ผมเขียนฟันธงไปเมื่อ 21 เมษายน 2568 ว่า โครงการแจกเงินหมื่น Digital Wallet เฟส 3 กลุ่มวัยรุ่น 16–20 ปี ในไตรมาส 2 “อาจจะได้กินแห้วเสียแล้ว เพราะรัฐบาลถังแตก ไม่มีเงินแจกแล้ว แม้จะตั้งสำรอง 130,000–140,000 ล้านบาทไว้ในงบปี 2568 ก็ตาม แต่วันนี้เศรษฐกิจไทยกำลังเจอวิกฤติหนัก จำเป็นต้องใช้เงินทุกบาทให้คุ้มค่า ต้องช่วยเหลือผู้ส่งออกและเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบหนัก ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยยังดันทุรังเอาเงินภาษีที่มีจำกัด ไปแจกอีลุ่ยฉุ่ยแฉกเพื่อหาเสียงล่วงหน้าอีก รัฐบาลชุดนี้จะอยู่ยาก หรืออยู่ไม่ได้แน่นอน ประชาชนคงทนรับไม่ได้แน่นอน” ส่วน การแจกเงินหมื่นเฟส 4 กลุ่มอายุ 21–59 ปี 38 ล้านคนในไตรมาส 3 ผมก็ฟันธงไปว่า ให้ลืมไปได้เลย รัฐบาลไม่มีเงินแจกแน่นอนเมื่อบทความนี้พิมพ์ออกไป รัฐบาลก็ดาหน้าออกมาแถลงตอบโต้ผมทันที ว่า ไม่จริงและยืนยันว่าจะแจกเงินหมื่นเฟส 3 แน่นอนภายในเดือนมิถุนายนนี้วันนี้รัฐบาลหน้าแตกกันเป็นแถว แต่ก็ยังเอาสีข้างเข้าถูแบบ ข้างๆคูๆ การประชุม คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 2 เมื่อ 19 พ.ค. มี นายกฯแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธาน ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เข้าร่วมประชุมด้วย ที่ประชุมมีมติให้ทบทวนงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท (ในงบปี 68) หลังการประชุม นายกฯแพทองธาร แถลงสั้นๆยอมรับว่า โครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตต้องมีการทบทวน และ คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง แถลงรายละเอียดว่า จะนำงบ 1.57 แสนล้านบาทไปแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ระบบคมนาคม รถไฟความเร็วสูง การท่องเที่ยว รวมทั้งปัญหาเฉพาะหน้าของเอสเอ็มอี ส่วน โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตขอชะลอไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะเหมาะสม20 พ.ค. ครม.เห็นชอบให้เลื่อนการแจกเงินหมื่นในโครงการ Digital Wallet ที่เหลือออกไปไม่มีกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอหลังการประชุม ครม. นายกฯแพทองธาร ได้แถลงเรื่องนี้อีกครั้งโดยอ้างว่า ได้รับฟังข้อเสนอแนะจากหลายภาคส่วน ทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒน์ ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก เมื่อรับฟังแล้วจึงจำเป็นต้องปรับนโยบายเศรษฐกิจ เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตในระยะยาว ประชาชนฟังนายกฯแถลงแล้วก็อึ้ง ถ้านายกฯความจำไม่สั้นเกินไปคงจะจำได้ ก่อนหน้านี้ผู้ว่าการแบงก์ชาติถึงกับทำจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลเลยทีเดียว เพื่อขอให้เลิกโครงการแจกเงินหมื่น แต่รัฐบาล ไม่รับฟัง มิหนำซ้ำรัฐมนตรีเพื่อไทยและพรรคเพื่อไทยยังระดมกันออกมาโจมตีผู้ว่าการแบงก์ชาติกันวันละสามเวลา วันนี้ไปไม่รอดจริงๆ ก็มาอ้างแบงก์ชาติ แล้วจะให้คนเชื่อถือผู้นำรัฐบาลได้อย่างไรแม้ รัฐบาลจะยกเลิกการแจกเงิน Digital Wallet ไปแล้ว แต่ไม่ยอมบอกว่ายกเลิก ใช้คำว่า “ชะลอ” เพื่อสร้างความหวังลมๆ แล้งๆให้กับประชาชนอีกหลายสิบล้านคนที่ยังไม่ได้รับแจกเมื่อนักข่าวถามว่า รัฐบาลใช้คำว่า “ชะลอ” เพราะไม่กล้าพูดว่า “ยกเลิก” เกรงจะกระทบฐานเสียงใช่หรือไม่ นายกฯแพทองธาร ตอบว่า ตอนนี้มีปัญหาที่เข้ามาแทรก เพราะฉะนั้นเงินก้อนนี้เกิดประโยชน์สูงสุดที่ตรงไหน เราจะเน้นที่ตรงนั้นมากกว่า ที่ไม่บอกว่า “ยกเลิก” หากเรากลับมาทำอีกในสถานการณ์ที่ดีขึ้นและเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว การกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบนี้จะได้ผลมากที่สุด วันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นได้เมื่อไหร่ ปีหน้าปีโน้นหรืออีกกี่ปี ถ้ายังมีรัฐบาลแบบนี้ แต่ถ้าถามผมก็ฟันธงไว้ตรงนี้ได้เลยว่า 2 ปีจากนี้จนถึงวันเลือกตั้งทั่วไปไม่ได้แจกแน่นอนสภาพัฒน์ เพิ่งแถลงจีดีพีไตรมาสแรกเติบโต 3.1% แต่ไม่กล้าคาดการณ์จีดีพีไตรมาส 2–3–4 จะเติบโตหรือติดลบ บอกแต่เพียงว่า จีดีพีปีนี้ทั้งปีจะโตแค่ 1.8% ให้เดากันเอาเองถ้า ใครอยากรู้อนาคต ก็ต้องไปดูข้อมูล IMF เพิ่งหั่นจีดีพีโลกปีนี้ลงมาเหลือ 2.8% ปีหน้าเหลือ 2.9% และ หั่นจีดีพีประเทศไทยปีนี้ลงมาเหลือ 1.8% เท่าสภาพัฒน์ ปีหน้า 2569 เหลือ 1.6% แย่กว่าปีนี้อีก งบประมาณยังต้องกู้มาใช้ รัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนไปแจก.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม