ผลการประกาศคุมเข้มด่านชายแดนไทย-กัมพูชา รวม 7 จังหวัด วันแรกทำอลเวง ทั้งคนทั้งรถสินค้าตกค้างแต่ละฝั่งเพียบแต่หลังเจรจาระดับพื้นที่จนได้ข้อสรุปเปิดประตูด่านเคลียร์ทั้งคนและรถให้ข้ามแดนได้ ก่อนต่างฝ่ายปิดประตูด่านตามเดิม เว้นกรณีมีเหตุเพื่อมนุษยธรรม ทั้งให้ นร.มาเรียน ส่งตัวผู้ป่วย-ส่งศพคืนถิ่น ขณะที่นายกฯย้ำรัฐบาลไม่มีนโยบายตอบโต้ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่คำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนและผลประโยชน์ต่อประเทศ ชาติเป็นสำคัญ ด้าน “มาริษ” ยังหวังใช้ทวิภาคีแก้ปัญหาความขัดแย้ง แม้นายกฯกัมพูชาระบุจะไม่มีการพูดคุยในเจบีซีอีกแล้วสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ใน 7 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี และตราด ที่กองทัพไทย โดยแม่ทัพภาคที่ 1 ภาคที่ 2 และกองทัพเรือ ประกาศปิดจุดผ่านแดนในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อคืนวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้เพิ่มเติมมาตรการ เพื่อดูแลคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในพื้นที่ชายแดน“มาริษ” หวังทวิภาคีแก้กัมพูชาที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เวลา 09.45 น. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้พูดไป ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ประเมิน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศพยายามผลักดันอย่างยิ่งให้มีการหารือทวิภาคีให้เร็วที่สุดตามนโยบายของนายกฯ เพื่อไม่อยากให้เกิดการปะทะ ไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ดึงให้มานั่งคุยกัน แต่ต้องพยายาม เนื่องจากการปะทะกันสร้างความตึงเครียดให้เกิดขึ้นบริเวณชายแดน ไม่ก่อให้เกิดผลดีใดๆทั้งสิ้น และยังเชื่อว่ายังสามารถพูดคุยกับกัมพูชาได้แน่นอน ยังคงมีช่องทางในการพูดคุยกันอยู่ตลอด ส่วนที่นายฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ระบุว่า จะไม่มีการพูดคุยในเจบีซีอีกแล้ว เป็นความเห็นของนายฮุน มาเนต ตนเคารพความเห็นท่าน แต่กัมพูชามีพันธะกรณีที่ต้องมาพูดคุยกัน เป็นสิ่งที่เราตกลงกันไว้ระหว่างไทยกับกัมพูชามาโดยตลอดนายกฯปัดปิดด่านหวังผลการเมืองจากนั้นในเวลา 12.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ แถลงหลังประชุม ครม.ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า สั่งการให้ ครม.ติดตามอย่างใกล้ชิด เตรียมหามาตรการรองรับเพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ขอยืนยันว่าสถานการณ์เช่นนี้เสถียรภาพของรัฐบาลสำคัญมากๆ รวมถึงความสามัคคีก็สำคัญมาก ขอให้รัฐมนตรีทุกท่านทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจและแก้ไขปัญหาอย่างทันการ รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องภัยคุกคามความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติ ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ ขอย้ำว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายตอบโต้ในการเปิด-ปิดด่านชายแดนเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่คำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนและผลประโยชน์ต่อ ประเทศชาติเป็นสำคัญ โดยเตรียมมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชนบริเวณชายแดนอย่างครบถ้วนสั่งการเร่งแก้ปัญหา ปชช.น.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชน ได้ให้กระทรวงคลังกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนที่จะช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในทุกระดับ รวมทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าของประเทศ ส่วนเรื่องราคาพืชผลการเกษตรให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราคาข้าวที่ต้องเร่งสนับสนุนและสรุปมาตรการเยียวยาแก่เกษตรกรให้เสร็จโดยเร็ว นอกจากนี้ เรื่องการลักลอบขนสินค้าเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านที่จะส่งผลกระทบให้ราคาพืชผลการเกษตรในบ้านเราเกิดราคาตกต่ำ ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน เรื่องปัญหายาเสพติด ให้กระทรวงกลาโหมบูรณาการทำงานระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจทุกจังหวัด กำหนดมาตรการที่เป็นรูปธรรมให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น และขยายผลจากมาตรการ ซีล สต็อป เซฟแบไต๋เขมรตัดไฟไทยแค่ 3 จุดต่อมา พล.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกอง บัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า แม้กัมพูชาจะประกาศตัดการรับจ่ายกระแสไฟฟ้าจากไทยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 แต่จากการตรวจสอบพบว่ากัมพูชายังคงใช้ไฟฟ้าจากไทยอยู่ถึง 6 จุด ก่อนหน้านี้ ไทยจ่ายไฟฟ้าให้กัมพูชาผ่าน 9 จุดหลัก ทว่าปัจจุบันกัมพูชาได้ยกเลิกการรับไฟฟ้าไปเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ จุดผ่านแดนบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว (2 วงจร) และจุดผ่านแดนบ้านหาดเล็ก จ.ตราด ซึ่งหมายความว่าอีก 6 จุดที่เหลือ ทั้งในจังหวัดสุรินทร์ สระแก้ว และจันทบุรี ยังคงมีการรับกระแสไฟฟ้าจากประเทศไทยตามปกติผบ.ทบ.-มทภ.2 ตรวจช่องอานม้าสำหรับบรรยากาศตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า วันที่ 24 มิ.ย. ที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. พร้อมด้วย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารในพื้นที่ของกองกำลังสุรนารีอย่างต่อเนื่อง โดยเดินทางไปตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการในพื้นที่ช่องอานม้า เพื่อติดตามสถานการณ์ พบปะให้กำลังใจ มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ ปัจจุบันทุกหน่วยในกองกำลังสุรนารีเตรียมความพร้อมให้สามารถรองรับต่อสถานการณ์ความขัดแย้งตามแผนเผชิญเหตุ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบกมีการซักซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการปฏิบัติการทางทหาร และการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ กรณีหากต้องใช้กำลังทหารในการปกป้องอธิปไตยพยุงคนป่วยรอเขมรเปิดด่านส่วนที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ บรรยากาศเงียบเหงา เพราะไม่มีนักเรียนชาวกัมพูชาที่ข้ามแดนไปเรียนหนังสือที่ฝั่งประเทศกัมพูชาแต่อย่างใด พบเพียงรถบรรทุกพ่วงเปล่าของไทยติดค้างอยู่ด่านกัมพูชา 13 คัน ขณะเดียวกันมีแรงงานกัมพูชาที่มารับจ้างทำงานที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม 20 กว่าคน ที่บัตรแรงงานหมดอายุ บอเดอร์พาสต์หมดอายุและใกล้หมดอายุ มารวมตัวที่บริเวณข้างทางหน้าตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เพื่อรอไทยประสานกับกัมพูชา ผลักดันเดินทางกลับประเทศ นอกจากนี้ มีผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่นอนรักษาตัวที่ รพ.ฝั่งไทย ประสงค์เดินทางกลับ โดยช่วงเวลา 14.00 น. ผู้ป่วยหลายคน ทั้งป่วยเป็นโรคไทรอยด์ นอนรักษาตัวนานถึง 3 เดือน บางรายเป็นโรคดีซ่าน ตัวเหลือง ต้องพยุงกันมารอการเปิดด่านของฝั่งกัมพูชา ก่อนที่ทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต้องไปเจรจาถึงด้านมนุษยธรรม ท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด จนชาวกัมพูชาต่างบ่นกันอุบ กระทั่งฝ่ายกัมพูชายอมเปิดประตูในเวลา 14.40 น.ให้ชาวกัมพูชาที่ตกค้าง พร้อมด้วยรถสินค้า รถส่งน้ำแข็ง รถยนต์ส่วนบุคคลจากฝั่งไทย ประมาณ 15 คัน กลับเข้าประเทศตัวเองได้ ก่อนปิดประตูรั้วเหล็กในเวลา 15.00 น.ใช้เวลาเปิดปิดประตูเพียง 20 นาทีพระเขมรโผล่ทำพิธีในปราสาทขณะที่ปราสาทตาเมือนธม ต.บ้านตาเมียง อ.พนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ตลอดวัน มีประชาชนจากนอกพื้นที่เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทและมอบอาหารและสิ่งของให้ทหารอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มชาวบ้านกันตรวจระมวล อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กลุ่มวัยรุ่นจากสุพรรณบุรี ฯลฯ นอกจากนี้ มีพระกัมพูชาประมาณ 20 รูป พร้อมคณะ จาก จ.กัมปงชนัม รวมถึงชาวบ้านจากปอยเปต ไม่ต่ำกว่า 30 คน เดินทางมาเที่ยวชม โดยพระกัมพูชาได้เข้าไปทำพิธีไหว้ขอพรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ จากปัญหาที่เกิดขึ้นขอให้สงบสุข และพระชาวกัมพูชาอีกรูปได้เอาลูกอมมาวางไว้ 3 เม็ด พร้อมกับพรมฉีดน้ำหอมภายในที่สักการบูชา ท่ามกลางการดูแลความเรียบร้อยของทหารทั้งสองฝั่ง ทั้งนี้ มีคำยืนยันจากฝ่ายไทยด้วยว่า ทั้งปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย ยังเปิดให้คนไทยและชาวกัมพูชาเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวันในเวลา 09.00-15.00 น.นำเขมรป่วยฉุกเฉินมา รพ.ไทยด้าน จ.สระแก้ว ที่อยู่ในความดูแลของกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 มีจุดผ่านแดนสำคัญ 5 จุด ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อรัญประเทศ มีจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านป่าไร่ อ.คลองหาด ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน และ อ.ตาพระยา ได้แก่ จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ ปรากฏว่าเมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา กองกำลังบูรพาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันประสานงานเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถพยาบาลฉุกเฉินจาก รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ เข้าไปรับผู้ป่วยฉุกเฉินจากฝั่งกัมพูชา เป็นชายชาวกัมพูชา อายุ 31 ปี มีอาการโรคหัวใจกำเริบกะทันหัน โดยมีผู้ติดตามมาด้วย 1 คน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้เร่งประสานงานด้านเอกสารและกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างทันท่วงที ตามมาตรการความร่วมมือทางด้านมนุษยธรรมระหว่างสองประเทศ ซึ่งล่าสุดผู้ป่วยปลอดภัยแล้ว จากนั้นช่วงสายวันที่ 24 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูด่านคลองลึกฝั่งไทย และด่านปอยเปต ฝั่งกัมพูชา เพื่อรับ-ส่งผู้ป่วยเป็นกรณีพิเศษอีก 4 ราย เป็นหญิงไทย 1 ราย มีอาการแท้งบุตร และชาวกัมพูชา 3 รายเปิดประตูให้ นร.ข้ามแดนได้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก แต่ตลอดช่วงเช้า ฝั่งไทยยังเปิดประตูเล็กข้างสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่ออนุโลมให้นักเรียนชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ฝั่งไทย เดินทางออกไปโรงเรียนในฝั่งกัมพูชาได้ตามปกติ และฝั่งกัมพูชาเปิดประตูเล็กฝั่งปอยเปต อนุโลมให้นักเรียนชาวกัมพูชาที่เรียนหนังสือฝั่งไทย เดินทางข้ามมาโรงเรียนได้เช่นกันตามหลักมนุษยธรรมเพื่อการศึกษา ส่วนด่านพรมแดนทั้งสองฝั่งยังปิดประตูเงียบ ไม่อนุญาตให้ยานพาหนะทุกชนิด รวมถึงประชาชนเดินทางผ่านเข้าออกเขมรออหน้าด่านรอกลับบ้านต่อมา พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ได้นำ ตร.ชุดควบคุมฝูงชน สระแก้ว จำนวน 1 กองร้อย ประมาณ 170 นาย มาสนับสนุนการปฏิบัติและดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกบริเวณด่านพรมแดนคลองลึก ร่วมกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จ.สระแก้ว เนื่องจากมีคำสั่งจากกองทัพภาคที่ 1 สั่งห้ามรถทุกชนิดและประชาชนเดินทางผ่านด่านพรมแดนคลองลึก ทำให้มีชาวกัมพูชาที่พักอาศัยอยู่ในฝั่งไทย ยังไม่รู้ว่ามีการปิดด่านชายแดน ได้เดินทางมาเพื่อจะข้ามแดนกลับประเทศ ที่บริเวณด่าน ตม.อรัญประเทศกว่า 50 คน เจ้าหน้าที่ต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวกัมพูชาเหล่านั้นทราบว่า ด่านพรมแดนคลองลึกขณะนี้ระงับการเดินทางผ่านเข้าออกแล้ว ขอให้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับไปก่อน จึงทำให้สถานการณ์ผ่อนคลายลดความตึงเครียดลงกกล.บูรพาเปิดด่านเคลียร์คนตกค้างผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา กกล.บูรพาออกประกาศเรื่องการอนุโลมเปิดผ่านแดนเพื่อรับคนไทย และชาวกัมพูชาที่มีความประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนาเท่านั้น ได้แก่ 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน สามารถเดินทางได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ถึง 20.00 น. 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ สามารถเดินทางได้ตั้งแต่เวลา 17.00-18.00 น. 3.สำหรับรถบรรทุก เฉพาะรถเปล่า และหรือ พร้อมพ่วงเปล่า ที่ติดค้างอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชาเดินทางกลับประเทศไทย บริเวณจุดผ่านแดนถาวรสะพานพานมิตรภาพ ไทย-กัมพูชาบ้านหนองเอี่ยน-สตึงบท ไม่เกิน 30 คัน และจุดผ่านแดนเขาดินไม่เกิน 30 คัน ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น. ทั้งนี้ ภายในวันที่ 24 มิ.ย.เท่านั้น ซึ่งหลังประกาศมีผลบังคับใช้ มีชาวกัมพูชาจำนวนมากหลั่งไหลมายังจุดผ่านแดน หอบหิ้วข้าวของสัมภาระ เตรียม พร้อมเดินทางกลับประเทศด้วยความดีใจและโล่งใจที่ได้กลับบ้านอีกครั้ง ท่ามกลางสายฝนและอากาศร้อน โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจากหลายหน่วยงานมาอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย และจัดระเบียบการเข้าแถว เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความปลอดภัยเร่งหาทางช่วยรถสินค้าไทยส่วนที่จุดผ่านแดนใน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังมีคำสั่งด่วนจากกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ให้ด่านในพื้นที่จันทบุรีและตราดปิดสนิท แต่เว้นให้ผู้ป่วยฉุกเฉินและนักเรียนเดินทางไปเรียนทั้งสองฝั่งเพื่อมนุษยธรรม ทำให้ตลอดเช้าที่ด่านบ้านผักกาดทั้งสองฝั่งเงียบสนิท โดยมีรถบรรทุกสินค้าไทยที่ส่งสินค้าไปแล้วกลับไม่ทัน ตกค้างฝั่งกัมพูชา 12 คัน ในฝั่งไทยมีรถกัมพูชาตกค้าง 1 คัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังหาทางช่วยเหลือ ขณะที่ในช่วงเย็น ที่ด่านถาวรบ้านแหลมมีการเปิดประตูด่านทั้งสองฝั่งเมื่อมีการร้องขอจากผู้ป่วยกัมพูชา เป็นชาย อายุ 40 ปี ที่นายจ้างพามารักษาตัวในฝั่งไทยที่ รพ.ใน จ.ปราจีนบุรี และอาการดีขึ้นจึงขอกลับบ้าน โดยมีนายจ้างนำมาส่งที่ชายแดน และอีกกรณีเป็นการนำร่างชาวกัมพูชาที่เสียชีวิต ที่ จ.สมุทร ปราการ ส่งกลับบ้านเกิด โดยมีญาติชาวกัมพูชามารอรับศพ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลยอมเปิดด่านให้คน-รถข้ามแดนเช่นเดียวกับที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ไม่มีรถบรรทุกสินค้า เข้า-ออก แต่อนุโลมให้เด็กนักเรียนจากฝั่งเกาะกงกัมพูชา ผ่านแดนมาไทยได้ แต่หลังจากที่เด็กเข้าเรียนได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ผู้ปกครองก็แห่รับลูกหลานกลับ เพราะเกรงว่าด่านจะปิดไม่ให้ผ่าน ขณะที่พบรถบรรทุกสินค้าที่ติดค้างอยู่ในฝั่งกัมพูชาประมาณ 40 กว่าคัน และรถของกัมพูชาที่ติดค้างอยู่ชายแดนไทยประมาณ 20 คัน ฝ่ายปกครองและทหารไทย ร่วมเจรจากับเจ้าหน้าที่ด่านจามเยี่ยม นานกว่า 2 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปร่วมกัน ทำการเปิดด่านทั้งสองฝ่ายให้รถที่ตกค้างได้เดินทางกลับเข้าพื้นที่ ส่วนแรงงานกัมพูชาหลายสิบคนที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศ ได้ขนสิ่งของเครื่องใช้รีบเดินทางเข้าประเทศทันที ขณะที่ด่านเนินสี่ร้อย อ.บ่อไร่ นายอำเภอบ่อไร่ได้ร่วมประชุมพูดคุยทำความเข้าใจกับทหารฝั่งกัมพูชา พร้อมมีการฝากฝังให้ดูแลพลเมืองของแต่ละฝ่ายที่ยังตกค้างอยู่เพราะด่านปิด โดยที่ด่าน ตม.บ้านเนินสี่ร้อย มีชาวกัมพูชาติดค้างรอข้ามแดน 20-30 รายจัดชุมนุมแสดงพลังรักชาติไทยสำหรับความเคลื่อนไหวการจัดชุมนุมใหญ่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 14.00 น.ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต สว. ฯลฯ ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมจัดกิจกรรม “ความรักชาติไทย” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เกาะพญาไท และบริเวณเกาะกลางอนุสาวรีย์ ว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เป็นการรวมตัวอย่างสงบเพื่อแสดงพลังของประชาชน มีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนพลังบริสุทธิ์ของประชาชน เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงที่ถูกกล่าวอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจโดยมิชอบ ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง และเพื่อให้กำลังใจทหารไทยไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในการปกป้องประเทศ ไม่มีเจตนาเรียกร้องรัฐประหาร ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น.โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดีรณรงค์ร่วมกิจกรรมทั่วประเทศเหล่าแกนนำการชุมนุมยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 26 มิ.ย.จะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ทั่วประเทศ โดยขอให้ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม แสดงตัวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง เพื่อแสดงเจตจำนงและสัญลักษณ์ว่าต้องการเข้าร่วมกิจกรรมและจะได้เป็นการนับจำนวนของผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ด้วย พร้อมย้ำว่าการรณรงค์ในจังหวัดต่างๆ สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการแสดงพลังในพื้นที่ ด้วยการติดธงชาติที่หน้าบ้าน หรือสติกเกอร์ธงชาติไทยที่รถยนต์ และเชิญชวนประชาชนในต่างจังหวัดร่วมจัดกิจกรรมด้วยการร่วมกันเคารพธงชาติ ณ ศาลากลางจังหวัดหรือพื้นที่สำคัญของแต่ละจังหวัดคาดผู้ร่วมชุมนุมราว 3 พันต่อมาที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ประชุมร่วมกับ ผบก.น.1 2 และ 5 ผบก.สส.บช.น. หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน และกองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อวางมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยเกี่ยวกับการชุมนุมใหญ่ของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. เผยภายหลังการประชุมว่า เบื้องต้นประเมินมวลชนที่จะมาชุมนุมราว 3,000 คน แต่เชื่อว่าอาจมีมากกว่านี้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ตำรวจต้องเตรียมความพร้อมรับมือและจัดการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง ไม่ให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดสะสม ดังนั้น ทาง บช.น.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเริ่มประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยงให้ประชาชนทราบตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งเส้นทางเลี่ยงเข้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สถานที่จัดการชุมนุม รวมถึงเส้นทางเลี่ยงที่เข้า กทม.ในทุกทิศทาง รวมถึงการจัดช่องทางพิเศษสำหรับรถพยาบาลรับส่งผู้ป่วยโดยรอบพื้นที่การชุมนุมด้วย ส่วนการข่าวด้านความปลอดภัย ยังไม่พบการข่าวกลุ่มมือที่ 3 หรือกลุ่มที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวาย แต่ตำรวจไม่ประมาท รวมถึงจับตาชาวกัมพูชาที่อาจเข้ามาร่วมชุมนุมเพื่อความปลอดภัย แต่ในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่