ทีมข่าว “SEE TRUE”...“ไทยรัฐทีวี 32” ภารกิจสืบสวนสอบสวนเปิดโปงเครือข่าย “ทุนจีนศูนย์เหรียญ” ที่ค่อยๆคืบคลานเข้ายึดครองเศรษฐกิจไทยอย่างเงียบๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ชลบุรีและระยอง ซึ่งปัจจุบันหลายจุดแทบแยกไม่ออกว่าเป็น “เมืองไทย” หรือ “เมืองจีน”ทีมงานได้ลงพื้นที่สำรวจร้านอาหาร อพาร์ตเมนต์ สถานบันเทิง และศูนย์ค้าส่ง พบว่าหลายธุรกิจดำเนินการโดยกลุ่มทุนจีน มีการนำเข้าแรงงาน วัตถุดิบ และสินค้าแบบครบวงจร ใช้ระบบชำระเงินผ่าน Alipay ซึ่งทำให้เงินหมุนเวียนกลับประเทศจีนโดยตรง แทบไม่ตกถึงระบบเศรษฐกิจไทยสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ ว่า เวลาคนจีนมาลงทุนในไทย เราได้แค่ตัวเลข แต่ไม่มีการหมุนเวียนเศรษฐกิจในชุมชนจริงๆ เพราะจีนขนทั้งคนและของมาเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ตั้งแต่ปลั๊กไฟยันไม้กวาด ไม่ซื้อของคนไทยเลย ปัญหาเดิมอย่างทัวร์ศูนย์เหรียญยังแก้ไม่ได้ มาเจอปัญหาโรงงานศูนย์เหรียญอีก ซึ่งอันตรายยิ่งกว่ามาก...“จุดเริ่มต้นของการไหลทะลักของทุนจีนเข้าสู่ไทยเกิดจากนโยบายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าจีน ส่งผลให้จีนต้องหาฐานผลิตใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก” ทีมงาน SEE TRUE ลงพื้นที่ย่านอมตะซิตี้ และแนวรอยต่อชลบุรี-ระยอง พบอีกว่า มีธุรกิจของคนจีนจำนวนมากตั้งอยู่ไม่ว่าจะเป็นอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ร้านอาหาร ธนาคาร มินิมาร์ท หรือสถานบันเทิงคาราโอเกะ KTV โดยทั้งหมดใช้ป้ายภาษาจีน ใช้แรงงานจีน และให้บริการเป็นภาษาจีนเกือบทั้งหมดลูกค้าหลักคือชาวจีน ทั้งเมนูอาหาร เกม สาวนั่งดริงก์ที่จัดหาให้ถึงห้อง...แม้แต่ในอพาร์ตเมนต์ พนักงานก็สื่อสารด้วยภาษาไทยสำเนียงจีน ร้านอาหารท้องถิ่นและสถานบันเทิงมีแต่เมนูภาษาจีน และไม่รองรับลูกค้าคนไทยเลยนอกจากนี้ ย่านประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ซึ่งเคยเป็นแหล่งค้าขายของคนไทยก็กำลังถูกทุนจีนเข้าครอบครองอย่างต่อเนื่อง ร้านอาหาร ร้านค้า และธุรกิจบริการต่างเสนอค่าเช่าที่สูงกว่าคนไทยถึง 10 เท่า ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยทยอยปิดกิจการ ถูกแทนที่ด้วยทุนจีนรายใหม่ในลักษณะหมุนเวียนและ...ยังขยายสู่พื้นที่ใกล้เคียงอย่างศูนย์วัฒนธรรม และ RCAสหัสวัต บอกอีกว่า คนจีนไม่สามารถเข้ามาเป็นแรงงานภาคอุตสาหกรรมได้ เพราะเป็นอาชีพสงวนของคนไทยและให้แรงงาน 3 สัญชาติตาม MOU คือกัมพูชา เมียนมา ลาว จีนเป็นแรงงานทักษะสูงตาม BOI เท่านั้นแต่ในความเป็นจริงกลับพบว่ามีแรงงานจีนจำนวนมากทำงานในโรงงานและกิจการต่างๆอย่างผิดประเภท ขณะเดียวกันการขยายตัวของทุนจีนในภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างเงียบๆโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ที่กำลังกลายเป็นเป้าหมายของ “กลุ่มทุนจีนศูนย์เหรียญ”...ที่ลักลอบตั้งโรงงานนอกนิคมอุตสาหกรรม สร้างมลพิษในชุมชนโดยไม่แยแสกฎหมาย หนึ่งในกรณีชัดเจนคือโรงงานหลอมโลหะใน ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่พบว่ามีการปล่อยกลิ่นเหม็นและฝุ่นละอองโดยไม่ได้ติดตั้งระบบบำบัดมลพิษ ทั้งยังตั้งอยู่ติดวัดและบ้านเรือนประชาชน แต่กลับไม่มีมาตรการใดๆรองรับ และยังไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรงงานแม้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีจะมีคำสั่งปิดกิจการและผนึกเครื่องจักรแล้ว แต่การลงพื้นที่พบว่าโรงงานยังคงลักลอบเปิดทำการอยู่ โดยใช้แรงงานเมียนมาเป็นหลัก เจ้าหน้าที่บางคน ยอมรับว่า...“โรงงานเหมือนจะปิดไปแล้ว แต่ก็ยังมีการดำเนินกิจกรรมภายในอยู่” เบื้องหลังของโรงงานแห่งนี้มีนักธุรกิจจีนอักษรย่อ “ส.” ถูกระบุว่าเป็นนายทุนรายใหญ่ และกำลังเตรียมสร้างโรงงานแห่งใหม่บนพื้นที่กว่า 70 ไร่ใน ต.บ่อกวางทอง อ.บ่อทอง แม้จะถูกชาวบ้านคัดค้านและมีคำสั่งระงับจากหน่วยงานรัฐแล้วก็ตาม...น่าสนใจว่านอกจากการตั้งโรงงานเถื่อน กลุ่มทุนจีนยังใช้นอมินีคนไทยในการจดทะเบียนบริษัท ขออนุญาตประกอบกิจการ และบางกรณีถึงขั้นแต่งงานกับหญิงไทยเพื่ออำพรางตัวตนเพื่อกว้านซื้อที่ดินและสร้างโรงงานนอกพื้นที่ควบคุมของนิคมอุตสาหกรรมแม้ว่า “ภาครัฐ” จะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับปัญหานี้ผ่าน “สมุทรสาครโมเดล” ซึ่งเป็นแนวทางตรวจสอบและจัดระเบียบโรงงานเถื่อนในพื้นที่ที่พบผู้ประกอบการผิดกฎหมายมากกว่า 5,000 ราย โดยเฉพาะในกลุ่มโรงงานหลอมที่ไม่มีระบบบำบัด แต่ทว่า...แนวทางนี้ยังไม่ได้ขยายผลสู่จังหวัดอื่นซ้ำร้ายไปกว่านั้น...ทุนจีนยังลุกลามสู่ภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะการกว้านซื้อสวนทุเรียนในภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ระยอง และตราด ผ่านการใช้นอมินีและบัตรประชาชนคนไทยแบบผิดกฎหมาย พบว่าทุนจีนควบคุมระบบส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ทั้งครอบครองสวนทุเรียน คุมล้งรับซื้อและ...มีอิทธิพลต่อด่านตรวจสาร BY2 ที่ใช้ตรวจคุณภาพทุเรียนก่อนส่งออกชาวสวนทุเรียนกว่า 1,000 คนได้รวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้เร่งแก้ปัญหาเนื่องจากการตรวจสาร BY2 ของจีนทำให้ทุเรียนไทยถูกตีกลับบ่อยครั้ง ขณะที่ทุนจีนซึ่งควบคุมทั้งระบบสามารถผ่านด่านตรวจได้ง่ายกว่า ทั้งยังพบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและอ่างเก็บน้ำเพื่อปลูกทุเรียนในหลายพื้นที่ เช่น อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี และอ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง จ.ตราด แม้กรมป่าไม้และกรมชลประทานจะสั่งระงับและตรวจสอบ แต่ยังไม่มีการดำเนินการที่เด็ดขาด ทำให้การบุกรุกยังดำเนินต่อไปชาวบ้านและหน่วยงานภาคประชาชนชี้ว่าการเข้ามาของทุนจีนศูนย์เหรียญกำลังทำให้เกษตรกรไทยเสียเปรียบ ทั้งในเรื่องที่ดิน แรงงาน และราคาสินค้า ซึ่งถูกควบคุมโดยกลุ่มทุนต่างชาติแทบทั้งหมด กรณี...“ทุนจีนศูนย์เหรียญ” สะท้อนช่องโหว่ทั้งในด้านกฎหมาย การบังคับใช้ และความหละหลวมของระบบราชการไทย หากไม่มีมาตรการจัดการอย่างจริงจังและเด็ดขาด “ประเทศไทย”...อาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างถาวรโดยที่ “ประชาชนไทย” เป็นเพียง “ผู้ชม” ในประเทศของตนเอง­­­­­­­­­.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม