน ถึงเวลาว่า สส.ในสภาฯจะเลือกใครคาใจดีเอสไอคดี รมต.อืด-ฮั้ว สว.ไวนายศุภชัยกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีคดีบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ มีผู้ต้องหาหลายราย รวมถึงอดีตรัฐมนตรี ผู้เป็นนายก อบจ.นครราชสีมา ผู้เป็นภรรยาและ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.อว. เรื่องนี้ไปถึงไหน เพราะรับคดีมาตั้งแต่ปี 62 และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อ้อมแอ้ม แถลงแบบคลุมเครืออยู่ระหว่างดำเนินการ รับคดีมา 6 ปีทำไมล่าช้า ทำไมคดีฮั้วเลือก สว.ดีเอสไอทำรวดเร็ว ส่วนกรณี น.ส.สุดาวรรณ เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต้องถามนายกฯว่าได้ตรวจสอบคุณสมบัติ น.ส.สุดาวรรณแล้ว พบว่าตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ แต่ยังคงนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯใช่หรือไม่ เพราะเห็นว่าเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ยังไม่ถือว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตจนเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงสว.อิสระล่าชื่อใหม่ 13-14 ส.ค.น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว.กลุ่มอิสระกล่าวถึงความคืบหน้าการรวบรวมรายชื่อ สว.1 ใน 10 หรือไม่น้อยกว่า 20 รายชื่อ ทดแทนรายชื่อที่อ้างถูกปลอมลายเซ็น เพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยถอดถอน 136 สว.ที่ถูกกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว.ว่า จะประชุมเรื่องนี้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ประมาณวันที่ 13-14 ส.ค. ความจริงสว.กลุ่มอิสระมี 60 คน สว.พันธุ์ใหม่มีอีกหลายคนยังไม่ได้มาร่วม 6-7 คน ใครจะถอนถอนไป แต่ครั้งต่อไปเวลาลงชื่อจะลงต่อหน้าประชาชน ให้เห็นว่ามาลงชื่อจริง จะดำเนินการในสัปดาห์นี้โอดผวาไม่กล้าไปสภาหวั่นถูกทำร้าย“ส่วนคนที่ยังไม่ถอนชื่อยังอยู่กันครบ ทุกคนถือเป็นผู้กล้า วันนี้ไม่มีทางเลือก ต้องเดินหน้าลุยไฟ ถ้าคิดว่าทำถูกต้อง ประชาชนจะเป็นพยานว่าทำถูกต้อง ถ้าทำไม่ถูกคงถูกคนด่าเละเทะทั้งบ้านเมืองแล้ว เรามีเจตนาบริสุทธิ์อยากให้ทุกอย่างถูกต้อง ไม่มีเจตนาซ่อนเร้น ถ้าปล่อยผ่านไปประชาธิปไตยจะถูกบ่อนทำลาย เกิดความไม่เชื่อมั่นของประชาชนต่อ สว. ทุกคนต้องช่วยกันให้กำลังใจพวกเราตอนนี้กำลังขวัญหนีดีฝ่อ จะไปสภาฯยังไม่กล้า เพราะกลัวโดนทำร้าย” น.ต.วุฒิพงศ์กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่