เริ่มต้นก็มีปัญหาแล้ว ตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติของสภาชุดนี้ดูเหมือนจะมีปัญหานับแต่เริ่มต้น เพราะพรรคแกนนำรัฐบาลไม่สามารถส่งคนของพรรคไปดำรงตำแหน่งได้ เนื่องมาจากการจับมือเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของ 2 พรรค คือ “ก้าวไกล” (อันดับ 1) และ “เพื่อไทย” (อันดับ 2) แต่ไม่สามารถตกลงกันได้จึงต้องแยกกันไปคนละทางฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาลบริหารประเทศอีกฝ่ายไปเป็นฝ่ายค้านระหว่างการเจรจาร่วมรัฐบาลจะต้องตั้งประธานสภาก่อนเพื่อเปิดประชุม ปรากฏว่าทั้ง 2 พรรคต่างก็ต้องการตำแหน่งนี้จึงตกลงกันไม่ได้ที่สุดต้องเอาคนกลางจากพรรคประชาชนซึ่งจะร่วมรัฐบาลด้วยคือ “วันนอร์” หัวหน้าพรรค ขึ้นเป็นประธานสภาแทนจึงตกลงกันได้โดยให้คนของ “ก้าวไกล” เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่หลังจากร่วมรัฐบาลด้วยกันไม่ได้ ปรากฏว่าของ “ก้าวไกล” ไม่ยอมลาออกคาตำแหน่งนี้เอาไว้แต่สุดท้ายก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง เพราะพรรคการเมืองที่สังกัดถูกคำสั่งยุบพรรค ซึ่งรองประธานสภาเป็นกรรมการบริหารจึงต้องพ้นจากตำแหน่งและถูกตัดสิทธิทางการเมืองจากนั้น “เพื่อไทย” ก็เสนอชื่อ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” สส.เชียงราย และได้รับการโหวตให้เป็นรองประธานสภาคนที่ 1ก็ทำหน้าที่ได้ดีมาระยะหนึ่ง!จากนั้น “ภูมิใจไทย” ที่ได้โควตารองประธานสภาคนที่ 2 ก็เสนอชื่อ “ภราดร ปริศนานันทกุล” ขึ้นดำรงตำแหน่งนี้แต่ทำหน้าที่ไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องพ้นจากตำแหน่งเพราะ “ภูมิใจไทย” ได้ถอนตัวจากรัฐบาล จึงลาออกแสดงสปิริตเพราะเป็นฝ่ายค้าน ควรให้ฝ่ายรัฐบาลทำหน้าที่นี้จากนั้น “เพื่อไทย” ก็เลือก “ฉลาด ขามช่วง” เป็นรองประธานสภาคนที่ 2 แทนตามข้อเรียกร้องของ สส.อีสานที่ไม่มีตำแหน่งอะไรก็ได้ตามปรารถนา!ยังไม่ทันทำงานก็เกิดปัญหาเมื่อ “พิเชษฐ์” ต้องพ้นจากตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 1 เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พ้นจากความเป็น สส.และถูกตัดสิทธิทางการเมืองเนื่องจากกระทำผิดตาม ม.144 คือแปรงบประมาณไปลงในพื้นที่ของตนเองที่เชียงรายว่ากันว่าคดีนี้ยังมีนักการเมืองเกี่ยวข้องอีกหลายคนที่มีสิทธิเช็กบิลด้วย เพราะถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงที่นักการเมืองไม่ควรปฏิบัติ เพราะใช้อำนาจหน้าที่เพื่อประโยชน์ของตนเองจึงต้องมีการเลือกรองประธานสภาคนที่ 1 กันใหม่ โดย “เพื่อไทย” มีมติเห็นชอบให้ “ไชยา พรหมา” ดำรงตำแหน่งนี้“ไชยา” นั้นเพิ่งหลุดจากเก้าอี้รัฐมนตรีมาสักระยะหนึ่งแล้วแม้จะมีความเคลื่อนไหวของพรรค “กล้าธรรม” ที่ต้องการตำแหน่งนี้เช่นกัน แต่ “เพื่อไทย” ไม่ยอมเพราะเป็นโควตาของพรรคเนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับงานในสภาของพรรคด้วยจึงตีตราจองไม่ยอมให้ใครเด็ดขาด!ว่าไปแล้วตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติของสภาชุดนี้เมื่อเริ่มต้นมีปัญหาก็เลยเป็นปัญหาต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นอีกหรือเปล่าแต่ที่แน่ๆ “วันนอร์” สบายที่สุดไม่ต้องออกแรงอะไรมากนั่งตำแหน่งใหญ่สบายๆทุกคนเกรงใจ ทุกคนยอมรับมีแต่คนอยากเป็นแต่ไม่ได้เป็นเท่านั้นที่รอจนเหงือกแห้ง!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม