ในบรรดานักร้องขาประจำที่ขยันยื่นคำร้องกันระเบิด เถิดเทิงมีนักร้องเสียงทอง 2 คน ที่จะเป็นคู่ชิงดำคว้ารางวัลแชมป์นักร้องยอดเยี่ยมแห่งปีคนแรกคือ นายณฐพร โตประยูร เพิ่งยื่นคำร้อง กกต.ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน สว.สีนํ้าเงิน 138 คน และยื่นคำร้อง กกต.ให้ยุบพรรคภูมิใจไทยกรณีฮั้วเลือกตั้ง สว.คนที่ 2 คือ นายสนธิญา สวัสดี เพิ่งยื่นคำร้อง กกต.ให้เช็กบิลพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศเลื่อนการแจกเงินดิจิทัล หนึ่งหมื่นบาท ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาคำร้องของนายณฐพร หรือคำร้องของนายสนธิญา คำร้องของใครจะเข้าป้ายก่อนกัน??ยังต้องตามลุ้นตามเชียร์กันอีกหลายเดือนแต่วันนี้ “แม่ลูกจันทร์” ขอโฟกัสคำร้องของ “นายสนธิญา” ประเด็นรัฐบาลล้มนโยบายแจกเงินดิจิทัลหนึ่งหมื่นบาท ให้ศาลรัฐธรรมนูญจัดหนักรัฐบาลนายกฯแพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยนายสนธิญาขยี้ประเด็นว่าพรรคเพื่อไทยได้ตีปี๊บหาเสียงเลือกตั้งว่า หากเป็นรัฐบาลจะลุยแจกเงินดิจิทัลภายใน 90 วันบัดนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมาแล้ว 1 ปี 8 เดือน 22 วันแต่นโยบายเงินดิจิทัลที่รัฐบาลหาเสียงไว้กลับถูกยกเลิกกลางคันทำให้ประชาชนอายุ 16 ปีถึง60 ปี ที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์กว่า 17 ล้านคน ไม่ได้รับแจกเงินหมื่นบาทตามที่รัฐบาลให้สัญญาการกระทำของพรรคเพื่อไทย จึงเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน??และฝ่าฝืนมาตรา 258 ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดว่าพรรคการเมืองต้องวิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่า และความเสี่ยงอย่างครบถ้วนก่อนประกาศนโยบายต่อประชาชน“แม่ลูกจันทร์” มองว่าถ้าจะมัดตราสังรัฐบาลต้องอ้างรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ที่กำหนดว่าการบริหารราชการแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีต้องดำเนินการตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้ต่อรัฐสภา!!แต่ประเด็นที่ต้องพิสูจน์ต่อไปคือ นายกฯแพทองธาร ได้แถลงนโยบายแจกเงินดิจิทัลต่อรัฐสภาจริงหรือไม่??“แม่ลูกจันทร์” ยืนยันว่า นายกฯแพทองธาร ได้แถลงนโยบายแจกเงินดิจิทัลต่อรัฐสภา เป็นนโยบายเร่งด่วนลำดับ 5 เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567“รัฐบาลจะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นอันดับแรก และรัฐบาลจะผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้เกิดขึ้นโดยเร็ว”คำร้องของนายสนธิญาจึงยิงเข้าเป้าเต็มเปา!!แต่...แต่ประเด็นที่พรรคเพื่อไทยอาจดิ้นหลุดคือ นโยบายแจกเงินดิจิทัลยังไม่ได้ถูกยกเลิกกลางคันเพียงแต่ “ชะลอ” การแจกเงินไว้ก่อนชั่วคราวโดยรัฐบาลได้แจกเงินหมื่นบาท (ตามที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา) ไปแล้ว 2 เฟสคือเฟสที่ 1 แจกเงินให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนและเฟสที่ 2 แจกเงินให้ผู้สูงอายุอีก 4 ล้านคนข้อสำคัญ รัฐบาลยังบริหารงานไม่ครบเทอม 4 ปีและนโยบายเงินดิจิทัลก็ยังไม่ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการดังนั้น การแจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท สำหรับเฟส 3 และเฟส 4 ย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา...ภายในอายุรัฐบาลนี้ซึ่งยังเหลืออีก 2 ปีถ้าจะเช็กบิลประเด็นนี้ ต้องรออีก 2 ปีนะโยม.แม่ลูกจันทร์คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม