ท่ามกลางความยากจนที่แผ่ซ่าน หนี้ครัวเรือนคนไทยยังสูงลิ่วเกือบ 90% ของจีดีพี วิกฤติการส่งออกจากภาษีสหรัฐฯ แต่ สส. สว. ยังไม่สำเหนียกใช้เงินภาษีของประชาชนกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลินเจริญใจ ถึงขนาดสร้างห้องฉายหนัง 4D กันเลยเชียว ถ้าสร้างเสร็จ จะเป็นรัฐสภาเดียวในโลกที่มีห้องฉายหนัง 4D ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับการออกกฎหมาย เมื่อวานนี้เนื้อที่หมดเสียก่อน วันนี้มาร่ายยาวกันต่อถึงการใช้เงินภาษีประชาชนอย่างล้างผลาญของสมาชิกรัฐสภาไทย อาคารรัฐสภาใหม่มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 424,000 ตารางเมตร ทั้งที่มีสมาชิกแค่ 700 คน สส. 500 คน สว. 200 คน ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “อาคารรัฐสภาที่ใหญ่ที่สุดในโลก” และ “อาคารของรัฐที่มีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก” รองจาก “เพนตากอน” อาคารกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ซึ่งมีพื้นที่ 600,000 ตารางเมตรถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจน ก็ต้องเปรียบเทียบกับห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของไทย คือ ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ซึ่งมีพื้นที่ กว่า 400,000 ตารางเมตร แต่สยามพารากอนสร้างขึ้นมา รองรับลูกค้าวันละ 150,000–200,000 คน วันหยุดวันสุดสัปดาห์อาจมากกว่านี้ แต่อาคารรัฐสภา เป็นที่ทำงานของ สส. สว. 700 คน รวมเจ้าหน้าที่รัฐสภาก็แค่พันกว่าคนท่านผู้อ่านลองจินตนาการดูนะครับ พื้นที่รัฐสภา 424,000 ตารางเมตร ต้องใช้งบประมาณดูแลรักษาปีละเท่าไหร่ ค่าไฟฟ้าอย่างเดียวก็อ่วมแล้ว ดร.นันทนา นันทวโรภาส สว.ตัวตึง โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า “ปล้นกลางแดดภาค 2” รัฐสภาสองหมื่นล้าน สี่แสนตารางเมตร 120 ไร่ เปิดใช้งานมา 4 ปี มีแต่รอยรั่วชำรุด เมื่อฝนมาน้ำจะนองสภา ฝ้าถล่ม สระมรกตน้ำเน่า หนูตาย ปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขใดๆเลย อยู่ๆก็จะมาของบเพิ่ม...เอาภาษีประชาชนมาละเลงกันแบบไม่เห็นหัวประชาชนเลยหรือ ในฐานะ สว.ที่นั่งทำงานในรัฐสภาแห่งนี้มา 10 เดือน ได้พบเห็นความบกพร่องมากกว่าสิ่งที่สื่อมวลชนรายงาน อาคารยังอยู่ในระยะประกันของผู้รับเหมา ก็ต้องให้ผู้รับเหมามารับผิดชอบในการซ่อมแซม ไม่ควรเสนองบประมาณเพิ่มเติมใด...หนึ่งในงบที่รัฐสภาขอเพิ่ม ครม.ก็อนุมัติคือ งบปรับปรุงพื้นที่ครัวอาคาร รัฐสภา 117 ล้านบาท วันนี้ผมเลยเอา “งบค่าอาหาร สส.” มาให้ดูกัน กินทิ้งกินขว้างยังไม่พอ สส.ผู้ทรงเกียรติยังหิ้วกลับไปกินที่บ้านอีกด้วยเรื่องนี้เคยเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมาแล้ว สส.หิ้วข้าวของสภากลับไปกินที่บ้านได้ไหม เรื่องนี้ คุณพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาล รอง ประธานสภาคนที่ 2 ได้ตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนฯว่า “ทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม บ่อยครั้งที่ข้าวของสภาที่เลี้ยงรับรอง สส. ในวันประชุมเหลือ ต้องขอไปแจก ไปบริจาค แต่ก็ทำไม่ทันจนเน่า หลังๆจึงปันให้ข้าราชการ แม่บ้าน รวมถึงให้ สส.นำไปให้ทีมงานได้รับประทาน” เห็นไหมครับว่า สส.เมืองไทยใช้เงินภาษีประชาชนล้างผลาญกันขนาดไหน ขณะที่คนจนอีกมากในประเทศไม่มีข้าวจะกินเมื่อไปดู งบค่าอาหาร สส. 500 คน (ไม่รวมงบอาหารของ สว.) จะยิ่งเจ็บปวดปี 2566 จัดสรรงบ 72,031,000 บาท ปี 2565 จัดสรรงบ 87,880,000 บาท ปี 2564 จัดสรรงบ 87,880,000 บาท ปี 2563 จัดสรรงบ 96,928,000 บาท ค่าอาหาร สส.นี้คิดเฉพาะวันประชุม ซึ่งมีการประชุมสัปดาห์ละ 2 วัน ปีละ 2 สมัย สมัยละ 120 วัน หรือ 4 เดือน เฉลี่ยคร่าวๆประชุมปีละ 32 วัน นอกจากค่าอาหาร สส.ในวันประชุมแล้ว ยังมีงบค่าอาหารสำหรับกรรมาธิการสามัญ และ วิปฝ่ายค้าน เพิ่มอีกต่างหาก ปี 2563–2566 งบค่าอาหารของกรรมาธิการชุดต่างๆได้รับการจัดสรรปีละ 34,846,100 บาท เท่ากันทุกปี รวมแล้ว ค่าอาหาร สส.บวกกรรมาธิการตกปีละกว่า 106–131 ล้านบาท โอ้แม่เจ้า จะรับประทานอะไรกันมากมายขนาดนั้น ไม่พุงแตกตายกันบ้างหรือไรถ้ารวม งบค่าอาหารของ สว. 200 คน กรรมาธิการ สว. เข้าไปด้วยจะมากกว่านี้สส. สว.แต่ละคนยังมีสิทธิ แต่งตั้งผู้ช่วย สส. สว.ได้อีกคนละ 8 คน มีงบเงินเดือนให้เดือนละ 154,800 บาท (เงินเดือนใหม่เริ่ม 1 ต.ค.69) ถ้า สส. สว. 700 คน ตั้งผู้ช่วยครบ จะใช้งบเพิ่มอีกเดือนละ 108.36 ล้านบาท ปีละ 1,300.32 ล้านบาท ล้างผลาญกันสนุกสนาน ถึงเวลาที่คนไทยต้องลุกขึ้นมาปฏิรูปรัฐสภาแบบนี้กันหรือยัง?“ลม เปลี่ยนทิศ”