“แพทองธาร” ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้าน จ.สุรินทร์ ส่งกำลังใจปลอบขวัญให้เชื่อมั่นรัฐบาลจะเร่งคลี่คลาย สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา ให้เร็วที่สุด เยี่ยมทหารบาดเจ็บ นับถือหัวใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทุ่มเทเสียสละ เจอสาวกาบเชิงโวยคนไทยเจ็บปวดมากกับคำพูดนายกฯ จี้ผู้นำคิดใหม่ทำใหม่เพื่อประเทศชาติ พท.แจงซ้ำศึก 2 ตระกูลไม่เกี่ยว ชนวนก่อสงคราม โต้เฟกนิวส์ปั่นกระแสหวังผลการเมือง วอนม็อบสงบศึกชั่วคราวค่อยไล่รัฐบาล พรรค ปชน. ปิดเว็บไซต์ตามคำขอรัฐบาล บี้เร่งหาทางให้หยุดยิง โดยเร็ว ทสท.จี้สองพ่อลูกหยุดจ้อซ้ำเติมวิกฤติน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ พร้อมเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะ ทีี่โรงพยาบาลสุรินทร์ ยืนยันรัฐบาลเร่งคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็วที่สุด“แพทองธาร” ให้กำลังใจชาวสุรินทร์เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ก.ค.ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม พร้อม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบสิ่งของแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่ น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึง น.ส.ชญาณุช โชคสุขอุดม ชาวบ้านที่อพยพมาจาก อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พยายามจะสื่อสารกับ น.ส.แพทองธาร แต่ น.ส.แพทองธารไม่ทันสังเกต ทีมงานจึงหันไปบอกว่าเดี๋ยวออกมา ชาวบ้านคนดังกล่าวจึงตอบกลับไปว่า“ใจร้ายแท้”เจอโวยให้คิดใหม่ทำใหม่เพื่อชาติผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ชญาณุชกล่าวว่า วันนี้รู้สึกตื้นตันใจที่มา ตนเป็นคนชายแดนแท้ๆ รู้สึกเจ็บมากกับคำพูดของนายกฯ การกระทำล่าช้ามาก คนไทยต้องไม่ตายฟรี ตอนนี้ประเทศไทยเจ็บปวดทั้งหมด ขอให้นายกฯคิดให้ดี ชาวบ้านทุกคนฝากบอกนายกฯว่าพวกเราเจ็บปวด แต่ไม่รู้จะทำยังไง เพราะพวกเราเป็นชาวบ้านตาสีตาสา แต่เขาเป็นผู้นำ อยากบอกท่านว่าอย่าทำแบบนี้เลย เรื่องผลประโยชน์เราเข้าใจ แต่ให้หันมาดูประชาชนหน่อย เปิดใจและเข้าใจประชาชน ว่าพวกเราเจ็บปวดจริงๆ ส่วนเรื่องผลประโยชน์ เรื่องความสัมพันธ์เขาปฏิเสธได้ อยากบอกว่าให้คิดใหม่ทำใหม่เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชนของตนเอง ผลประโยชน์เราไม่รู้อะไรหรอก แต่ประชาชนอยากอยู่อย่างสงบจริงๆ น.ส.ชญาณุชยังทิ้งท้ายเป็นภาษาถิ่น (เขมร) ด้วยความหมายประมาณว่า “น้องอย่าทำแบบนี้นะ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวคุณชญาณุชออกจากพื้นที่นับถือหัวใจทหาร–จนท.ทุ่มเทเสียสละต่อมาเวลา 13.10 น. น.ส.แพทองธารและคณะ เดินทางต่อไปที่โรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมนายทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้พูดคุยเพื่อให้กำลังใจทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว พร้อมทั้งกล่าวแสดงความนับถือหัวใจของแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และพี่น้องทุกคนที่ยังยืนหยัดทำงานอยู่หน้างาน ด้วยความทุ่มเทและเสียสละอย่างสูงสุดมั่นใจ รบ.เร่งคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็วจากนั้นเวลา 14.18 น. น.ส.แพทองธารทวีตข้อความผ่านเอ็กซ์ว่า วันนี้เดินทางมายัง จ.สุรินทร์ เพื่อมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ชายแดน ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ และพบกับประชาชนที่ศูนย์อพยพชั่วคราว มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ พี่น้องประชาชนหลายคนต้องออกจากบ้านโดยไม่ทันตั้งตัว ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ทั้งที่ไม่ควรต้องเจอกับความยากลำบากเช่นนี้ ขอส่งกำลังใจถึงทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเร่งคลี่คลายสถานการณ์นี้โดยเร็ว เพื่อทำให้ทุกชีวิตได้กลับคืนสู่ความปลอดภัยและมั่นคงโดยเร็ว ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน กำลังใจที่มอบให้กันในวันนี้คือพลังสำคัญที่สุด ขอเป็นหนึ่งกำลังใจพร้อมกับคนไทยทั้งประเทศ ที่จะอยู่เคียงข้างพี่น้องประชาชนที่รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้พท.ปัดศึก 2 ตระกูลก่อไฟสงครามเมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ว่า สส.พรรคเพื่อไทยระดมความช่วยเหลือไปยังผู้ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ สส.ในพื้นที่ลงไปช่วยเหลือประชาชนจุดต่างๆ รับฟังปัญหา ประสานการช่วยเหลือทุกช่องทาง สถานการณ์ปะทะเกิดจากความไม่พอใจของผู้นำกัมพูชาเกี่ยวกับการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาลไทย ข้อสังเกตที่เห็นชัดคือเมื่อไทยจัดตั้งกลไกไตรภาคีร่วมกับเมียนมา ลาว จัดการปัญหาดังกล่าว เชิญกัมพูชาเข้าร่วมแต่ได้รับการปฏิเสธ อ้างจะดำเนินการด้วยตนเอง ขณะนี้หน่วยงานต่างๆกำลังเร่งประสานงานไปยังองค์กรต่างๆระดับสากลปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติให้เด็ดขาดถอนรากถอนโคนโต้เฟกนิวส์ปั่นหวังผลการเมือง“เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้ง 2 ตระกูลตามที่มีความพยายามสร้างเฟกนิวส์ เพื่อผลทางการเมือง ข้อเท็จจริงเริ่มปรากฏผ่านการวิเคราะห์ของนักวิชาการต่างชาติ สื่อต่างประเทศให้ข้อมูลทางเดียวกันว่ากัมพูชาไม่พอใจเนื่องจากบุคคลระดับผู้นำในประเทศ ได้รับผลกระทบจากการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ อีกทั้งขณะนี้ทางการไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน คนสนิทผู้นำกัมพูชา รวมถึงเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอายัดทรัพย์สินมหาศาลและประสานตำรวจสากลติดตามจับกุมตัว” โฆษกพรรค ภท.กล่าวยันใช้กลไกทวิภาคีสร้างสันติสุขนายดนุพรกล่าวว่า รัฐบาลไทยยืนยันตลอดต้องการแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี เจรจาด้วยกลไกทวิภาคี ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศประสานงานระดับทวิภาคี จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ติดตามข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูต เตรียมการด้านมนุษยธรรมระหว่างรัฐ รองรับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อ ให้ข้อมูลประชาคมระหว่างประเทศอย่างถูกต้องและโปร่งใส รัฐบาลให้ความสำคัญบทบาทการทูตคลี่คลายความตึงเครียดจะดำเนินการทุกมิติทั้งความมั่นคง การทหาร การทูต การปกป้องชีวิตและทรัพย์สินประชาชนส่วนการดูแลประชาชนที่อพยพออกจากบ้านเรือนนั้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งทุกกระทรวงร่วมบูรณาการแผนดูแลช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน และขออนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี เพิ่มเติมจังหวัดละ 100 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ สถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างอ่อนไหว ขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานรัฐ ระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อเฟกนิวส์วอนม็อบศึกสงบค่อยไล่รัฐบาลโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการนัดชุมนุมวันที่ 2 ส.ค. ขอร้องแกนนำม็อบทั้งหลายว่า วันนี้สิ่งที่ประเทศต้องการไม่ใช่การยุบสภา แต่คือความสามัคคีคนในชาติ ให้เพื่อนบ้านเห็นว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมตอบโต้ผู้รุกล้ำอธิปไตยประเทศ รอให้เหตุการณ์ชายแดนสงบก่อน แล้วจะมาชุมนุมตามกฎหมายไม่มีการห้ามกัน ขอให้รับคำร้อง ขอไปพิจารณาอีกครั้ง การชุมนุมแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซื้อข้าวกล่อง ซื้อน้ำมาเลี้ยงผู้ชุมนุม หากต้องใช้งบประมาณส่วนนี้ มองว่า ควรนำงบทั้งข้าวกล่อง น้ำ และอาหารแห้ง ส่งไปช่วยเหลือประชาชนผู้ที่อพยพบริเวณเขตชายแดน จะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่าเวลาปัจจุบันแจงไม่ทอดทิ้งน้ำท่วมภาคเหนือนายดนุพรกล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือว่า พรรค พท.แสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ประสบภัย ที่ผ่านมารัฐบาลและ สส.พรรคเพื่อไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ เข้าไปช่วยเหลือประชาชน ประสานหน่วยงานต่างๆเร่งแก้ปัญหา แม้อีกด้านกำลังเผชิญหน้าปัญหาความขัดแย้งกับกัมพูชา แต่ปัญหาภัยธรรมชาติ ความเดือดร้อนชาวภาคเหนือไม่ได้ถูกละเลย การแจ้งเตือนภัยประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่งข้อความเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ไปยังประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทันที เมื่อมีข้อมูลพื้นที่เสี่ยง จัดตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และน่าน รวมทั้งตรวจสอบซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมกำลังพลช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์เฉพาะหน้า จัดชุดปฏิบัติการเร่งคลี่คลายสถานการณ์ ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว รัฐบาลเร่งตรวจสอบความเสียหาย พร้อมฟื้นฟูสถานที่บ้านเรือนประชาชน สถานที่ราชการทสท.จี้พ่อลูกหยุดจ้อซ้ำเติมวิกฤตินายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาสื่อสารเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชาในที่สาธารณะว่า ขอเรียกร้องให้ทั้งสองพ่อลูกหยุดการสื่อสารในปมความขัดแย้งส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชาในที่สาธารณะทันที เพราะสถานการณ์ขณะนี้สุ่มเสี่ยงสูง ทั้งมิติความมั่นคงและเศรษฐกิจ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เสนอยุติความตึงเครียดไทย-กัมพูชา มีความเคลื่อนไหวการบอยคอตทางการค้าร่วมด้วย สถานการณ์ขณะนี้เปราะบางอย่างยิ่ง ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ เสี่ยงทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีกด้วย ท่าทีแข็งกร้าวของนายทักษิณอาจถูกมองว่าเป็นการตอบโต้ แต่ไม่สามารถเพิ่มความนิยมให้รัฐบาลได้ ปัญหาอธิปไตยของไทยยังต้องจับตาท่าทีจีน ขณะนี้ยังไม่แสดงจุดยืนที่แน่ชัด รัฐบาลควรตั้ง “มีเดีย วอร์รูม” จัดการการสื่อสารกับสื่อต่างประเทศอย่างเป็นระบบ จัดทำเนื้อหาข้อเท็จจริงการกระทำของผู้นำกัมพูชาในเวอร์ชันภาษากัมพูชา เพื่อสื่อสารตรงไปยังชาวกัมพูชาโดยตรง สร้างความได้เปรียบด้านข้อมูลข่าวสารให้ฝ่ายไทย ต้องสื่อสารชัดเจนและมีเอกภาพ หยุดสร้างประเด็นขัดแย้งภายในที่บั่นทอนเสถียรภาพของชาติ เรากำลังอยู่ในจุดเสี่ยงที่อาจกลายเป็นความเสียหายระยะยาวได้ หากไม่หยุดพฤติกรรมที่เป็นเชื้อไฟต่อความขัดแย้ง“ขิง” พร้อมรบเป็นกองหลังสู้ภาษีเมกานายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์อุตสาหกรรมรวมใจ ที่ จ.อุบลราชธานี ว่า พร้อมรบเป็นกองหลัง เรื่องที่ไทยถูกกดดันให้หยุดยิง เพื่อเจรจาภาษีทรัมป์ ทั้งที่ทหารกัมพูชาใช้อาวุธสงครามยิงใส่เรา ยิงใส่โรงพยาบาล ยิงใส่บ้านเรือนผู้บริสุทธิ์ของเราก่อน ทำให้พลเรือนบริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บล้มตาย จนกระทั่งเช้าวันที่ 27 ก.ค. ยังยิงใส่เราไม่หยุด ได้เตรียมแผนรับมือกับผลของภาษีตอบโต้จากทรัมป์ ไม่ว่าเรตภาษีจะจบลงที่เท่าไหร่ เพราะไม่ว่าผลการเจรจานอกบ้านจะออกมาเช่นไร จะมัวแต่ภาวนาให้สหรัฐฯเมตตาลดภาษีให้เราอย่างเดียวไม่ได้ แต่ควรจะจัดการกับปัญหาในบ้าน ที่อยู่ในอำนาจของเราเองก่อน โดย 1.จัดการของด้อยคุณภาพที่นำเข้ามาดัมพ์ตลาด ธุรกิจ 0 เหรียญ 2.รณรงค์ซื้อ-ใช้ของที่ไทยผลิต Made By Thai ช่วยธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) และ 3.จัดระบบอุตสาหกรรมใหม่ ไม่พึ่งแต่บุญเก่า ยุคใหม่ ทันสมัย ทันเวลา โปร่งใส ทำให้สะอาด ทำให้ถูกต้อง ภาษีตอบโต้จะเป็นเท่าไหร่ตนรับมือได้ แต่รับไม่ได้ที่จะไม่ให้เราตอบโต้ทางทหาร เพื่อปกป้องชีวิตอันบริสุทธิ์ของประชาชนคนไทย ขอให้กองทัพได้ทำหน้าที่แนวรบกองหน้าปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มกำลัง กระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นแนวรบกองหลัง ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ สู้ในสงครามเศรษฐกิจให้เองปชน.ยินดีปิดเว็บไซต์ตามคำขอ รบ.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยว่า พรรคปชน.ยินดีปิดเว็บไซต์รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตามคำร้องขอของ ศบ.ทก. แต่ขอยืนยันว่า 1.เว็บไซต์ของพรรค ปชน.ไม่เคยเผยแพร่ข้อมูลใดที่รัฐบาลกังวลว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนไทย หรือจะถูกรัฐบาลกัมพูชานำไปใช้โจมตีพลเรือนไทย เช่น พิกัดที่ตั้งศูนย์อพยพ พิกัดตำบลกระสุนตก รายละเอียดการวางกำลังพลและอาวุธของทหาร 2.เว็บไซต์พรรค ปชน.รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูล เฉพาะที่ถูกเผยแพร่โดยหน่วยงานของรัฐ เช่น พื้นที่อันตราย ที่หน่วยงานรัฐสั่งให้ประชาชนอพยพออก ศูนย์รับบริจาคโลหิตทั่วประเทศ จากการเผยแพร่ของสภา กาชาดไทย หรือที่ปรากฏต่อสาธารณะอยู่แล้ว เช่น สถานพยาบาล ตามที่ปรากฏใน Google Maps 3.เว็บไซต์ของพรรคมีเจตนารวบรวมข้อมูลของหลายหน่วยงานรัฐ เช่น ประกาศของผู้ว่าฯ ที่ว่าการอำเภอ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงกองทัพบก เพื่อให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยสะดวกในเว็บไซต์เดียว ช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าใช้บริการเว็บไซต์เกิน 3 ล้านครั้ง แต่เพื่อให้รัฐบาลมีสมาธิกับภารกิจที่สำคัญในการปกป้องชีวิตประชาชน พรรค ปชน.ยินดีร่วมมือกับรัฐบาล และได้ปิดเว็บไซต์ตามคำขอของรัฐบาลแล้วจี้เร่งดำเนินการให้หยุดยิงเร็วที่สุดนายพริษฐ์กล่าวว่า เราหวังว่ารัฐบาลจะเร่งหาแนวทางดังต่อไปนี้ เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชน 1.เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารที่รวมศูนย์ รวดเร็ว แม่นยำ จะทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงข้อมูลที่สำคัญต่อความปลอดภัยโดยสะดวก ทำให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง และทำให้ประชาคมโลกรับรู้ถึงข้อเท็จจริงและเข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรง โดยไม่ถูกบิดเบือนจากปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชา 2.เร่งให้ทุกจังหวัดและพื้นที่ที่ถูกกระทบ ตั้งศูนย์ประสานงานกลางในระดับพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการบุคลากรทางการแพทย์ และสิ่งของเครื่องใช้ที่ภาคส่วนต่างๆ ส่งมาช่วยเหลือให้เพียงพอช่วงระยะเวลาต่างๆอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนว่าจะยืดเยื้อแค่ไหน รวมถึงการสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ให้รับรู้ไปในทิศทางเดียวกัน 3. เร่งดำเนินการให้หยุดยิงโดยทุกฝ่ายโดยเร็วที่สุด คู่ขนานกับการรวบรวมข้อมูลหลักฐานและการสื่อสารเกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้น เพื่อนำเสนอให้ประชาคมโลกเห็นว่า ไทยคือฝ่ายที่มีความจริงใจในการเดินหน้าสู่การยุติข้อพิพาท และมีปฏิบัติการทางทหาร เพื่อป้องกันตนเองจากการรุกรานของกัมพูชาเท่านั้นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่