รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ รวมทั้งฉบับปัจจุบัน พ.ศ.2560 ในหมวด 4 หน้าที่ของปวงชนชาวไทยมาตรา 50 (5) บัญญัติให้บุคคลมีหน้าที่รับราชการทหารตามที่กฎหมายบัญญัติ ทำให้กองทัพมีอำนาจเรียกเกณฑ์กำลังพลเข้ารับราชการทหารกองประจำการ หรือเกณฑ์ทหาร ตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497ขณะที่พรรคการเมืองหลายพรรคชูนโยบายหาเสียงปฏิรูปกองทัพ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร แต่ยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กองทัพจึงยังคงมีอำนาจเรียกเกณฑ์กำลังพล เพื่อภารกิจป้องกันประเทศ เมื่อวันที่ 1–12 เม.ย.ที่ผ่านมา กองทัพบกได้จัดตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการทีมโฆษกกองทัพบกได้สรุปภาพรวมการเกณฑ์ทหารปีนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะทหารกองเกินที่รับการตรวจเลือกทหารตามกฎหมายในฐานะชายไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ที่เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส และยุติธรรมสำหรับสถิติการตรวจเลือกทหาร ปี 2568 ทั่วประเทศมีทหารกองเกินเข้ารับการตรวจเลือก 429,175 คน ในส่วนกองทัพบกมียอดความต้องการทหารกองประจำการ 68,166 นาย มีผู้สมัครใจเข้ารับราชการ 19,981 นาย เมื่อรวมกับทหารกองประจำการที่เลื่อนปลดประจำการ 5,207 นาย และผู้สมัครผ่านทางออนไลน์ 14,201 นายทำให้มียอดผู้สมัครใจเข้าประจำ การ รวมทั้งสิ้นจำนวน 39,389 นาย คิดเป็นร้อยละ 57.78 ของยอดความต้องการจำนวนทหารกองประจำการของกองทัพบกในปีนี้ สะท้อนถึงความตระหนักในบทบาทหน้าที่ การมีส่วนร่วมในการปกป้องประเทศชาติ และความสนใจของชายไทยในการพัฒนาตนเองต่อยอดสู่อาชีพทหารในอนาคต กองทัพบกขอขอบคุณทหารกองเกินทุกคนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ชายไทยอย่างสมบูรณ์ ด้วยความสมัครใจ และมีวินัยในการเข้ารับการตรวจเลือก พร้อมขอให้เชื่อมั่นว่าทหารกองประจำการทุกนายจะได้รับการฝึกอบรมและการดูแลตามมาตรฐานอย่างเข้มข้น ปลอดภัย และได้รับการปฏิบัติอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรีในฐานะทหารของชาติ เมื่อดูจากสถิติที่มีผู้สมัครใจเข้ามาเป็นทหารกองประจำการของกองทัพบก เกือบ 4 หมื่นนาย จากจำนวนที่ต้องการ 6.8 หมื่นนาย สะท้อนว่ามีคนอยากเป็นทหารจำนวนมาก ดังนั้นกองทัพจึงต้องกำชับเรื่องการฝึกทหารใหม่ ห้ามใช้ความรุนแรง หรือซ้อม ทรมาน อย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี จูงใจให้มีผู้สมัครเป็นทหารมากยิ่งขึ้นทุกปี.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม