การเจรจาการค้าเกี่ยวกับ มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯของทีมไทยแลนด์ ที่นำโดย พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง กับผู้แทนการค้าสหรัฐฯในวันที่ 3 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการเริ่มต้นของการรับมือ สงครามการค้า ที่สหรัฐฯขีดเส้นตายภายในวันที่ 7 ก.ค.นี้ จะประกาศมาตรการภาษีกับประเทศที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าทั้งหมด ในสภาพที่เศรษฐกิจ ประเทศย่ำแย่จากการคาดการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ เหลือที่ประมาณร้อยละ 1 สวนทางกับหนี้สาธารณะของประเทศที่เพิ่มขึ้นจนใกล้จะชนเพดาน เศรษฐกิจถดถอยเท่าไหร่ก็จะส่งผลกับหนี้ครัวเรือนเท่านั้น ผลกระทบจากสงครามการค้าเที่ยวนี้ จะส่งผลตั้งแต่ล่างขึ้นบนและบนลงล่าง ซึมลึกกว่าวิกฤติเศรษฐกิจทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งเจ้าสัว ทั้งคนที่หาเช้ากินค่ำ ใช้ตำราเดียวกัน เก็บเงินสดเอาไว้ปลอดภัยที่สุดคุณสู้เราช่วย เฟส 1-2 ไทยเที่ยวไทย คนละครึ่ง เฟสแรก เปิดลงทะเบียนวันแรกระบบล่มทันที เงินดิจิทัลเฟส 3-4 ริบหรี่ ค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท ต่อให้ ครม.อนุมัติ ถ้านายจ้างไม่อนุมัติก็ไม่มีประโยชน์ แรงงานราคาถูกเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วจะไปเอากำลังซื้อมาจากไหน ไม่อย่างนั้นร้านบะหมี่ สุกี้ คงไม่ปิดตัวกันเป็นแถวเศรษฐีตลาดหุ้น หายใจไม่ทั่วท้อง ต่างชาติเทขายหุ้นตั้งแต่ต้นปี ไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท ถือว่าตลาดหุ้นไทยตกต่ำกว่าที่อื่น หรือเกือบจะตกต่ำมากที่สุดในโลกด้วยซ้ำ เหตุเพราะ จีดีพี อยู่ในระดับต่ำ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ก็ไม่ดีนักความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตกต่ำไม่น้อยกว่าตลาดหุ้น จากความขัดแย้งทางการเมืองและความล่อแหลมในตำแหน่งนายกฯ-ครม. และเสถียรภาพของรัฐบาล สรุปว่าประเทศไทยไม่เป็นที่น่าสนใจและเชื่อมั่นของนักลงทุนอีกต่อไป จากความไม่เชื่อมั่นต่อระบบการเมืองการปกครองและนิติสงครามอย่าไปพูดถึง ขีดความสามารถในการแข่งขัน เราจะไปแข่งกับใครได้ ถ้ายังเอาตัวไม่รอด จะต้องมานั่งกังวลว่าจะหลุดจากตำแหน่งวันไหน จะถูกยึดอำนาจวันไหน ม็อบจะมาไล่วันไหน ถ้ารัฐบาลไทย ผู้นำประเทศไทย ผู้บริหารของประเทศ ถูกรุมล้อมไปด้วยปัญหาหนักๆ มีเสียงเรียกร้องให้ลาออก ให้ยุบสภา ทำงานได้ครึ่งๆกลางๆ กลไกการบริหารประเทศติดขัดขาดประสิทธิภาพ ถึงจะทำใจดีสู้เสือแค่ไหน แต่นักท่องเที่ยว นักลงทุนไม่สู้ด้วย ประเทศไทยเต็มไปด้วยกับดักและความเสี่ยง ก็ต้องอยู่กันแบบไปตายเอาดาบหน้าจะปรับ ครม. จะเปลี่ยนเก้าอี้นายกฯ หรือจะยุบสภา หรือหนักที่สุดจะยึดอำนาจก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายอยู่ดี หรือจะไปเลือกเอาพรรคประชาชนมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ใช่คำตอบ จะเอาณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ มาเป็นนายกฯก็ไม่ใช่คำตอบ เพราะเราไม่เคยแก้ปัญหาประเทศที่ต้นตอ ปัญหาที่ใหญ่กว่าเก้าอี้นายกฯคือระบบอุปถัมภ์ ที่ฝังรากลึก ผูกขาดผลประโยชน์พวกพ้อง ทำให้ประชาธิปไตยอ่อนแอ ปล่อยให้มีการปกครองแบบเผด็จการซ่อนรูป.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม