เจออากาศร้อนผิดปกติในฤดูฝน คนเมืองกรุงหน้ามืดลมจับตามๆกัน นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงสภาพของเหล่าทหารหาญที่ปักหลักประจำการอยู่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านอีสาน ในพื้นที่ควบคุมของกองทัพภาคที่ 2 ต้องเจอทั้งอุณหภูมิอบอ้าว นั่นไม่ร้ายเท่ากับกลิ่นเน่าซากศพทหารกัมพูชาเหม็นชวนอาเจียนข้ามพรมแดน กินข้าวไม่ลง กลางวันแมลงวันบินตอมหึ่งเสี่ยงนำโรคระบาด ตกกลางค่ำกลางคืนก็หลอนกับเสียงหมาหอนนอนไม่หลับกองทัพไทยต้องรบกับทหารกัมพูชาไม่เว้นแม้ตอนเป็นซากศพแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่คืนสู่ภาวะปกติ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความตาย ที่ร้ายกาจและน่ากลัวกว่าผีทหารกัมพูชาก็คือปิศาจ “ฮุน เซน” ที่ “ตาแข็ง” เฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์บัญชาการรบตลอด 24 ชั่วโมง ไม่หลับไม่นอนอาการคล้ายคน “หลอนยา” อารมณ์เพี้ยนๆไม่เหมือนคนปกติธรรมดาและมันก็คือความอันตราย บ่งบอกความน่ากลัวของอดีต “ผู้นำกองโจรเขมรแดง” ที่ครบเครื่อง เต็มสูตร ทั้งบ้า โหด เลว เจ้าเล่ห์ หน้าด้าน ผสมผสานอยู่ในคนคนเดียวอะไรที่ผิดไปจากวิถีมนุษย์ปกติ “ฮุน เซน” เห็นเป็นเรื่องธรรมดานั่นจึงเป็นอะไรที่ถอนหายใจได้ แต่อย่าเผลอโล่งอกซะทีเดียว กับมติที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือจีบีซี ที่ประเทศมาเลเซียรับเป็นเจ้าภาพ โดยมีตัวแทนจากสหรัฐอเมริกาและจีนร่วมสังเกตการณ์เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างทั้งสองฝ่ายหลักๆเลยก็คือ ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหารในทุกพื้นที่และทุกกรณีรักษาสถานการณ์วางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย ไม่เติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชาไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิงตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และไม่สร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตนว่ากันแค่เบื้องต้น วัดใจกันตรงเหตุเฉพาะหน้าอารมณ์แบบที่ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วย รักษาการ รมว.กลาโหม หัวขบวนฝ่ายไทยที่ไปนั่งเจรจาในเวทีจีบีซี ยังไม่กล้าโชว์ดีลสันติภาพ ประเมินฝ่ายกัมพูชาจริงใจแค่ “ระดับ 1” ในชั้นกองเลขาแต่ในระดับ 3 ยังไม่ไว้วางใจผู้นำกัมพูชาจะปฏิบัติตามข้อตกลงหรือไม่นั่นก็เพราะสถานการณ์ “หน้างาน” มันยังมีสัญญาณแปร่งๆ ณ จุดที่ทหารกัมพูชายังทะลึ่ง แสดงความซ่าบุกรื้อรั้วลวดหนามที่ช่องอานม้ากันดื้อๆต่อหน้าทหารไทย ต้องตะโกนสั่งให้หยุดไม่งั้นกูยิง ถึงได้ล่าถอยไปยั่ว ยุ แหย่ ทำสงครามประสาทเป็นระยะขณะที่โดรนปริศนาจากฝั่งกัมพูชายังบินว่อน สอดแนมรุกน่านฟ้าของไทยสะท้อนประสงค์ร้ายไม่นับสงครามไซเบอร์ ปฏิบัติการไอโอของกัมพูชาที่ปล่อย “เฟกส์นิว” โกหกโลกแบบหน้าด้านๆ แหกตา นานาชาติกันอย่างไม่อาย ให้ร้ายกองทัพไทย จับทางอันธพาล อาเซียน มันก็ชัดเจน “เจรจาไป ลอบกัดไป” สไตล์ “ฮุน เซน”สันดานผู้นำกองโจรเขมรแดงที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้แม้แต่ชนชาติเดียวกัน ไม่มีวันเชื่องง่ายๆโดยเฉพาะในจังหวะที่เพิ่งเพลี่ยงพล้ำ โดนกองทัพไทยไล่ออกจากแผ่นดินที่แอบรุกคืบนิ่มๆมานับสิบปี โดยเฉพาะพื้นที่ช่องอานม้า ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ตามข่าวเชื่อถือได้จากเพจกองทัพภาคที่ 2 จับตากัมพูชาเสริมกำลังเข้าจุดยุทธศาสตร์ต่อเนื่องงูเห่าโดนตีหลังหัก “ฮุน เซน” จ้องจังหวะทวงแค้นไม่หลับไม่นอนแต่นั่นก็ไม่ได้ถึงกับทำให้ทหารไทยต้องหลอนผู้นำกัมพูชาตัวพ่อเหมือนวิญญาณผีทหารเขมร ตามรูปเกมที่กองทัพไทยคงไม่ได้ปล่อยให้ข้าศึกระดมกำลังพล ทดแทนทหารตาย ศพยังเน่าคาบังเกอร์โดยศักยภาพที่เหนือกว่า และระบบระเบียบวินัย นักรบไทยไม่น่าประมาทเชื่อได้ ไม่พลาด “เติมของ” เต็มพิกัดเหมือนกันจับสัญญาณกัมพูชาๆจาก “ขาโหดหน้านิ่ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ปักหลักยืนกรานจุดยืน ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหน ก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก“กองทัพไม่ถอย เพราะเรารุกในเขตพื้นที่อธิปไตยของเรา”กัมพูชาห้าวเป้งยังไง เจอ “แม่ทัพบุญสิน” ก็คิดหนักหากจะเสี่ยงสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังวิกฤติ ประเมินจากฝ่ายความมั่นคงที่ยึดข้อมูลจากกองทัพเป็นหลัก ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนที่ลี้ภัยไปอยู่ศูนย์พักพิงกลับที่พักอาศัย เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัยลำพังคนไทยอุ่นอกอุ่นใจ ภายใต้การคุ้มกันของทหารหันไปทางฝ่ายบริหาร สภาพรัฐบาลเพื่อไทยที่อยู่ในอาการกะปลกกะเปลี้ยเหมือนเป็ดง่อย ศักยภาพด้อยกว่า “พ่อลูกตระกูลฮุน” เห็นได้ชัด วัดจากจังหวะย่างก้าวของรัฐบาลไทยที่ช้ากว่ารัฐบาลกัมพูชาหนึ่งก้าวเสมอ เพราะต้องเสียเวลาส่งชุดปัญหาเข้าไปในคฤหาสน์จันทร์ส่องหล้า“ประมวลผล” ก่อนส่งออกมาให้ ครม.นำไปปฏิบัติตามฟอร์มแบบที่ “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนตำแหน่งนายกฯออกหมัดชกเก้ๆกังๆ เพราะต้องรอพี่เลี้ยงสั่งจากข้างเวทีไม่ต้องถึง “เตมีย์ใบ้” อาการห่วงดอกพิกุลร่วงจากปาก “ทูตปู” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กว่าจะขยับตอบโต้ เอาข้อเท็จจริงทั้งภาพและหลักฐานที่ไทยตกเป็นผู้ถูกกระทำไปฟ้อง “ฮุน เซน” เป็น “อาชญากรสงคราม” ก็โดนกัมพูชาโกหกโลก ตีกินเฟกส์นิวนำไปแล้วหลายช่วงตัวภาพเลยหนีไม่พ้นโดนโยงศึกนัวเนีย “ตระกูลชิน” ฟัดกับ “ตระกูลฮุน”ทีม “นายใหญ่” โดนดักคออาการยึกๆยักๆจากปมขัดแย้งผลประโยชน์ ไม่กล้าหยิกเล็บเจ็บเนื้อ สะเทือนขุมทรัพย์ภายใต้ชั้นความลับที่ “อังเคิล” กุมทีเด็ดไว้ศึกชายแดนกัมพูชา รัฐบาลเพื่อไทยมะงุมมะงาหรา ตกเป็นรอง โดนตระกูลฮุนรุกไล่ตรงกันข้ามกับศึกใน แนวรบชายแดนกัมพูชาด้านเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ตามจังหวะ “เสี่ยอ้วน” ออกลูกบู๊ดุดัน กระฉับกระเฉงในการสั่งเกมรบยึดฐานที่มั่นของ “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ แม่ทัพใหญ่ค่ายเซราะกราว เขย่า “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอดีตเพื่อนร่วมรัฐบาลที่ถูกถีบไปเป็นฝ่ายค้าน “ฝ่ายแค้น”ตามแผนทุบคู่แข่ง แย่งธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม กระเทือนถึงสิงห์มหาดไทยถูกจับเป็นเชลย สังเวยเกมตีเมืองขึ้น ทีใครทีมัน ล่าสุดเป็นคิวของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีที่โดน “เสี่ยอ้วน” เด้งด่วน โทษฐานเบิกจ่ายงบฯช่วยชาวบ้านหนีการสู้รบล่าช้า เสียท่าก๊วนเซราะกราวประจานเชิงบริหารรัฐบาลเรือเกลือทำให้ “หนูอิ่ม” น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เสียหน้าคาสภาฯกลายเป็นเงื่อน ไขบริหารราชการแผ่นดิน โยงศึกชายแดน นัวเนียแผนการเมืองวางหมากเตรียมเลือกตั้ง คาบเกี่ยวกระบวนการยื้อประคองเกมอำนาจการเมืองภายในประเทศของค่ายเพื่อไทยไม่ใช่แค่ฝ่ายค้าน แต่อาการปะฉะดะยังลามถึงพรรคร่วมรัฐบาลปะทุสภาพ “เน่าใน” แบบที่ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขาใหญ่ค่ายกล้าธรรม ที่หงุดหงิดอารมณ์ค้างมาตั้งแต่ไร้ชื่อเป็นรองนายกฯ และ รมว.เกษตรฯในโผปรับ ครม.ล่าสุดโดนมัดคอ ถูกขอร้องจาก “นายใหญ่” อย่าสร้างความลำบากใจให้หลาน เสี่ยงปมจริยธรรมทำให้ทีมกล้าธรรมออกลูกเฮี้ยว เรียกของต่อรองไม่หยุด ล่าสุดก็กระตุกสัญญาณลูกข่ายแข็งขืนในการแย่งตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนฯคนที่หนึ่ง ไม่ยอมเปิดทางพรรคเพื่อไทยเคลมง่ายๆยื้อยุดฉุดกระชาก แกล้งเล่นเกมซ่อนแต้มทำให้เกิดภาพสภาล่มซ้ำซาก จงใจประจานพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล แต่ควบคุมเสียงข้างมากไม่ได้สภาพ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯคนลูก ติดบ่วงคลิปร้อน “อังเคิล” นับถอยหลังศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาสถานะ “โทนี่” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯคนพ่อ เจอ 2 เด้ง ทั้งประเด็นวีไอพีชั้น 14 และคดีอาญา มาตรา 112 ให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เข้าข่ายละเมิดสถาบันล้อไปกับสัญญาณแว่วๆ เกมโอเวอร์ หมดเวลาใช้งาน “นายกฯสองพ่อลูก”ประเทศไทยมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ไม่อาจผูกเดิมพันอนาคตบ้านเมืองกับรัฐบาล “เน่าใน”ส่อต้องใช้รัฐบาลเฉพาะกิจ ฝ่าวิกฤติชายแดนกัมพูชา สู้ศึกภูมิรัฐศาสตร์โลก.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม