ส่งท้ายเวทีงบฯปี 69 ร้อนฉ่า “ชาดา” อัดจัดงบฯถ่างช่องว่างคนจนคนรวย ประเคนงบฯก่อสร้างไหลเข้าแต่กลุ่มทุน ยุแจกเงินดิจิทัลฯ ไม่งั้น “นายกฯเท้ง”มาแน่ “ไชยชนก” ยกผลงาน ภท.ยืนข้างประชาชนลุยรับมือช่วยภัยพิบัติไม่เลือกข้าง ไม่แบ่งสี ขิงใส่ “อิ๊งค์-พท.” ลั่นพวกเราทำแล้ว พวกท่านทำแล้วหรือยัง “ไหม” รู้ทันเบรกอย่าลาก ปชน.เป็นตัวประกันศึก 2 พรรค ลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 วาระแรกผ่านฉลุย 322 ต่อ 158 คะแนน “ภท.-งูเห่า” มาครบไร้แตกแถว “อิ๊งค์-หนู” นั่งเคียงคู่ซุบซิบระหว่างลงมติ “อนุทิน” ยันไม่น้อยใจนายใหญ่ออกปากทวงมหาดไทย แค่ไปลานายกฯบินไปประชุมที่เจนีวา “แพทองธาร” บอก พท.ถ้าจะปรับ ครม.เดี๋ยวคุยเอง ออกตัวยังไม่ประเมินผลงาน มท. แย้มสลับกระทรวงทุกอย่างเป็นไปได้ ทำขึงขัง “ทักษิณ” ครอบงำไม่ได้อยู่แล้ว แค่พ่อให้คำปรึกษาลูกสาวรับไว้พิจารณาหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวงคืนกระทรวงมหาดไทยไปให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ดูแลเอง ทำให้เสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาลถูกจับตามอง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยืนยันไม่น้อยใจ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯก็บอกว่าไม่มีอะไร“อนุทิน” ไม่น้อยใจทำงานมาตลอดเมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 31 พ.ค.ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เข้ารัฐสภาเพื่อโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 โดยพยายามเลี่ยงไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “ปวดท้อง” แต่สื่อตามถามถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯส่งสัญญาณเสนอให้ปรับ ครม.ทวงคืนกระทรวงมหาดไทย มาให้พรรคเพื่อไทย (พท.) ดูเอง เนื่องจากทำงานได้ไม่เต็มที่ นายอนุทินเดินไปที่ลิฟต์ก่อนหันมาตอบว่าวันที่ 1 มิ.ย.ไปเรื่องน้ำท่วมที่ จ.อ่างทอง ที่ผ่านมาทำงานทั้งจับบุหรี่เถื่อนและเรื่องงานอื่นๆด้วย ไม่เชื่อไปดูข่าวต่างๆได้ เมื่อถามว่านายทักษิณพูดจะยึดกระทรวงมหาดไทยทำได้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่านายกฯบอกว่าไม่มีอะไร เดี๋ยวให้ลองถามท่านนายกฯดู ยังไม่มีอะไร ยังไม่มีการพูดคุยกันเลย ยังไม่คุยกับนายกฯเลย และนายกฯบอกว่าไม่มีอะไร เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ต้องคุยกับท่านนายกฯสิครับ” เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ นายอนุทินยิ้มหันมายกมือบอกว่า “โถ ผมหัวล้านหรือเปล่า” “พิพัฒน์” ชี้ถูกทวง มท.ไม่บั่นทอน ภท.นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงานและแกนนำพรรค ภท.กล่าวถึงการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 ว่า เชื่อว่าพรรค ภท.โหวตรับหลักการให้ทั้งพรรค แต่ต้องรอหัวหน้าพรรค ภท.แต่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลโดยมารยาทต้องโหวต ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่โหวต กรณีนายทักษิณทวงคืนกระทรวงมหาดไทย ไม่บั่นทอนการทำงานของพรรคร่วมฯ เราเป็นส่วนหนึ่งของพรรคร่วมฯ กระทรวงที่พวกเราดูแลได้รับงบฯเช่นกัน โดยมารยาทเรื่องงบฯเราต้องโหวตให้รัฐบาล แต่ส่วนอื่นไม่ขอพูดถึงเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ และยังไม่ได้เจอหรือพูดคุยหัวหน้าพรรค“นายกฯอิ๊งค์” เจ็บคองดตอบสื่อขณะที่เมื่อเวลา 14.45 น. ที่รัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องมีการเช็กเสียงก่อนที่จะลงมติหรือไม่ นายกฯปฏิเสธตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกครั้งจนนายกฯหันมาชี้ที่คอตัวเองก่อนบอกว่า “เจ็บคอ” เดินขึ้นห้องประชุมทันที“ธรรมนัส” ขยี้งานหลวมต้องขันให้แน่นร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดเหมือนอยากให้ปรับ ครม.ว่า การเมืองเหมือนเรื่องทั่วๆไป เมื่อมันหลวมก็ขันให้มันแน่นหน่อย เรื่องประเทศชาติบ้านเมือง มันไม่ควรจะหลวม ควรจะขันให้แน่นอยู่ตลอดเวลา แต่กระทรวงไหนยังหลวมอยู่บ้าง ไม่สามารถไปวิเคราะห์หรือวิจารณ์ได้ ประชาชนเห็นเอง ที่นายทักษิณระบุกระทรวงมหาดไทยยังทำงานไม่เต็มที่ ตนไม่มีสิทธิ์ไปวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น ก้าวล่วงคนอื่น แต่เชื่อว่าท้ายสุดจบด้วยการคุยกัน การเมืองต้องคุยกันถ้าไม่จบด้วยการเมือง มันจะจบด้วยกัน มันจะยุ่ง บรรยากาศเวลานี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร พรรคร่วมฯคุยกันปกติอยู่แล้ว นายกฯไม่มีการเรียกไปคุยเรื่องปรับ ครม.ส่วนใหญ่คุยกับเพื่อนๆพรรคร่วมฯแนะประมาณตัวเองอย่ายึดหัวโขนเมื่อถามว่า 2 ปีที่เหลือถึงเวลาต้องปรับเปลี่ยนแล้วหรือยัง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การเข้าสู่เวทีการเมือง เราอย่าไปยึดติด ถ้ายึดติดแล้วพอปรับเปลี่ยนมันจะเป็นปัญหา สิ่งสำคัญอย่าไปยึดติดเด็ดขาด ต้องประมาณตัวเองตลอดเวลาว่าเราทำงานตอบโจทย์หรือไม่ เป็นประโยชน์กับประชาชน ประเทศชาติหรือไม่ หลักการทั่วไปการเป็นนักการเมืองอย่ายึดติด บางครั้งบางคนบางท่าน หัวโขนที่เขาสวมให้ไปยึดติดมากเกินไป ไม่ดูตัวเอง มันไปไม่รอด ที่พูดไม่ได้หมายถึงใคร เมื่อถามว่า ตอนนี้ได้คุยกับนายทักษิณบ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า คุยกันตลอด“พิชัย” บอกเร่งปั่นผลงานอยู่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯชี้กระทรวงการคลังเป็น 1 ใน 4 กระทรวงหัวใจหลักที่จะดึงคะแนนนิยมกลับมาทำให้ชนะเลือกตั้งครั้งหน้าได้จากนี้ต้องปรับตัวอะไรหรือไม่ว่า ยังไม่ได้ดูการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว เพราะนั่งเตรียมแต่งาน ปรับตลอดเวลา รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง เมื่อถามว่า ระยะเวลาที่เหลือ 2 ปีจะเพียงพอกับการเรียกคะแนนนิยมกลับมาได้หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า พยายามทำอยู่ ที่ผ่านมาทำได้ปีนึงแล้ว เมื่อถามว่า กรณีดิจิทัลเฟส 3 ต้องชะลอไปจะทำให้การหาเสียงยากขึ้นหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า มันมีเหตุผลของมันอยู่ เราสามารถอธิบายได้ปชน.เฉ่งจัดงบแก้ที่ทำกินผิดทางผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระแรก เป็นวันที่ 4 ช่วงเช้าเงียบเหงา ประตูหน้าอาคารรัฐสภาทางเข้าหลักแทบไม่มีรัฐมนตรีมาร่วมประชุม ต่อมาเวลา 09.00 น. จึงเริ่มการประชุม มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ประธานที่ประชุม โดยนายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า งบแก้ไขที่ทำกินของกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พบตั้งงบรวมกัน 692 ล้านบาท ถือว่ามาก แต่เป็นกิจกรรมแก้ไขที่ดินทำกินเพียง 34% อีก 66% ไปทำกิจกรรมอื่น ปัญหาที่ดินทับซ้อนจะแก้ไขได้ง่าย หากทำแผนที่วันแม็ป พัฒนาเครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย อยากให้ใช้งบ 692 ล้านบาทในภารกิจที่จำเป็นจริงๆ เร่งจัดทำบัญชีและแผนที่แนวเขตทั้งรายบุคคลและชุมชนให้เสร็จ ตัดกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปเพราะสิ้นเปลืองใช้งบฯเซฟตี้แรงงานไปสร้างตึกนายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาสินค้าแพงขึ้นทุกอย่าง แต่ค่าจ้างขั้นต่ำปรับขึ้นช้าเป็นเต่าย่อง ต่ำสุดอยู่ที่ 337 บาท ทั้งที่ รมว.แรงงานบอกจะปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่กระทรวงแรงงานกล้าของบเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้น ขณะที่ความปลอดภัยผู้ใช้แรงงานมีจำนวนอุบัติเหตุของผู้ใช้แรงงานเพิ่มขึ้นทุกวัน ปี 2565 มีผู้ประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน 76,000 คน ปี 2566 เพิ่มเป็น 81,000 คน และปี 2567 มี 87,000 คน รวม 3 ปี มีแรงงานบาดเจ็บ 2.5 แสนคน ปีนี้ของบโครงการความปลอดภัยและชีวอนามัยประเทศไทย 100 ล้านบาท ดูเหมือนให้ความสำคัญความปลอดภัยป้องกันอุบัติเหตุการทำงาน แต่เป็นงบดำเนินการแค่ 31 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงบสร้างตึก 50 ล้านบาท และที่เหลือไปซื้อลิฟต์ กับรถอีก 5 คัน จะช่วยลดอุบัติเหตุอย่างไร ขณะเดียวกัน ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้างกรณีถูกเลิกจ้างได้ ข้อมูลกรมสวัสดิการและคุ้มแรงงาน ปี 2562-2567 มีลูกจ้างไม่ได้รับเงินตามคำสั่งเจ้าพนักงานตรวจแรงงาน 43,000 คน เป็นเงิน 2,800 ล้านบาท ปล่อยนายจ้างกินหรู อยู่สบาย แต่ปล่อยแรงงานถูกละเมิด จัดงบแบบน่าสังเวชถลุงเงินพัฒนาทักษะไปซื้อคอมฯนายเซียกล่าวว่า ส่วนงบพัฒนาทักษะแรงงานนอกระบบ 260 ล้านบาท ได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 160 ล้านบาท แต่เป็นโครงการเดิมๆ อบรมอาชีพแบบเบี้ยหัวแตก อบรมเสร็จก็แจกของ งบที่ได้เพิ่มขึ้น ไม่เอาไปพัฒนาฝีมือแรงงาน แต่ไปซื้อคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน 83 ล้านบาท พัฒนาระบบบริหารจัดการกลางด้วยปัญญาประดิษฐ์ 74 ล้านบาท ส่วนสวัสดิการผู้พิการ กฎหมายกำหนดให้หน่วยงานรัฐที่มีผู้ปฏิบัติงาน 100 คนขึ้นไป รับคนพิการเข้าทำงานในอัตรา 100 คน ต่อ 1 คน แต่หน่วยงานรัฐไม่ทำตามกฎหมาย ปี 2567 หน่วยงานรัฐจ้างงานคนพิการเพียง 3,600 คน จากสัดส่วนที่ต้องรับคนพิการ 18,000 ตำแหน่ง จัดงบโครงการส่งเสริมคนพิการทำงานในหน่วยงานภาครัฐ แค่ 3.6 แสนบาท เท่ากับจ้างคนพิการได้ 2 คน หรือโครงการส่งเสริมสวัสดิการเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเกษียณอย่างมีคุณภาพของประชากรวัยแรงงาน ได้งบ 2 ล้านบาท ก็เอาไปจัดอบรม นำแรงงานมานั่งฟังเทศนา เกษียณแล้วจะทำตัวอย่างไร ไม่ให้เป็นภาระครอบครัว ไม่แน่ใจใครควรไปอบรมระหว่างคนทำงานปากกัดตีนถีบหรือรัฐบาลที่จัดงบไม่มีน้ำยาฉะปรสิตสูบประกันสังคมห่วงจะเจ๊งนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรค ปชน.อภิปรายว่า มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกว่ากองทุนประกันสังคมจะเจ๊งใน 20-30 ปี ทำให้คนที่อายุ 30 ปี ทำงานส่งประกันสังคมจะไม่ได้สิทธิรักษาพยาบาลจากประกันสังคม เกษียณไม่ได้บำนาญ รัฐบาลยังเหลือเงินค้างจ่ายประกันสังคมอยู่ 5.6 หมื่นล้านบาท 3 ฝ่ายร่วมสมทบ ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายคนละ 5% แต่รัฐจ่ายเพียง 2.75% จ่ายน้อยที่สุด เอาเปรียบแต่ต้นแล้วไม่พอ ยังมาค้างจ่ายไม่มีค่าปรับ ส่วนความโปร่งใสกองทุนฯ ต้องกู้คืนความเชื่อมั่นการบริหารกองทุนอย่างโปร่งใส ต้องตรวจสอบได้ แค่เปิดข้อมูลไม่เข้าใจยากอะไร หรือกลัวคนรู้ว่าจะเจ๊งเพราะมีคนหากินในกองทุน ใช้เงินบริหารจากเงินสมทบผู้ประกันตน ทำปฏิทินปีละ 50 กว่าล้านบาท ที่ผู้ประกันตนส่วนใหญ่ไม่มีใครได้ ไม่รู้แจกทำไม หรือซื้อรถหรูเขียนโครงการสวยหรู เป็นรถสนับสนุนภารกิจกระทรวงแรงงาน แต่ที่จริงเอารถไปใช้ประจำตำแหน่ง เปลี่ยนรถกันทุก 2 ปี พอรถปลดประจำการนำไปบริจาควัด เจ้าอาวาสยังไม่รู้ว่ามีรถเข้าวัด บริหารแบบนี้ไม่เจ๊งก็แปลก ถ้าตัดใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายจะขยายสิทธิเหล่านี้ได้ถึงไหนต่อไหน ต้องปฏิรูปการใช้เงินของสำนักงานประกันสังคม ปิดช่องไม่ให้มีพวกปรสิตมาโกงกิน สูบเงินพวกเราปัดซอฟต์พาวเวอร์คิดใหญ่ทำมั่วน.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงกรณีฝ่ายค้านอภิปรายโครงการซอฟต์พาวเวอร์มีภาพจำแค่กางเกงช้าง ว่า การสร้างการรับรู้โครงการซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลต่อประชาชน และต่างประเทศ ไม่ได้จำกัดแค่กางเกงช้างอย่างที่ถูกเสียดสี อย่างการจัดอีเวนต์ซอฟต์พาวเวอร์ในเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา จำเป็นต้องลงทุนเรื่องนี้ เพื่อช่วยยกระดับประเทศไทยให้เป็นที่จดจำของต่างประเทศ ดึงดูดคนมาร่วมงาน สามารถสร้างเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจได้ 4,000 ล้านบาท ในเวลา 5 วัน แสดงว่า การลงทุนซอฟต์พาวเวอร์ไม่สูญเปล่า อย่ามองแค่งบที่ใช้ลงทุนอย่างเดียว ให้มองผลทางเศรษฐกิจที่ตามมาด้วย เรื่องนโยบายซอฟต์พาวเวอร์นั้น หลายประเทศเดินทางมาหารือความร่วมมือเรื่องซอฟต์พาวเวอร์กับประเทศไทย และซอฟต์พาวเวอร์ไทยก็ไปปักธงในต่างประเทศ ขอให้เปิดหู เปิดตา เปิดใจ อย่าแค่เป็นฝ่ายค้านแล้วค้านทุกเรื่อง การผลักดันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ แม้ไม่เห็นผลทันที ต้องใช้เวลา แต่วันนี้เราเริ่มลงมือทำแล้ว นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไม่ได้คิดใหญ่ ทำโคตรมั่วอย่างที่กล่าวหา แต่เราคิดใหญ่ลงมือทำ ไม่ใช่คิดเล็กคิดน้อย แต่ไม่ลงมือทำแจงกระจายงบน้ำทั่วถึงไม่เลือกพื้นที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงกรณีงบประมาณบริหารจัดการน้ำที่ถูกมองกระจายงบลงไปพื้นที่เฉพาะ สส.ฝั่งรัฐบาลว่า ในฐานะประธานกรรมการนโยบายน้ำแห่งชาติ (กนช.) ยืนยันว่า การกระจายงบประมาณบริหารจัดการน้ำทำอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ตามความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ได้คำนึงถึงพื้นที่การเป็น สส.ตามที่ฝ่ายค้านอภิปราย ในภาคอีสานเป็นพื้นที่ใหญ่ รายได้ประชาชนน้อย ภาคการเกษตรจึงเป็นพื้นที่ต้องให้ความสำคัญกว่าภาคอื่น จริงอยู่แม้พรรคเพื่อไทยมี สส.ในพื้นที่นี้มาก แต่พื้นที่ สส.พรรคประชาชน อยู่ในเขตเมืองหรือรอบ กทม. จึงต้องแก้ไขเรื่องปัญหาอุทกภัย ส่วนเรื่องภัยแล้งอาจมีความจำเป็นน้อยลง ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญ กระจายงบทั่วถึงเป็นธรรม ส่วนการใช้งบกลางแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำ แทนการใช้งบปกติ ปัจจุบันมีปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้งบกลางมีความจำเป็น เพราะเป็นการแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที เช่น การขุดลอกหนองบึงจำเป็นต้องทำให้เสร็จในกรอบเวลา 120 วัน ส่วนการซอยงบประมาณในงบกลางไม่ให้เกิน 5 แสนบาทต่อโครงการนั้น เนื่องจากการใช้งบกลาง มีจุดมุ่งหมายแก้ไขปัญหาทันท่วงทีในกรอบ 120 วัน ในโครงการที่ต้องดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ส่วนการใช้งบปกติใช้แก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาวเสนอคุมเข้มทำบัญชีรายรับ-จ่ายวัดนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา พรรค ปชน.อภิปรายงบฯสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ว่า วัดกลายเป็นแหล่งทำความผิดเกี่ยวกับเงิน ไม่มีการตรวจสอบเงินบริจาค การเช่าวัตถุมงคล ไม่มีการดูแลดีพอเรื่องบัญชี เจ้าอาวาส พระ กรรมการวัดไม่ได้ถนัดทำบัญชี รายรับรายจ่ายวัดเป็นเพียงบัญชีที่บันทึกไว้ พอสิ้นสุดปีบอกแค่ยอดรวมๆ ไม่ชัดเจน เป็นจุดเสี่ยงที่วัดถูกใช้เป็นเครื่องมือทำความผิด หาก พศ.ปล่อยวัดเป็นเช่นนี้ คงไม่มีใครทำบุญอีก ขอเสนอแนวทางทำบัญชีเงินวัดคือ 1.ให้ พศ.ทำบัญชีบันทึกรายรับรายจ่ายทุกวัดให้มีมาตรฐานแบบเดียวกัน 2.วัดต้องนำส่งบัญชีให้ พศ.จังหวัดทุก 1 เดือน ติดประกาศให้สาธุชนตรวจสอบได้ 3.ให้ พศ.จังหวัดตรวจสอบการทำบัญชีทุกวัดในเขตพื้นที่ บัญชีวัดต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ ตรงวัตถุประสงค์ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯชี้แจงว่า กรณีปัญหาวัดไร่ขิง มีที่ดินมาก ให้เช่าที่ราคาค่อนข้างแพง มีรายได้มาก แต่ไม่ทำบัญชีเป็นทางการให้ตรวจสอบ แม้จะมีกฎกระทรวงต้องส่งบัญชีให้ พศ.ดู แต่ไม่ได้ดำเนินการจริงจัง ได้คุยพระผู้ใหญ่หลายรูปพบว่าไม่มีการบริหารจัดการที่ดี จึงต้องมีกลไกมาตรการป้องกัน ไม่ให้มีบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา พศ.ไม่มีอำนาจบังคับบัญชาได้โดยตรง เพราะมีกฎระเบียบ กฎหมายคณะสงฆ์กำกับดูแลอยู่ หน้าที่ พศ.แค่ประสานให้กิจการพุทธศาสนาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย“ชวน” ฉะงาบงบฯซ่อมบำรุงจน ฮ. ตกนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายถึงกรณีเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์กองบินตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ประสบอุบัติเหตุตกที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ในรอบ 1 เดือน มีผู้เสียชีวิตที่เป็นนายตำรวจมือชั้นเยี่ยมถึง 9 ราย สถานภาพของกองบินตำรวจมีโอกาสจะเกิดเหตุขึ้นอีก ตร.มีเฮลิคอปเตอร์ 71 ลำ ใช้การได้ 24 ลำ อยู่ระหว่างซ่อมแซม 27 ลำ รอปลดประจำการ 20 ลำ 1 ใน 24 ลำ ที่ใช้การได้เป็นเครื่องที่ตก เกิดจากเครื่องมือไม่มีคุณภาพ ไม่ควรเกิดขึ้น น่าเสียดายที่สุด งบฯซ่อมบำรุงของกองบินตำรวจในงบฯ ตร.ปี 69 ตั้งไว้ 950 ล้านบาทเหมือนปี 68 มีข้อคิดจากนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ทำงานด้านนี้บอกขอให้จัดงบฯให้พอในการซ่อมบำรุง การหาผลประโยชน์จากการซ่อมบำรุง มีพูดถึงขนาดว่าหน่วยงานอื่นด้านความมั่นคงอาจมีการทุจริต แต่งบฯซ่อมบำรุงเขาจะไม่ยุ่ง แต่ ตร.เอาไม่เลือกเป็นข้อครหานักบินรู้ตัวเครื่องใช้การไม่ได้“สิ่งที่ควรป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก ต้องดูสถานภาพเฮลิคอปเตอร์ 24 ลำ ที่ใช้งานอยู่มีสภาพเป็นอย่างลำที่ตกเมื่อวันที่ 24 พ.ค.หรือไม่ ฮ.ลำที่ตกมีเพื่อนส่งข้อความมาหาว่าเครื่องอยู่ในสภาพใช้การไม่ได้ จึงโทร.ไปหาคนที่ส่งข้อความมาหา เขาบอกว่าคืนวันที่ 23 พ.ค.ก่อนวันบิน เขาอยู่ด้วยกันกับนักบิน คิดว่านักบินเขารู้ว่าเครื่องอยู่ในสภาพที่ใช้ไม่ได้ แต่ ตร.ปล่อยเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่อยากตำหนิ แต่ขอให้เป็นตัวอย่างทบทวน ไม่ให้เกิดการสูญเสียบุคคลที่เป็นกำลังสำคัญของ ตร. และบ้านเมืองมากไปกว่านี้อีก พวกเราที่ไปอยู่ใน กมธ.วิสามัญฯคงช่วยดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ และจะส่งเรื่องนี้ให้ กมธ.การตำรวจไปหารือในชั้น กมธ.ต่อไป” นายชวนกล่าว“ชาดา” อัดงบฯถ่างช่องว่างคนรวยจนกระทั่งเวลา 13.10 น. การอภิปรายเริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภท.วิจารณ์หลายประเด็น เช่น ปัญหาช่องว่างคนจนกับคนรวยในประเทศห่างขึ้นทุกวัน ปีนี้งบฯลงทุน 7 แสนล้านบาท เป็นงบฯก่อสร้างประมาณ 4.75 แสนล้านบาท การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบฯก่อสร้างไม่เหมือนอดีต งบลงทุนแบงก์เอาไปเกือบ 10% ธปท.ด้วยต้องเข้ามาดู มันเอาเปรียบประชาชน โครงการก่อสร้างต่างๆ มีแรงงานเพียง 15% ไม่ได้ไปสู่ระบบ ข้างล่าง มันไปสู่ชนชั้นกลางกับข้างบน ทำให้เกิดช่องว่างคนจนกับคนรวยมากขึ้น งบฯรัฐหลายสิบปี รัฐบาลชุดไหนก็โครงสร้างงบฯเหมือนกันหมด กลุ่มทุนเอาไปเสียมาก แบงก์เอาไปเสียหมด ไม่มีคำว่าขาดทุน สิ่งสำคัญการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่เฉพาะโครงการก่อสร้างอย่างเดียว มีเรื่องการพัฒนาแรงงาน ฝากรัฐบาลด้วย ทำให้มันไปถึงจี้แจกเงินหมื่นไม่งั้นนายกฯเท้งมาแน่“เมื่อก่อนไม่เห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาทของพรรค พท. แต่ปัจจุบันนี้เห็นด้วย ฝากไปถึงท่านนายกฯ ต้องแจกครับ เงินมี ใครอยู่ข้างบนแจกไม่ได้ลงมา เอาคนอื่นขึ้นไปนั่ง พูดอย่างนี้จริงๆ ถ้าไม่มีปัญญาทำให้นายกฯได้ ลงมาคนอื่นมีเยอะแยะที่เขาทำได้ แล้วเงินมีเยอะครับประเทศไทย ตรงไหนติดขัดก็แก้ซะ ถ้าท่านไม่จัดการเรื่องดิจิทัลให้เรียบร้อย อย่าไปแจกใกล้ๆเลือกตั้งครับ อย่าว่าแต่หมื่นเลย สองหมื่นแจกได้ ถ้าไม่แจกเขามาแน่ครับ นายกฯเท้ง” นายชาดากล่าว “ไชยชนก” โอ่ ภท.ช่วยภัยพิบัติไม่เลือกสีนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรค ภท.อภิปรายว่า หลังอภิปรายรอบที่แล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.มาคุยกับตนด้วยใจที่เปิดกว้าง เล็งเห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น จากนั้นได้ขับเคลื่อนพรรค ภท.รับมือความไม่แน่นอน ส่งประกาศไปยังหน่วยงานภายใต้การดูแล เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ให้ทุกหน่วยงานระวังปีนี้ฝนมาเร็ว โดยเฉพาะ จ.อยุธยาคาดว่าปีนี้จะน้ำท่วมหนัก มาเร็วตั้งแต่เดือน มิ.ย. จากนั้นจะเกิดน้ำท่วมภาคอีสาน ภาคใต้ ปัญหาเหล่านี้พรรค ภท.จะอยู่เคียงข้างประชาชน ภัยพิบัติไม่มีเลือกข้าง ไม่มีสีแดง สีส้ม สีน้ำเงิน แต่ต้องรับมือ ขณะที่ภัยความมั่นคง เมื่อ 11 เดือนที่ผ่านมาค้นพบแร่แรร์เอิร์ธในประเทศไทย จะมีมูลค่าสูงขึ้นเวลาเกิดสงคราม เอาไปใช้ทำอาวุธ หากต้องการเจรจากับจีนหรือสหรัฐฯ แร่นี้คือคำตอบ แต่ต้องทำอย่างระวัง เพราะเราเลือกข้างไม่ได้แซะ “อิ๊งค์-พท.” ทำหน้าที่แล้วหรือยัง“สุดท้ายฝากกำลังใจไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ นักการเมืองเจนวาย ด้วยความเห็นใจที่วันนี้สังคมผูกการอยู่ในตำแหน่งนายกฯไปกับภัยพิบัติ เหรียญมี 2 ด้าน ท่านเลือกทางเดินเอง สิ่งที่เห็นไม่ใช่หายนะ แต่คือโชคชะตา ช่วงเกิดสึนามิ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ตระหนักถึงงบกลางต้องมีมากขึ้น ทำให้การบริหารประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีงบกลางมาก เยียวยาช่วยประชาชนน้ำท่วม ประวัติศาสตร์ถูกเขียนเป็นวีรสตรีไทย อยู่ที่จะเลือกทางไหน แต่ไม่ว่าเลือกทางใด ผม ท่านอนุทินและพรรค ภท.พูดด้วยความภาคภูมิใจ ได้ทำทุกอย่างภายใต้ความรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไทยและทำต่อไป คำถามเดียวที่จะฝากคือพวกเราทำแล้ว พวกท่านทำแล้วหรือยัง” นายไชยชนกกล่าวบลัฟแจก 2 หมื่นก็ยังได้ “นายกฯเท้ง”น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. อภิปรายว่า อภิปรายครั้งนี้ได้ยินคำว่ากาลเทศะบ่อยมาก งบมีน้อยต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด เตรียมรับมือสงครามการค้าและต้องระวังการทุจริต สงครามการค้ายังไม่แผ่วง่ายๆ ความไม่แน่นอนมีอยู่สูงมาก เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดคือเศรษฐกิจปีนี้โตสุดแค่ 1.3% ปีหน้าโต 1% แม้สงครามการค้าจะจบ เศรษฐกิจไทยใช่ว่าจะดี เคยเตือนให้เอาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 กลับไปแก้ไขแต่รัฐบาลไม่ทำ พอไม่ใช่ดิจิทัลวอลเล็ต งานไม่เดิน รัฐบาลบอกจัดงบกลางยืดหยุ่นแบบกระจาย แต่ไม่รู้ยืดหยุ่นอย่างไร คิดแต่ปล่อยผีให้โยกงบไปใช้ง่ายๆ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรค ภท.บอกให้แจกเงินหมื่น ไม่งั้นได้นายกฯเท้งแน่ๆ แต่ถ้าทำแบบนี้ ต่อให้แจกใกล้ช่วงเลือกตั้ง 20,000 บาทเลยก็ได้ ยังได้นายกฯเท้งเหมือนเดิม การจัดงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท กระทรวงมหาดไทยให้ อบต.10,000 โครงการ เป็นโครงการตู้กดน้ำสะอาดทุก อบต. กระตุ้นแบบไหนอย่านำ ปชน.เป็นตัวประกันศึก 2 พรรคน.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีโครงการกองทุนหมู่บ้านเอสเอ็มแอล กระจายไปยังหมู่บ้านต่างๆ 6,000 ล้านบาท ในปี 2568 ขณะนี้เหลืออีก 4 เดือน งบยังไม่ได้ใช้ แต่มีการตั้งบริษัทเตรียมรับงานกันแล้ว มีใบเสนอราคาพร้อมยื่น อำนวยความสะดวกสุด บางร้านเป็นของประธานกองทุนหมู่บ้าน สว. กระจายตัวอยู่แถวเชียงใหม่ ร้อยเอ็ด พิษณุโลก แพร่ น่าน นครสวรรค์ กำแพงเพชร ถ้าไม่ป้องกันไว้ เตรียมได้เลยมีหัวคิว 30% มาขอตั้งโครงการตู้กดน้ำดื่ม ไม่ตรงอะไรกับเอสเอ็มแอลเลย จัดงบแบบนี้ทำนายได้ ธ.ก.ส.เตรียมเงินได้เลย รัฐบาลมาเอาแน่ รัฐบาลบอกว่า งบรายจ่ายประจำปีต่ำสุดในรอบ 18 ปี แต่เป็นเพราะไปตัดงบรายจ่ายประจำลงให้ดูดี ทั้งงบรักษาพยาบาลตัด 10,000 ล้านบาท งบบำนาญข้าราชการ 51,000 ล้านบาท งบชำระดอกเบี้ย 65,000 ล้านบาท แล้วมาเคลมว่า รายจ่ายประจำดีขึ้น แล้วค่อยเอางบกลางมาโปะถือว่าควรดีใจหรือไม่ วันนี้ได้เรียนรู้การเมืองแห่งความเป็นจริง ไม่มีนายกฯยุบสภาตอนความนิยมย่ำแย่ ยกเว้นจะศึกภายในจากพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน แต่อย่าเอาพรรคประชาชนเป็นตัวประกัน ระหว่างท่านทั้งสอง โดยระหว่างนั้นมีเสียงโห่แสดงความไม่พอใจจาก สส.ในห้องแทรกขึ้นมาลงมติงบฯ 69 ผ่านฉลุยวาระแรกผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ สส.อภิปรายครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระที่ 1 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 ไม่ลงคะแนน 2 โดยตั้ง กมธ.วิสามัญฯขึ้นมาพิจารณาในวาระ 2 จำนวน 73 คน จากนั้นเวลา 16.10 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ กล่าวขอบคุณประธานสภาฯ สส.ที่ร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 หวังเป็นอย่างยิ่งงบฯที่ได้เสนอไปจะยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยทุกคนนายกฯให้คำมั่นใช้งบฯประโยชน์สูงสุด“รัฐบาลมุ่งมั่นและตั้งใจใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจคำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณเพื่อรองรับปัญหาเร่งด่วน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาตามแนวทางยุทธศาสตร์ของชาติ ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของทุกคน ขอฝาก กมธ.วิสามัญฯไปประกอบการพิจารณาต่อไป รัฐบาลจะทุ่มเทแรงกายแรงใจทำนโยบายทุกนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สำเร็จเป็นรูปธรรม ลดรายจ่ายประชาชน เพิ่มรายได้และขยายโอกาส ใช้เม็ดเงินงบฯให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน” นายกฯกล่าว“อิ๊งค์-หนู” กระซิบลับตอนระหว่างลงมติผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า ระหว่างการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 วาระแรก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. ได้เดินเข้าไปสวัสดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หัวหน้าพรรค พท. โดยนายอนุทินและ น.ส.แพทองธารนั่งเคียงข้างกันขณะลงมติ มีการพูดคุยกระซิบกันเป็นระยะๆแค่ 2 คน จนจบการประชุม หลังเกิดกระแสข่าวจะมีการปรับ ครม.หลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 วาระแรกเสร็จสิ้นลง สืบเนื่องจากที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาพูดส่งสัญญาณเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ทวงคืนกระทรวงมหาดไทยจากพรรค ภท.เพื่อผลักดันนโยบายต่างๆของรัฐบาลงูเห่า “กฤษฎิ์” ประเดิมโหวตสวนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนผลการลงคะแนนรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 ไม่ลงคะแนน 2 คะแนนรับหลักการ 322 เสียง พรรคร่วมรัฐบาลต่างลงคะแนนเห็นด้วยไปทางเดียวกัน โดยมี น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรค ปชน. งูเห่าที่เตรียมย้ายมาอยู่พรรคกล้าธรรมร่วมลงมติรับหลักการด้วย รวมถึงมีคะแนนเห็นชอบจากงูเห่าขาประจำ ได้แก่ นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี พรรค ทสท. นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร พรรค ทสท. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทสท. นางกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ส่วนคะแนนไม่รับหลักการ พรรคร่วมฝ่ายค้านลงมติไปทางเดียวกัน“ลุงป้อม–อาเหลิม” ไม่มาลงมติผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม มี สส.หลายคนไม่อยู่ร่วมลงมติ พรรค ปชน.อาทิ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ ติดภารกิจราชการต่างประเทศ น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ป่วยอยู่โรงพยาบาล ส่วนพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว นางขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว ไม่ได้มาร่วมลงมติ รวมถึงนายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี และนายอดิศร แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี พรรคทสท.ไม่ได้ร่วมลงมติเช่นกัน ส่วน สส.ฝั่งรัฐบาลที่ไม่มาลงมติ อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. นายอมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ พรรค พท. นายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรค ภท. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส นายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา พรรคประชาชาติทสท.วุ่นไม่เลิกแย่งเก้าอี้ กมธ.งบฯผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนให้แต่ละพรรคเสนอชื่อ สส.ในโควตาเป็น กมธ.วิสามัญฯได้เกิดปัญหาขึ้น เมื่อพรรคไทยสร้างไทยที่ได้โควตา กมธ.1 คนให้นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอชื่อนายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย เป็น กมธ.วิสามัญ แต่ระหว่างนั้นนางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร พรรคทสท. พูดแทรกเสนอชื่อนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทสท.เป็นโควตา กมธ.ในนามพรรค ทสท.เช่นกัน ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน.กล่าวว่า การเสนอชื่อนายชัชวาลเป็น กมธ.วิสามัญฯ มีหนังสือรับรองจากคณะกรรมการบริหารพรรค ทสท.อย่างถูกต้อง มีผู้รับรองถูกต้องด้วย แต่อีกฝ่ายไม่มีผู้รับรองการเสนอชื่อใส่ชื่อ“ฐากร” ใช้โควตาของ ครม.ด้านนายฐากร ชี้แจงว่าตามแนวทางปฏิบัติการเสนอชื่อคนเป็น กมธ.ต้องให้พรรคตนเองเสนอไม่ใช่พรรคอื่นเสนอ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่สามารถตกลงกันได้ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพานรองประธานสภาฯ ประธานการประชุม สั่งพักประชุม 5 นาทีให้ไปตกลงกัน หลังกลับมาประชุมใหม่ นางสุภาพรยอมถอนชื่อนายฐากร จากโควตา กมธ.พรรค ทสท. โดยนำชื่อนายฐากรสลับไปใส่เป็น กมธ.โควตาฝ่าย ครม.แทนนายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ สส.หนองบัวลำภู พรรค พท. โดยนัดประชุม กมธ.ครั้งแรกวันที่ 9 มิ.ย.“หนู” แจงไร้คุย “อิ๊งค์” ปม “ทักษิณ”ต่อมาเวลา 16.20 น. นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังร่วมลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 วาระแรกถึงการพูดคุยกับนายกฯในห้องประชุมรัฐสภาว่า มีการพูดคุยเพื่อที่จะลานายกฯไปประชุมที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณออกมาพูดว่ากระทรวงมหาดไทยยังทำงานไม่ดี จะขอกระทรวงคืน จะทำให้พรรค ภท.ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินไม่ตอบก่อนกล่าวว่า “พรุ่งนี้จะลงพื้นที่ จ.อ่างทอง เพื่อติดตามสถานการณ์ และการป้องกันน้ำท่วม” จากนั้นนายอนุทินเดินขึ้นรถ โดยผู้สื่อข่าวถามว่าจะตอบในประเด็นนี้หรือไม่ นายอนุทินตอบเพียงสั้นๆว่า “Have a good weekend” (มีวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดี)“พิชัย” ยันยังไม่มีสัญญาณปรับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ระบุกระทรวงพาณิชย์เป็น 1 ใน 4 กระทรวงที่จะดึงคะแนนเสียงให้กับพรรค พท.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่า ยอมรับว่ากระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงสำคัญ และยังคงต้องเป็นกระทรวงที่พรรค พท.ต้องดูแล ยอมรับว่าในช่วง 2 ปีก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง นอกจากเรื่องของการค้าระหว่างประเทศ การแก้ปัญหาปากท้องประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไข ส่วนการปรับ ครม.ยืนยันนายกฯยังไม่ได้มีการคุยนายกฯบอกถ้าปรับ ครม.จะคุยเองจากนั้นเวลา 17.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสสังคมจับจ้องประเด็นการปรับ ครม.หลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุกระทรวงมหาดไทยควรอยู่ที่พรรคพท.ว่า วันนี้ยังเหมือนเดิมไม่มีอะไร สมมติว่าถ้าจะต้องปรับหรืออะไรจริงๆ เป็นส่วนของพรรค พท.ที่เป็นรัฐมนตรี อย่างไรตนต้องคุยเองอยู่แล้ว มีกระแสออกไปหลายอย่างมาก ทำให้รัฐมนตรีทุกคนหวั่นไหว ท้อใจ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น พยายามสื่อสารในส่วนของพรรค พท.อยู่แล้วว่าถ้าจะอย่างไรเดี๋ยวจะคุยเอง เมื่อถามว่าขอให้พูดชัดๆการปรับ ครม.ได้หรือว่านายกฯก็เริ่มขยับแล้ว นายกฯกล่าวว่า มันไม่มีอะไรชัดเจน มันก็เลยพูดชัดๆไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ นี่คือสิ่งที่พูดออกตัวยังไม่ประเมินผลงาน มท.เมื่อถามว่าผลงานกระทรวงมหาดไทยไม่ดีจริงหรือไม่ในเวลา 2 ปีที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้เป็นความเห็นของนายทักษิณ แต่ตนยังไม่ประเมินอะไรแบบนั้น ก็เดี๋ยวรอดู เมื่อถามว่ามองการทำงานของนายอนุทินอย่างไร น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆแล้วเวลาที่มีอะไรยกหูหากันได้ นายอนุทินเวลายกหูหาหรืออะไรให้คำตอบและติดต่อกันได้ทุกครั้ง มีกระบวนการของกระทรวงมหาดไทยหรือทุกกระทรวงมีเรื่องที่ทำได้และไม่ได้ทุกกระทรวง แต่ว่าจะอย่างไรในอนาคตเดี๋ยวมาตอบกันอีกที เมื่อถามว่าปัจจัยหลักที่พรรค พท.จะดึงกระทรวงมหาดไทยมาดูคืออะไร นายกฯกล่าวว่า “ประเด็นคือดิฉันยังไม่ได้พูด ถ้าตรงนี้จะลงลึกอย่างไรให้ถามนายทักษิณ เพราะดิฉันไม่ได้ให้สัมภาษณ์ ให้สัมภาษณ์วันนี้ก็วันนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนเมื่อไหร่จะมารายงานบอก”สลับกระทรวงทุกอย่างเป็นไปได้เมื่อถามว่าในอนาคตการสลับกระทรวงมีความเป็นไปได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ อย่างที่พูดทุกเรื่องตอนเลือกตั้งทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ พูดคำเดิมทุกอย่างมันก็เป็นไปได้ และเป็นอะไรที่เราไม่ได้วาดหวังวาดคิดไว้ก็เป็นอย่างนั้นทุกครั้ง เพราะฉะนั้นครั้งนี้เช่นกันอะไรก็เกิดขึ้นได้ เมื่อถามอีกว่า ณ ขณะนี้รัฐบาลยังแข็งแรงเหมือนวันแรกหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เหมือนเดิม เมื่อสักครู่เพิ่งส่งไปในกรุ๊ปไลน์ ครม.ว่า ให้ขอบคุณทุกแรงโหวตเรื่องงบฯ ทุกคนจะได้ทำงานให้ประชาชนต่อ เพราะได้งบฯแล้ว นโยบายอะไรที่วางไว้จะได้ทำให้เต็มที่ เมื่อถามว่า มีการจับท่าทีของพรรค ภท.ว่าขัดกับรัฐบาลเช่นการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่บอกว่าให้ทำแต่อย่าไปทำใกล้เลือกตั้ง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “อ๋อที่ท่านพูดว่าจะให้เป็น 2 หมื่นแทนใช่หรือไม่ ก็ไม่ได้ขัดเสียทีเดียว บอกให้เพิ่มขึ้นแต่จริงๆงบมันไม่พอ มันต้องทำในส่วนอื่นก่อน”ลั่น “ทักษิณ” ครอบงำไม่ได้อยู่แล้วเมื่อถามว่าคำพูดของนายทักษิณทำให้บั่นทอนจิตใจพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ไม่นะคะ เมื่อสักครู่นั่งข้างๆกันหลายพรรค ไม่มีอะไร ไม่มีใครถามถึงเรื่องนี้เลย ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้เลย เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายทักษิณหรือไม่ ทำไมถึงพูดเช่นนี้ น.ส.แพทองธารตอบว่า คุยทุกวัน ถ้าเมื่อสักครู่ถ่ายภาพตอนตนคุยโทรศัพท์ก็ได้คุยกับคุณพ่อ เมื่อถามว่าได้ถามไปหรือไม่ทำไมถึงพูดลักษณะนี้ทำให้ตอนนี้ถูกจับตาว่าครอบงำอีกแล้ว น.ส.แพทองธารพูดเพียงแค่ว่า “อืม ค่ะ” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะโดนเรื่องครอบงำอีกหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “มันครอบงำยังไง จริงๆแล้วคนที่รู้สึกกระทบโดยคำพูดของท่านไม่ใช่แค่ในพรรค พท. คนไม่อยู่ในตำแหน่งการเมืองเลยรู้สึกกระทบกับคำพูดของท่าน อันนั้นถือว่าท่านครอบงำคนอื่นไหม แล้วแต่ว่าใครรู้สึกหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล เราจะให้เขาครอบงำหรือไม่ เราจะรู้สึกอย่างไร คิดว่ามันครอบงำไม่ได้หรอกค่ะ มันไม่ได้ แล้วแต่ว่าเราจะยอมให้เขาครอบงำหรือไม่ ไม่ใช่แค่ นายทักษิณ แต่หมายถึงใครก็ได้” เมื่อถามว่ายืนยันหรือไม่นายทักษิณไม่สามารถเข้ามาครอบงำได้ น.ส. แพทองธารตอบว่า “คุณทักษิณครอบงำไม่ได้อยู่แล้ว ค่ะ” เมื่อถามย้ำอีกว่าอย่างไรก็จะไม่มี “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ 2” ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “คุณทักษิณให้คำปรึกษา ลูกสาวของคุณทักษิณรับไว้ พิจารณา”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่