เกมเปลี่ยนอีกแล้ว สหรัฐฯเลื่อนคุยภาษีกับไทยจาก 23 เม.ย. ออกไปไม่มีกำหนด แม้ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะแถลงยอมรับหลังการประชุม ครม. แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดอะไร ให้รอการแถลงจาก คุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรัฐมนตรีคลัง ข่าวสหรัฐฯเลื่อนนัดเจรจากับไทยมีมาตั้งแต่ 17 เม.ย. วันที่ รองนายกฯ พิชัย มีกำหนดเดินทางไปสหรัฐฯแล้วเพิ่งมาเป็นข่าววันจันทร์ เมื่อรองนายกฯพิชัยไม่ได้เดินทางตามกำหนด แต่ก็ได้ส่งทีมทำงานเดินทางล่วงหน้าไปประจำการที่สถานทูตไทยในสหรัฐฯแล้วรองนายกฯพิชัย แถลงต่อมาว่า แม้ทีมเจรจาจะเลื่อนการเจรจาออกไป แต่ยังคงอยู่ในกรอบ 90 วัน ไทยยังมีเวลาในการศึกษาข้อมูลให้รอบคอบคุณพิชัย บอกว่า เราขออย่าให้เร็วกว่าคนอื่น และอย่าช้ากว่าคนอื่น เร็วไปก็ไม่ดี ถ้าช้ากว่าคนอื่นก็ไม่ดี เหมาะสมที่สุดคือดูก่อนว่าหัวขบวนเขาโดนอะไรบ้าง กลางขบวนโดนอะไรบ้าง เราอยู่กลางๆเกือบท้ายจะได้รู้ว่าควรจะทำอย่างไร เวลาที่เหลืออีก 70 วัน เชื่อว่าทุกคนร้อนใจ จึงแบ่งการทำงานออกเป็นสองส่วนในระดับปฏิบัติการ ส่วนที่อยู่ในสหรัฐฯ นำโดย เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐฯ ร่วมกับทีมจากประเทศไทย ประสานกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน นอกเหนือจากข้อเสนอจากฝ่ายไทย ส่วนการทำงานในประเทศจะเป็นระดับบริหาร เรื่องการเงินต้องหารือกับแบงก์ชาติและสถาบันการเงิน เรื่องการฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบที่เกิดจากการส่งออก ต้องหารือกับสภาพัฒน์ที่ผมเป็นห่วงคือ คุณมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศ จะเข้าสหรัฐฯไปร่วมทีมเจรจาได้หรือไม่ เพราะ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งอุยกูร์ 40 คน ให้จีนเมื่อเร็วๆนี้ล่าสุด อังคาร 22 เม.ย. ไทยโดนสหรัฐฯขึ้นภาษีอีกดอก เมื่อเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯสรุปผลสอบ “โซลาร์เซลล์” ที่จีนมาตั้งโรงงานผลิตในไทย แล้วส่งออกไปสหรัฐฯในนามประเทศไทย โซลาร์เซลล์จีนที่ผลิตในไทยยี่ห้อ Trina Solar ถูกสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 375.19% ขณะที่ โซลาร์เซลล์จีนที่ผลิตในมาเลเซียถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่ม 41.56% และ โซลาร์เซลล์จีนที่ผลิตในกัมพูชาถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มสูงถึง 3,500% ซึ่ง คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศสหรัฐฯ จะมีการพิจารณาลงมติในเดือนมิถุนายนนี้ผมไม่แน่ใจ แต่เชื่อว่า โซลาร์เซลล์จีนที่ผลิตในไทยน่าจะได้รับ BOI ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ 5-8 ปี ถ้าจริงก็ยิ่งเจ็บใจเป็นร้อยเท่า ไทยไม่ได้ภาษีแล้วยังต้องเป็นผู้ร้ายในสายตาสหรัฐฯอีก นี่คือผลพวงจาก รัฐบาล คสช. ต่อมาถึง รัฐบาลเพื่อไทย ที่พยายาม ใช้ตัวเลข BOI มาเป็นผลงานรัฐบาล ทำให้เกิดอุตสาหกรรมจีนเทามากมาย สร้างความเสียหายในระยะยาวผมเห็นด้วยกับ รองนายกฯพิชัย ที่คิดจะให้มีการ ฟื้นฟูเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออก แต่ต้องไม่ใช่สินค้าจีนที่นำเข้ามาสวมชื่อประเทศไทย และโรงงานจีนที่เข้ามาผลิตในไทยเพื่อส่งออกไปสหรัฐฯนะครับ อย่าเสียค่าโง่หลายต่อ รัฐบาลต้องเร่งจัดหางบประมาณมาช่วยผู้ส่งออกไทยซึ่งได้รับผลกระทบแล้ว เช่น ผู้ส่งออกไทยที่เป็นเอสเอ็มอีขนาดกลาง ขนาดเล็ก และ ชาวนาที่ปลูกข้าวหอมมะลิ ซึ่งถูกเก็บภาษี 36% ด้วยผมอยากให้รัฐบาลไทยใช้โมเดล รัฐบาลเกาหลีใต้ เป็นตัวอย่างทันทีที่ สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ 25% รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศจัดสรรงบ 3 ล้านล้านวอน ราว 70,000 ล้านบาท ช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ทันที เพราะรถยนต์เกาหลีใต้ส่งไปขายสหรัฐฯปีละ 34,700 ล้านดอลลาร์ รัฐบาลเกาหลีใต้ยังร่วมมือกับ สถาบันการเงิน กองทุนค้ำประกันสินเชื่อ ตั้งวงเงินอีก 1 ล้านล้านวอน ให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์กู้ยืม เรียกว่า ช่วยกันแบบครบวงจร โดยไม่ต้องรอให้วิ่งเต้นกันอีกแบบไทยๆ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม