กับเงื่อนไขที่ทีมไทยแลนด์หยิบยกไปเจรจาพูดคุยในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ประเทศมาเลเซียทั้งทีมไทยแลนด์ ทั้งมาเลเซียผู้อำนวยความสะดวก ไปจนตัวแทนสหรัฐอเมริกา และประเทศจีน ในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์ก็คงเห็นตรงกัน ปฏิบัติไม่ยากเย็นไม่ว่าจะเป็นการหยุดยิงเด็ดขาด-คุ้มครองประชาชน-การงดการเสริมกำลัง-การห้ามเคลื่อนย้ายกำลัง-การอำนวยความสะดวกส่งกลับผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต-จัดตั้งชุดประสานงานเฉพาะกิจ-การปรับกำลังทหาร และหากไทย-กัมพูชาเห็นพ้องอาจนำไปสู่การลงนามเป็นข้อตกลง และให้มีผลบังคับใช้ในระดับนโยบายทั้ง 2 ประเทศเว้นแต่ว่ากัมพูชาจะยึกยักกับคำว่า “สงคราม” และ “สันติภาพ”และตามรูปการณ์ งานนี้ทีมไทยแลนด์หวังผลในทางที่ดี จัดคณะใหญ่ นำโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการแทน รมว.กลาโหม จะยกคณะไปครบ โดยที่ถูกจับตาคือ “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด มีบทเด่นเบื้องหลังระดับแมน บีไฮด์ เดอะ ซีน ที่กำลังถูกจับตาชื่อร้อนแรงจนทีมงานรัฐบาลเพื่อไทยจับตาไม่กะพริบเพียงแต่รายการใหญ่บ้านเมืองหนนี้ ยังไม่ถึงรอบ “อัศวินม้าขาว”ในภาวะที่ต้องมุ่งโฟกัสโจทย์หลัก ไม่ว่าทีมไทยแลนด์จะหอบ “ข้อตกลง” กลับมายังไงก็ตาม เชื่อว่าถึงวันนี้ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องไม่รีบร้อนไชโยแสงแห่งสันติภาพเพราะข้อตกลงก็คือข้อตกลง ที่ผ่านมาพันธสัญญา กติกาใดๆ เพื่อนบ้านก็ฉีกกระจุยไม่สนโลกมาแล้วหลังจากนี้ทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะประชาชน ชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสู้รบตามแนวชายแดน ก็ต้องคอยรับฟังสัญญาณระหว่างรอกลับบ้าน ขณะที่ทหารหาญชายแดนยังต้องตรึงกำลังเข้มอีกสักระยะยังเสี่ยงคิวโบ๊ะบ๊ะกัมพูชาพร้อมบวกเปิดเกมปะทะได้เสมออีกทาง ในภารกิจของรัฐบาลไทย ในภาวะเกือบสุญญากาศอำนาจ “รักษาการนายกฯอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ถือดาบแทน “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” ก็ไม่ควรปล่อยให้ทำเนียบฯเป็น “โนแมนแลนด์”ต้องสั่งเปิดฉากเกมการเมืองระหว่างประเทศควบคู่ด้วยโดยเฉพาะเมื่อที่ประชุมทั้ง ครม. และ สมช.สรุปว่าจะยื่นฟ้องทั้งคดีอาญาประเด็นพ่อ-ลูก “ฮุน เซน-ฮุน มาเนต” ในเรื่องการก่ออาชญากรรมทำร้ายชีวิตผู้คน พลเรือน ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบ้านเรือน ชุมชน โรงพยาบาล และเรียกค่าชดเชยความเสียหายชีวิตและทรัพย์สินการจะลากคอ “อาชญากรสงคราม” มารับผิด ใช้ช่องทางใดได้บ้าง จะศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ-ศาลอาญาระหว่างประเทศเช่นเดียวกัน ที่พูดกันเรื่องเพื่อนบ้านละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ในประเด็นใช้อาวุธสงครามสังหารพลเรือน และอนุสัญญาออตตาวา เรื่องการวางกับระเบิดร้ายแรง ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ก็ต้องเร่งฟ้องโลกอย่าให้คนไทยต้องทวงถาม เปิดเกมบุกกี่โมงเพราะทุกนาทีที่ผ่านไป ระหว่างเหตุสู้รบ-ระหว่างเจรจายุติศึก-หย่าศึก ทีมกัมพูชาเจ้าเล่ห์โชว์เหลี่ยมจัดตลอด ตั้งแต่ปล่อยข่าวเฟกนิวส์เล่นงานไทยรายวัน ดีลมหาอำนาจสูตรกะล่อนแมน พลิกอิงไปมาสหรัฐฯ-จีนยังไม่รวมเกมลูกช่างฟ้องก่อนหน้านี้ กัมพูชาลากปม 3 ปราสาท 1 พื้นที่ ส่งด่วนขึ้นศาลโลกฝ่ายเดียววันนี้ทีมไทยแลนด์มีบทเรียน เพราะแค่ยุทธศาสตร์ รบไป-คุยไป ก็ต่อกรกันยากแล้ว ยังเจอคิวป่วนเกมโลกสุดเขี้ยวจากเพื่อนบ้าน จนต้องปาดเหงื่อฉะนั้นรัฐบาลทีมไทยแลนด์อย่าได้วางใจ รีบจัดให้ครบสูตร ต้องเติมเกม “หาพวก” ในเวทีต่างประเทศดึงโลกมาล้อมเอาคืนบ้างถึงแม้ว่าสภาพรัฐบาลเหมือนอยู่ในภาวะเป็ดเปลี้ย-เป็ดง่อย ก็ต้องฮึดลุยโจทย์แก้วิกฤติบ้านเมืองเบรกกระแสโหยหารัฐบาลที่ “เข้มแข็งกว่านี้”ต้องรีบตัดไฟ “ครม.เฉพาะกิจ-ผู้นำเฉพาะกาล” กันแต่ต้นลม.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม