วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “สงครามเงินดอลลาร์กับหยวนจีน” กันนะครับ ร้อนแรงไม่แพ้สงครามภาษีการค้าสหรัฐฯกับจีน ตี 3 ของวันที่ 21 เมษายน 2568 เวลาที่วอลล์สตรีทสหรัฐฯ ระบบเคลียริ่งของธนาคารสวิสได้ส่งสัญญาณสีแดงเตือนขึ้นมา ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคารของจีน (China’s Cross–Border Interbank Payment System–CIPS 2.0) ได้เปิดใช้งานพร้อมกันใน 16 ประเทศเชื่อมจีน อาเซียน และ ตะวันออกกลาง ธุรกรรมแรกที่โอนผ่านระบบ CIPS 2.0 คือ การชำระค่าอะไหล่รถยนต์ 120 ล้านหยวน (16.5 ล้านดอลลาร์) จาก เมืองเสิ่นเจิ้น ของจีนไปยัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย โดยใช้เวลาในการโอนเงินเพียง 7.2 วินาทีเท่านั้น เร็วกว่าระบบโอนเงิน SWIFT ของสหรัฐฯ ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 3 วัน ไม่รู้กี่หมื่นเท่านี่คือหนึ่งในเทคโนโลยีจีนที่ทำให้สหรัฐฯกลัว ระบบโอนเงิน CIPS 2.0 ของจีนมีคุณสมบัติเหนือกว่า SWIFT ของสหรัฐฯมากมาย ทั้ง ความเร็วในการโอนเงินที่เร็วกว่า ค่าธรรมเนียมการโอนที่ถูกกว่า ที่เหลือเชื่อก็คือ CIPS 2.0 สามารถโอนเงินได้แม้ไม่มีอินเตอร์เน็ตCIPS 2.0 เป็นเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย Digital Yuan (e–CNY) ที่จะเข้ามาลดทอนการผูกขาดของระบบโอนเงิน SWIFT ของสหรัฐฯ Eric Yeung นักวิเคราะห์การเงิน ให้ความเห็นว่า นี่คือ “สงครามการเงินที่ไม่เสียเลือดเนื้อ” จุดเด่นของ CIPS 2.0 มี 3 ประการ 1)ช่วยลดต้นทุนการโอนเงินข้ามพรมแดน เช่น การโอนเงิน 100,000 ดอลลาร์ ระหว่างประเทศต่างๆ ถ้าใช้ระบบ SWIFT ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนสูงถึง 4.95% หรือ 4,950 ดอลลาร์ ประมาณ 165,800 บาท และใช้เวลานานถึง 3 วัน แต่ถ้าโอนผ่าน ระบบ CIPS 2.0 ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 0.12 ดอลลาร์ ประมาณ 4 บาทเท่านั้น ใช้เวลาโอนเพียง 7.2 วินาที ต่างกันลิบโลก ทำให้ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯกลายเป็นเทคโนโลยีล้าหลังไปทันที2)เทคโนโลยี CIPS 2.0 ที่เหนือกว่า SWIFT นอกจากความเร็วแล้ว จากการทดสอบการโอนเงิน “ดิจิทัลหยวน” ของ ธนาคาร DBS สิงคโปร์ โดยใช้ระบบ “offline payment” ปรากฏว่า CIPS 2.0 สามารถโอนเงินได้โดยไม่ต้องเข้าอินเตอร์เน็ต ยิ่งกว่านั้น เมื่อใช้เทคโนโลยี Smart Contact (การกำหนดขั้นตอนทำธุรกรรมอัตโนมัติล่วงหน้าโดยไม่ต้องอาศัยคนกลาง) CIPS 2.0 สามารถโอนเงินให้โดยอัตโนมัติเมื่อสินค้าไปถึงท่าเรือปลายทาง 3)มีกรณีตัวอย่างจากธนาคารกลาง UAE ได้ทดลอง ใช้ระบบ CIPS 2.0 ตรวจจับการฟอกเงินผิดกฎหมายที่โอนเงินผ่านบัญชีถึง 16 บัญชี โดย AI ของระบบสามารถตรวจจับได้ในเวลา 0.3 วินาที ป้องกันการฟอกเงินได้ ในขณะที่ ระบบ SWIFT ต้องใช้คนในการช่วยสกรีนถึง 85% ซึ่งช้ามากอีริค เย็ง ระบุด้วยว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนกำลังเตรียมพิมพ์เขียวใช้เงิน Digital Yuan ในการชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างกันสูงถึง 90% ในปี 2025 และอินโดนีเซียได้ใช้เงินสกุลดิจิทัลหยวนเป็นหนึ่งในสกุลเงินทุนสำรองของประเทศด้วย ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่า Saudi Aramco บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย ได้ขายน้ำมันดิบให้กับ Sinopec บริษัท น้ำมันยักษ์ใหญ่จีน โดยโค้ดราคาเป็นเงินดิจิทัลหยวนถึง 65%โจเซฟ สติกลิทซ์ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ได้พูดถึง เงินดิจิทัลหยวน ว่า คงไม่ง่ายที่จะแทนที่ดอลลาร์ แต่จะช่วยสร้าง “คำจำกัดความใหม่ของอารยธรรมทางการเงิน” และเปลี่ยน ระบบชำระเงินข้ามพรมแดน จาก “บริการพิเศษเฉพาะกลุ่มคนร่ำรวย” ไปสู่ “บริการสำหรับทุกคน”ธนาคารกลางจีน เปิดตัว ระบบโอน CIPS ครั้งแรกปี 2015 ปี 2023 CIPS มีการโอนเงินกว่า 6.6 ล้านครั้ง มูลค่ากว่า 17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปี 2024 CIPS มีลูกค้า 168 ราย และทางอ้อมอีก 1,461 ราย จากเอเชีย ยุโรป แอฟริกา อเมริกาเหนือ วันนี้จีนเปิดตัวระบบโอนเงินรุ่นใหม่ CIPS 2.0 ซึ่งเร็วกว่าเดิม ปลอดภัยกว่าเดิม ดีกว่าระบบ SWIFT ของสหรัฐฯ จะทำให้เงินหยวนขึ้นมาทาบรัศมีดอลลาร์ได้ไม่ยากในอนาคต ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน คือสิ่งที่สหรัฐฯกลัว แต่ยิ่งกลัวดูเหมือนจะยิ่งแพ้.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม